ผู้จัดการรายวัน - รมว.คลังจี้บอรด์ทหารไทยถกปรับเปลี่ยนตำแหน่งเอ็มดีหลังการเพิ่มทุนเรียบร้อย ระบุเพื่อให้โครงสร้างผู้บริหารแข็งแกร่งและสามารถแข่งขันได้ ขณะที่เอสแอนด์พีปรับลดอันดับเครดิตไฮบริดบอนด์หลังประกาศไม่จ่ายดอกเบี้ย พร้อมจับตาหนี้เอ็นพีแอลหวั่นมีสัญญาณเพิ่ม
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว มีเม็ดเงินเข้ามาทั้งสิ้น 37,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังอยู่ที่ 26.1% ธนาคารไอ เอ็น จี เอ็น. วี. (เนเธอร์แลนด์) 25.2% และธนาคารดีบีเอสของสิงค์โปร์ จำนวน 6.8% ซึ่งสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปคือการหารือด้านโครงสร้างการบริหารยังไม่ได้หารือ โดยที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร รวมถึงพิจารณาตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของนายสุภัค ศิวะรักษ์ และตำแหน่งคณะกรรมการธนาคารอื่นๆด้วย เพื่อให้โครงสร้างผู้บริหารทำให้ธนาคารเข้มแข็ง สามารถแข่งขันในธุรกิจได้ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
"การบริหารงานของธนาคารจากนี้ไป ต้องไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะการเพิ่มทุนดังกล่าวต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งผู้บริหารธนาคารจะต้องทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าธนาคารจะเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้"นายฉลองภพกล่าาว
S&Pลดเครดิตไฮบริดบอนด์
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในวันนี้ว่า เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 หรือไฮบริดบอนด์วงเงิน 200 ล้านดอลลาร์ของธนาคารทหารไทยลงสู่ "D" จาก "CC" หลังธนาคารทหารไทยแจ้งว่า ทางธนาคารจะไม่จ่ายดอกเบี้ยตราสารดังกล่าว
แม้ว่าตามเงื่อนไขของไฮบริดบอนด์นั้น ธนาคารทหารไทยไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ย หากธนาคารคาดว่าจะไม่มีการประกาศผลกำไรสุทธิในงบการเงินในช่วง 6 เดือนหรือปีงบการเงินก่อนหน้าวันครบกำหนดการจ่ายดอกเบี้ย
อนึ่ง รายงานยอดขาดทุนสุทธิ 2.06 หมื่นล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2550 และคาดว่าจะกันสำรองใหม่ 2.6 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2550 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2550
โดยอันดับความน่าเชื่อถือในปัจจุบันสะท้อนถึงสถานะด้านตลาดและเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งของธนาคารทหารไทย, ฐานะการเงินที่อ่อนแอและความท้าทายต่างๆที่ธนาคารจะเผชิญในการจัดการกับหนี้คงค้างที่มีปัญหา โดยแนวโน้มการจัดอันดับยังคงอยู่ในเชิงลบ
อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารทหารไทยได้ทำการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด 25,000 ล้านหุ้น แต่เอสแอนด์พีจะยังคงจับตาฐานะการเงินของธนาคารซึ่งคาดว่าจะถดถอยลงอย่างมาก และคาดว่าฐานะด้านทุนของธนาคาร ณ เดือนธ.ค. 2550 หลังการอัดฉีดเงินทุน จะยังคงอ่อนแอกว่าฐานะเงินทุน ณ สิ้นปี 2549 เนื่องจากคาดว่าธนาคารจะต้องทำการกันสำรองครั้งใหม่ แต่คาดว่าขีดความสามารถในการทำกำไรหลักของธนาคารจะยังคงมีเสถียรภาพ และยังคงจะจับตาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเพื่อหาสัญญาณการกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รอบใหม่
แจ้งเพิ่มสัดส่วนต่างชาติถือหุ้น
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ภายหลังธนาคารได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์เสร็จสิ้นเป็นจำนวน 25,000 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ได้ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในธนาคาร ณ วันที่ธนาคารเพิ่มทุนเสร็จสิ้น คิดเป็นร้อยละ 50.36 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
ดังนั้น สัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในธนาคารทหารไทยที่กำหนดต่อจากนี้ไป ได้เปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 50.36 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ธนาคารได้รับการผ่อนผันจากกระทรวงการคลัง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 เบญจ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผ่อนผันให้ธนาคารมีบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตามสัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ธนาคารเพิ่มทุนจำนวน 25,000 ล้านหุ้น เสร็จสิ้น
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งถึงผลการคณะกรรมการธนาคาร ในการประชุมครั้งที่พิเศษ 5/2550 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ว่า ได้มีกรรมการธนาคารทหารไทยได้ขอลาออกจากตำแหน่งจำนวน 6 คน ได้แก่ พลเอก แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา, นาย Rajan Raju Kankipati, นาง Jeanette Wong Kai Yuan, นายสมชัย สัจจพงษ์, นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ และนายไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งกรรมการธนาคาร แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ บริหารด้านปฏิบัติการอยู่
พร้อมกันนั้น ได้มีมติแต่งตั้ง นาย Willem Frederik Nagel แทน พลเอก แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา นาย Philippe G.J.E.O. Damas แทน นาย Rajan Raju Kankipati และนาย Vaughn Nigel Richtor แทน นาง Jeanette Wong Kai Yuan โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้ รายชื่อคณะกรรมการธนาคาร ธนาคารทหารไทย ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 จะได้แก่ นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการธนาคาร, นายจุลกร สิงหโกวินท์ กรรมการธนาคาร, พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กรรมการธนาคาร, นายบดี จุณณานนท์ กรรมการธนาคาร/ กรรมการอิสระ, นายอมร อัศวานันท์ กรรมการธนาคาร, นายคัมภีร์ แก้วเจริญ กรรมการธนาคาร/ กรรมการอิสระ, นางจันทรา บูรณฤกษ์ กรรมการธนาคาร / กรรมการอิสระ, นายคริสโตเฟอร์ จอห์น คิง กรรมการธนาคาร / กรรมการอิสระ, นายวิลเล็ม เฟรดเดอริค นาเจล กรรมการธนาคาร, นายฟิลลิป จี. เจ. อี. โอ. ดามัส กรรมการธนาคาร, นายวอน นิเจล ริกเตอร์ กรรมการธนาคาร และนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเพิ่มทุนธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ว่า ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว มีเม็ดเงินเข้ามาทั้งสิ้น 37,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการถือหุ้นของกระทรวงการคลังอยู่ที่ 26.1% ธนาคารไอ เอ็น จี เอ็น. วี. (เนเธอร์แลนด์) 25.2% และธนาคารดีบีเอสของสิงค์โปร์ จำนวน 6.8% ซึ่งสิ่งที่ต้องดำเนินการต่อไปคือการหารือด้านโครงสร้างการบริหารยังไม่ได้หารือ โดยที่ประชุมคณะกรรมการธนาคาร รวมถึงพิจารณาตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของนายสุภัค ศิวะรักษ์ และตำแหน่งคณะกรรมการธนาคารอื่นๆด้วย เพื่อให้โครงสร้างผู้บริหารทำให้ธนาคารเข้มแข็ง สามารถแข่งขันในธุรกิจได้ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ถือหุ้นด้วย
"การบริหารงานของธนาคารจากนี้ไป ต้องไม่มีปัญหาเกิดขึ้นอีก เพราะการเพิ่มทุนดังกล่าวต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งผู้บริหารธนาคารจะต้องทำให้ทุกฝ่ายมั่นใจว่าธนาคารจะเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงได้"นายฉลองภพกล่าาว
S&Pลดเครดิตไฮบริดบอนด์
ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ เปิดเผยในวันนี้ว่า เอสแอนด์พีได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในการออกตราสารหนี้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 หรือไฮบริดบอนด์วงเงิน 200 ล้านดอลลาร์ของธนาคารทหารไทยลงสู่ "D" จาก "CC" หลังธนาคารทหารไทยแจ้งว่า ทางธนาคารจะไม่จ่ายดอกเบี้ยตราสารดังกล่าว
แม้ว่าตามเงื่อนไขของไฮบริดบอนด์นั้น ธนาคารทหารไทยไม่มีข้อผูกมัดที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ย หากธนาคารคาดว่าจะไม่มีการประกาศผลกำไรสุทธิในงบการเงินในช่วง 6 เดือนหรือปีงบการเงินก่อนหน้าวันครบกำหนดการจ่ายดอกเบี้ย
อนึ่ง รายงานยอดขาดทุนสุทธิ 2.06 หมื่นล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบการเงิน 2550 และคาดว่าจะกันสำรองใหม่ 2.6 หมื่นล้านบาทในไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2550 ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 31 ธ.ค. 2550
โดยอันดับความน่าเชื่อถือในปัจจุบันสะท้อนถึงสถานะด้านตลาดและเครือข่ายสาขาที่แข็งแกร่งของธนาคารทหารไทย, ฐานะการเงินที่อ่อนแอและความท้าทายต่างๆที่ธนาคารจะเผชิญในการจัดการกับหนี้คงค้างที่มีปัญหา โดยแนวโน้มการจัดอันดับยังคงอยู่ในเชิงลบ
อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารทหารไทยได้ทำการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งหมด 25,000 ล้านหุ้น แต่เอสแอนด์พีจะยังคงจับตาฐานะการเงินของธนาคารซึ่งคาดว่าจะถดถอยลงอย่างมาก และคาดว่าฐานะด้านทุนของธนาคาร ณ เดือนธ.ค. 2550 หลังการอัดฉีดเงินทุน จะยังคงอ่อนแอกว่าฐานะเงินทุน ณ สิ้นปี 2549 เนื่องจากคาดว่าธนาคารจะต้องทำการกันสำรองครั้งใหม่ แต่คาดว่าขีดความสามารถในการทำกำไรหลักของธนาคารจะยังคงมีเสถียรภาพ และยังคงจะจับตาคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารเพื่อหาสัญญาณการกลายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้รอบใหม่
แจ้งเพิ่มสัดส่วนต่างชาติถือหุ้น
นายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ภายหลังธนาคารได้ดำเนินการจดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์เสร็จสิ้นเป็นจำนวน 25,000 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ได้ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในธนาคาร ณ วันที่ธนาคารเพิ่มทุนเสร็จสิ้น คิดเป็นร้อยละ 50.36 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
ดังนั้น สัดส่วนการถือหุ้นของบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยในธนาคารทหารไทยที่กำหนดต่อจากนี้ไป ได้เปลี่ยนแปลงจากร้อยละ 49 เป็นร้อยละ 50.36 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของธนาคาร
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2550 ธนาคารได้รับการผ่อนผันจากกระทรวงการคลัง โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 5 เบญจ แห่งพระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์ พ.ศ. 2505 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ผ่อนผันให้ธนาคารมีบุคคลที่มิใช่สัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าหนึ่งในสี่ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ตามสัดส่วนการถือหุ้น ณ วันที่ธนาคารเพิ่มทุนจำนวน 25,000 ล้านหุ้น เสร็จสิ้น
นอกจากนี้ ยังได้แจ้งถึงผลการคณะกรรมการธนาคาร ในการประชุมครั้งที่พิเศษ 5/2550 เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2550 ว่า ได้มีกรรมการธนาคารทหารไทยได้ขอลาออกจากตำแหน่งจำนวน 6 คน ได้แก่ พลเอก แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา, นาย Rajan Raju Kankipati, นาง Jeanette Wong Kai Yuan, นายสมชัย สัจจพงษ์, นายวุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์ และนายไกรทิพย์ ไกรฤกษ์ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งกรรมการธนาคาร แต่ยังคงดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ บริหารด้านปฏิบัติการอยู่
พร้อมกันนั้น ได้มีมติแต่งตั้ง นาย Willem Frederik Nagel แทน พลเอก แป้ง มาลากุล ณ อยุธยา นาย Philippe G.J.E.O. Damas แทน นาย Rajan Raju Kankipati และนาย Vaughn Nigel Richtor แทน นาง Jeanette Wong Kai Yuan โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2550
ทั้งนี้ รายชื่อคณะกรรมการธนาคาร ธนาคารทหารไทย ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 จะได้แก่ นายสมใจนึก เองตระกูล ประธานกรรมการธนาคาร, นายจุลกร สิงหโกวินท์ กรรมการธนาคาร, พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กรรมการธนาคาร, นายบดี จุณณานนท์ กรรมการธนาคาร/ กรรมการอิสระ, นายอมร อัศวานันท์ กรรมการธนาคาร, นายคัมภีร์ แก้วเจริญ กรรมการธนาคาร/ กรรมการอิสระ, นางจันทรา บูรณฤกษ์ กรรมการธนาคาร / กรรมการอิสระ, นายคริสโตเฟอร์ จอห์น คิง กรรมการธนาคาร / กรรมการอิสระ, นายวิลเล็ม เฟรดเดอริค นาเจล กรรมการธนาคาร, นายฟิลลิป จี. เจ. อี. โอ. ดามัส กรรมการธนาคาร, นายวอน นิเจล ริกเตอร์ กรรมการธนาคาร และนายสุภัค ศิวะรักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร