จากการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดของ AI ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Generative AI ที่เข้ามาเปลี่ยนแนวคิดของการใช้งาน AI ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จากทั้ง OpenAI Microsoft และ Google ทำให้ในปีนี้บรรดาสินค้า และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิสก์ที่นำมาจัดแสดงภายในงาน CES 2024 หรือ Consumer Electronics Show ต่างนำ AI เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งเพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงมากขึ้น
จุดเปลี่ยนสำคัญของการที่ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในสินค้าไอทีเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่นับชิปเซ็ตในสมาร์ทโฟนที่ระยะหลังเริ่มมีการนำหน่วยประมวลผล NPU เข้ามาช่วยในการทำงานด้าน AI ภายในตัวเครื่อง และในรอบนี้ มาถึงคราวของชิปเซ็ตบนคอมพิวเตอร์ ที่ทั้ง Intel และ AMD เริ่มมีการผสมผสาน NPU เข้าไปในหน่วยประมวลผลรุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้ Intel ได้มีการเปิดตัวซีพียูโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ในตระกูล Intel Core Ultra พร้อมกับนำเสนอประสบการณ์ AI PC ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา พร้อมกับคาดการณ์ว่าภายในปี 2571 AI PC หรือคอมพิวเตอร์ที่มีชิปเซ็ตประมวลผลด้าน AI จะครองสัดส่วนมากกว่า 80% ของตลาดพีซี
โรเจอร์ แชนด์เลอร์ รองประธานและผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพีซียุคใหม่ และเวิร์กสเตชัน อินเทล กล่าวว่า การเปิดศักราชของ AI PC ได้ตอกย้ำ “การใช้งาน AI ในทุกที่” หรือ “AI Everywhere” และแสดงให้เห็นว่าอินเทลมีโซลูชันการประมวลผลที่เหมาะสมพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะด้านประสิทธิภาพอันทรงพลัง หรือการใช้งานทั่วไป
ขณะเดียวกัน ภายในงาน CES2024 ทางอินเทล ยังได้มีการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่เพิ่มเติมในกลุ่มคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปด้วย Intel Core เจเนอเรชัน 14 ที่ขับเคลื่อนด้วย Intel Core Ultra ในซีรีส์ของ HX หรือซีพียูประสิทธิภาพสูง ขนาด 65 วัตต์ และ 35 วัตต์ มาเป็นทางเลือกให้แก่ผู้ใช้งาน
ในฝั่งของ AMD ที่นับเป็นคู่แข่งหลักในตลาดซีพียู มีการนำเสนอ AMD Ryzen AI ซึ่งเริ่มทำตลาดในผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กระดับกลาง-บน มาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาในรุ่น Ryzen 7 7840 ก่อนที่ในงาน CES ได้มีการเปิดตัว Ryzen 8000 ซีรีส์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดซึ่งจะทยอยทำตลาดในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้
แน่นอนว่าการที่โปรเซสเซอร์สามารถประมวลผล AI ได้เร็วขึ้น จะช่วยให้การสั่งงาน AI อย่าง Microsoft Copilot หรือ Bing Chat AI ทำได้รวดเร็วมากขึ้น ไม่นับรวมกับการประมวลผลทางด้านอื่นๆ เกี่ยวกับรูปภาพและวิดีโอ พร้อมกับเปิดทางให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ สามารถดึงประสิทธิภาพการทำงานของ AI มาช่วยเพิ่มเติม
ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการวิดีโอคอล ที่เมื่อมี AI เข้ามาช่วยจะมีทั้งการปรับแต่งวิดีโอให้มีความสว่าง คมชัด แม้อยู่ในที่แสงน้อย หรือในเรื่องของการลดเสียงรบกวนขณะสนทนา ซึ่งจะเริ่มเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นในผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กที่เปิดตัวในปี 2024 นี้
***บุกตลาดชิปรถยนต์ไฟฟ้า
อีกความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจของบรรดาผู้ผลิตชิป เริ่มต้นจาก Intel คือการประกาศเข้าซื้อกิจการ Silicon Mobility บริษัทผู้ผลิตซิลิคอนและซอฟต์แวร์จัดการพลังงานรถยนต์ด้วย AI พร้อมกับเปิดตัวชิป Intel SDV ที่มี AI ในตัว ทำให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงาน Gen AI และมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลรถผ่านกล้องที่ติดตั้งไว้รอบคันด้วย
Intel ยังระบุเพิ่มอีกว่า ปัจจุบันรถยนต์มากกว่า 50 ล้านคัน มีการนำชิปของ Intel SoCs ไปใช้งานในแง่ของการแสดงผล และความบันเทิงภายในรถ ซึ่งตามโรดแมปที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ชิปของ Intel จะครอบคลุมถึงการประมวลผลในรถยนต์ทั้งคัน
ส่วน AMD มีการประกาศความสำเร็จหลังจากควบรวมบริษัท Xilinx เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ AMD สามารถขยายพอร์ตผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดยานยนต์ ตั้งแต่ระบบข้อมูลความบันเทิงในรถ ไปจนถึงเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติและปัญญาประดิษฐ์สำหรับการตรวจจับวัตถุ การจอดรถอัตโนมัติ และอื่นๆ
สำหรับ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ AMD เปิดตัวสำหรับรถยนต์คือ Versal AI Edge XA ชิปขนาด 7 นาโนเมตร ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานยานยนต์ ในเรื่องของความปลอดภัยขั้นสูง ซึ่งชิปนี้สามารถทำการจดจำรูปแบบสัญญาณ และการตรวจจับวัตถุต่างๆ เพื่อนำไปประมวลผลในเรื่องความปลอดภัยเพิ่มเติม
รวมถึงการอัปเดต Ryzen Embedded V2000 ซีรีส์ ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถนำไปใช้รองรับการทำงานที่หลากหลายพร้อมกันทั้งระบบความบันเทิงในรถ การแสดงผลข้อมูลที่ให้กราฟิกคมชัด จนถึงฟีเจอร์ด้านความปลอดภัย และการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์ยานยนต์
ขณะที่ Qualcomm นับเป็นอีกหนึ่งผู้ผลิตชิปที่มีบทบาทสำคัญในตลาดรถยนต์ ตั้งแต่เริ่มนำเสนอแพลตฟอร์ม Snapdragon Digital Chassis จนได้รับการตอบรับที่ดีจากบรรดาผู้ผลิต ส่งผลให้มีการนำไปใช้งานแล้วในยานยนต์มากกว่า 350 ล้านคัน โดยในปีนี้ทาง Qualcomm ได้มีการยกระดับแพลตฟอร์มสำหรับยานยนต์ทั้งในเรื่องของการเชื่อมต่อให้ครอบคลุมการสื่อสารทั้งบลูทูธ LTE 5G จนถึงการสื่อสารผ่านดาวเทียม และระบบระบุพิกัดที่มีความแม่นยำมากขึ้น
จนถึงการนำเสนอ Gen AI เพื่อเข้าไปใช้งานในรถยนต์ โดยมีเป้าหมายที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ประหยัด ปลอดภัย มีความเป็นส่วนตัว และปรับแต่งได้เฉพาะบุคคลให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร จากฮารด์แวร์ และซอฟต์แวร์ AI ที่พัฒนาขึ้น
***เครื่องใช้ไฟฟ้า AI นำโดยซัมซุง
การที่ซัมซุงเป็นทั้งผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ทำให้อีโคซิสเต็มทางด้านเทคโนโลยีของซัมซุงมีความแข็งแรง และสามารถประยุกต์นำปัญญาประดิษฐ์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภคได้
จองฮี ฮัน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและหัวหน้าฝ่าย DX ของซัมซุงชี้ให้เห็นว่า AI จะเข้ามาช่วยให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้ใช้งานง่ายขึ้น โดยที่ AI จะทำงานอยู่เบื้องหลัง และไม่รบกวนการใช้งานของผู้ใช้
โดยไฮไลต์ที่ซัมซุงเน้นถึงการนำ AI เข้าไปใช้ภายในงาน CES2024 คือทีวี Neo QLED 8K รุ่นใหม่ที่มากับชิป NQ8 AI Gen 3 ทำให้สามารถเพิ่มความคมชัดของภาพได้อย่างลื่นไหล หรือแม้แต่การประมวลผลวัตถุที่เคลื่อนไหวในภาพให้แสดงผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไปจนถึงการวิเคราะห์เสียงพูด และเสียงพื้นหลัง เพื่อให้ได้ประสบการณ์รับฟังเสียงที่ดีที่สุด
หรือการนำ AI เข้าไปใช้กับตู้เย็น Bespoke ที่สามารถบันทึกข้อมูลการหมดอายุของอาหารในตู้เย็นเพื่อให้แจ้งเตือนเมื่อใกล้วันหมดอายุ พร้อมนำเสนอสูตรอาหารจากวัตถุดิบเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงการใช้งานคู่กับเตาอินดักชัน Anyplace ที่จะแสดงสูตรอาหารให้ชมระหว่างการทำอาหารไปด้วย
แม้แต่เครื่องซักผ้า Bespoke AI Laundry Combo ยังสามารถใช้ AI Hub มาช่วยในการสั่งการ ซึ่งจะคอยจดจำรูปแบบการใช้งาน เพื่อให้คำแนะนำในการใช้งานเพิ่มเติม และในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดูดฝุ่น Bespoke Jet Bot Combo ที่มีความสามารถในการตรวจจับวัตถุ หรือพื้น และความยาวของพรม เพื่อปรับแรงดูดให้เหมาะสม
