บลูบิค (BBIK) ฝันบุกตลาดระบบวางแผนทรัพยากรธุรกิจ ERP โลก จับมือไมโครซอฟท์เปิดตัว "ลิสม่า เอ็กซ์" (LISMA X) เพื่อดึงระบบเอสเอพี (SAP) ขึ้นแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ (Microsoft Power Platform) ให้สามารถทำงานบนโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์พกพาได้ปลอดภัย มั่นใจการเปิดตัวส่งอิมแพกต์แรงให้ธุรกิจใหญ่คล่องตัวขึ้น มองยาวอนาคตขยายผลสู่การผสม AI ลง SAP
นายวรัทย์ ไล้ทอง ผู้อำนวยการสายงาน ERP Advisory บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวระหว่างการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ LISMA X ว่าเป็นการต่อยอดจาก LISMA เวอร์ชันก่อนหน้าในปี 2022 ที่เปิดให้ผู้ใช้ SAP สามารถใช้บนอุปกรณ์พกพา หลังจากที่โมบายแอปของ SAP ถูกถอดจากแอปสโตร์และไม่อนุญาตให้ลงแอปได้เหมือนเคย แต่ข้อจำกัดเรื่องการรันบนระบบไลน์ (LINE) สร้างความกังวลให้ผู้ใช้ จึงมีการพัฒนาระบบใหม่ขึ้นมา เบื้องต้นเชื่อว่า LISMA X จะสามารถรุกตลาดองค์กรขนาดใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานสูง โดยเฉพาะบริษัทที่พนักงานต้องทำงานนอกไซต์งาน ซึ่งการใช้ SAP ได้ผ่านอุปกรณ์มือถือจะเกิดความคล่องตัวในการทำงาน
"LISMA X ออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ แต่ที่จะเหมาะมากคือองค์กรใหญ่ที่มีจำนวนพนักงานมาก ต้องทำงานนอกไซต์และทำงานผ่านมือถือ รวมถึงต้องการความคล่องตัวในการทำงาน โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการปรับเปลี่ยนให้ตัวเองทันเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ซึ่งการที่ LISMA X อยู่บนแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ จะทำให้องค์กรมีโอกาสปรับใช้เทคโนโลยีใหม่อื่นได้อีกในระดับค่อนข้างดี"
บลูบิค (BBIK) นั้นประกาศจับมือกับไมโครซอฟท์เพื่อเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ชื่อ LISMA X โดยวางจุดขายว่าเป็นระบบที่ตอบโจทย์การใช้งาน SAP บน Microsoft Power Platform ทำให้เพิ่มความคล่องตัวให้ธุรกิจเพราะผู้ใช้สามารถทำรายการต่างๆ บนระบบ SAP ได้จากอุปกรณ์มือถือที่ติดตั้ง Power Apps เช่น การอนุมัติรายการต่างๆ สามารถปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลจากระยะไกลจากผู้ไม่มีสิทธิ (Remote User Termination) และบันทึกคำร้องขอลางาน เป็นต้น โดยที่มีมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก
จากการสาธิต LISMA X ถูกออกแบบให้ทำงานได้อย่างเหมาะสมและสอดรับกับแพลตฟอร์มของไมโครซอฟท์ได้แบบไร้รอยต่อ โดยระบบ SAP สามารถส่งข้อความแจ้งเตือนต่างๆ ไปยังผู้ใช้งานผ่าน MS Team Chat เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงานพร้อมป้องกันการนำ Username ไปใช้งานโดยผู้ไม่ประสงค์ดี ยกตัวอย่างเช่น การแจ้งเตือนเอกสารรออนุมัติและการเข้าใช้งาน (Login) ระบบ เป็นต้น อีกทั้งผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลต่างๆ ด้วยการพิมพ์คำสั่งบน MS Team Chat จากนั้นระบบจะส่งคำสั่งดังกล่าวไปประมวลผลบนระบบ SAP ก่อนจะส่งข้อมูลกลับมาให้ผู้ใช้งาน
"ความท้าทายของ LISMA X นั้นอยู่ที่การร่วมมือกับแพลตฟอร์มระดับโลกอย่าง Microsoft Power Platform เพราะต้องทำให้สิ่งที่พัฒนาขึ้นมามีคุณภาพ น่าเชื่อถือ และมีขีดความสามารถทัดเทียมกัน" วรัทย์ กล่าว "เราคาดหวังเรื่องการต่อยอดในต่างประเทศ เพราะ Microsoft เป็นแพลตฟอร์มระดับโลก ทำให้เรามองเห็นความสามารถต่อยอดในการทำตลาดในอนาคต"
วรัทย์เผยอีกว่างบประมาณของผู้ใช้ LISMA X ที่จะบวกเพิ่มจากค่าสิทธิการใช้ SAP นั้นประกอบด้วยค่าใช้จ่ายหลัก 2 ส่วน ส่วนแรกคือการซื้อไลเซนส์ Microsoft Power Platform ในมูลค่าตามการใช้งานฟีเจอร์ที่ต้องการ อีกส่วนคือการชำระค่าซอฟต์แวร์ตามความต้องการนำไปใช้ในธุรกิจส่วนใดบ้าง คาดว่าจะมีมูลค่าไม่เกิน 5-10% ของงบประมาณไอทีบริษัทในปัจจุบัน
สำหรับแผนในอนาคต สายงาน ERP Advisory ของบริษัท บลูบิคจะโฟกัสเรื่องการพัฒนา AI บนระบบพัฒนา ERP ซึ่งอาจมีการทำงานร่วมกับ AI เพื่อให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ คาดว่าจะเป็นโปรดักต์ที่ถูกโฟกัสมากขึ้นในไตรมาส 4 ปีนี้
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การร่วมมือกับบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นก้าวสำคัญที่ตอกย้ำถึงความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของบลูบิคที่มุ่งสร้างนวัตกรรมใหม่ เพื่อยกระดับการทำงานขององค์กรลูกค้า ให้ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจในยุคดิจิทัล ซึ่ง LISMA X ถือเป็นนวัตกรรมแรกในประเทศไทยที่ให้ผู้ใช้งาน SAP สามารถทำงานบน Microsoft Power Platform ได้อย่างเต็มรูปแบบและมีเสถียรภาพ ภายใต้มาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่เชื่อถือได้ ทำให้กระบวนการทำงานขององค์กรมีความคล่องตัว สะดวก รวดเร็ว ถูกต้องและแม่นยำ สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจได้
"LISMA เวอร์ชันก่อนหน้านั้นได้รับรางวัลจากตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากหน่วยงานที่ใช้ ERP ขนาดใหญ่มักต้องพบกับจุดเจ็บปวดคือใช้งานยาก และต้องใช้งานในเครื่องเทอร์มินัลที่เป็นพีซี ซึ่งไม่สะดวกในปัจจุบัน เพราะผู้คนต้องการใช้สมาร์ทดีไวซ์ที่สะดวก ขณะเดียวกัน จะปลดล็อกให้ ERP สร้างมูลค่าธุรกิจได้ดีขึ้น นำไปสู่การต่อยอดได้อีกมาก"
ด้านนางสุภาณี อนุวงศ์วรเวทย์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ไมโครซอฟท์มองเห็นโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product) ใหม่ร่วมกับทางบลูบิค ด้วยการผสานจุดแข็งของแพลตฟอร์มไมโครซอฟท์ ที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสากล กับความรู้ความเชี่ยวชาญในระบบ SAP ของบลูบิค อีกทั้ง 2 บริษัทยังมีฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้ระบบ SAP และ Microsoft Power Platform ทำให้สามารถเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและนำเสนอนวัตกรรมนี้ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เพื่อให้องค์กรลูกค้าสามารถใช้งานระบบและข้อมูลที่มีได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
LISMA X ถือเป็นผลงานล่าสุดจากการเข้าซื้อหุ้นของจีเอ็มวีพายในสัดส่วน 80% คิดเป็นมูลค่า 20 ล้านบาทของบลูบิคเมื่อกุมภาพันธ์ 2565 ครั้งนั้นบลูบิคเชื่อว่าแนวโน้มตลาด SAP ในประเทศไทยและเอเชีย-แปซิฟิกยังคงมีการเติบโตอีกมาก เนื่องจากการทำ Digital Transformation เป็นสิ่งที่องค์กรส่วนใหญ่ให้ความสำคัญ จึงมองหาระบบ ERP เพื่อนำมาบริหารจัดการองค์กร โดยเฉพาะระบบ SAP ถือเป็นตัวเลือกลำดับต้นๆ ที่องค์กรให้ความสนใจ อีกทั้งกลุ่มองค์กรที่ปัจจุบันใช้งานระบบ SAP อยู่แล้วต่างเร่งอัปเกรดระบบให้มีความทันสมัยมากขึ้น จึงเชื่อว่าในอนาคตจะมีลูกค้าที่ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับระบบ SAP เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
เบื้องต้น จำนวนลูกค้า SAP ERP ในไทยคาดว่ามีการใช้งานไม่ต่ำกว่า 500 ราย ทั้งหมดเป็นองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่