xs
xsm
sm
md
lg

Canon ชู EOS R8 มิเรอร์เลสฟูลเฟรมเบาที่สุด รุ่นเริ่มต้น EOS R50 ขายไทย 28,990 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แคนนอน (Canon) มั่นใจตลาดกล้องดิจิทัลปี 66 มีดีมานด์คึกคัก เชื่อคอนเทนต์ครีเอเตอร์แห่ยกระดับงานด้วยการขยับจากสมาร์ทโฟนมาถ่ายด้วยกล้องมิเรอร์เลส ล่าสุด ประกาศราคาขาย EOS R8 ฟูลเฟรมมิเรอร์เลสรุ่นเบาที่สุดเริ่ม 56,590 บาท ขณะที่ EOS R50 สำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานวางขายไทย 28,990 บาท

มร.ฮิโรชิ โยโกตะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัวกล้อง EOS R8 และ EOS R50 รุ่นใหม่ ภายใต้แคมเปญ You ‘R Creator ในประเทศไทย จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของแคนนอนในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ผู้รักการถ่ายภาพ และด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีด้านอิมเมจจิ้ง ทำให้แคนนอนเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของกล้องดิจิทัลถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20 นับตั้งแต่ปี 2003

"ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แคนนอนให้ความสำคัญกับฟีดแบ็กของผู้ใช้และนำมาเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่เสมอ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราตอบโจทย์ความต้องการของผู้รักการถ่ายภาพทุกกลุ่ม สำหรับลูกค้าในยุคดิจิทัลซึ่งสนใจคอนเทนต์วีดีโอบนโซเชียลมีเดียมากขึ้น ผมเชื่อว่าทุกคนเป็นวีดีโอครีเอเตอร์ได้ถ้ามีความคิดสร้างสรรค์ เรื่องราวที่น่าสนใจ และกล้องดีๆ สักตัว ซึ่งกล้อง Canon EOS R8 และ R50 มาพร้อมเทคโนโลยีและฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้คนทุกเพศทุกวัยสามารถเล่าเรื่องราวผ่านวิดีโอ ไม่ว่าจะทำ Vlog ท่องเที่ยว ทำอาหาร รีวิวสินค้า คอนเทนต์กีฬา แฟชั่น แบ่งปันให้ความรู้ หรือต่อยอดสู่การสร้างรายการผ่านช่องทางออนไลน์ ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย"

ฮิโรชิ โยโกตะ ยืนยันว่าแคนนอนเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ของกล้องดิจิทัลถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20 นับตั้งแต่ปี 2003
การเปิดตัวกล้อง 2 รุ่นใหม่ของแคนนอนถือเป็นการเดินเกมรุกตลาดกล้องถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอระดับมืออาชีพ เพื่อตอบสนองเทรนด์การถ่ายภาพและวิดีโอของคอนเทนต์ครีเอเตอร์ยุคใหม่ โดย 1 ใน 2 รุ่นใหม่คือ EOS R8 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่ผสมฟีเจอร์ของรุ่นพี่อย่าง EOS R6 Mark II มารวมอยู่ในเครื่อง น้ำหนักเบาพกพาง่ายไม่แพ้กล้อง EOS RP เบ็ดเสร็จแล้วน้ำหนัก 461 กรัมรวมการ์ดหน่วยความจำและแบตเตอรี่แล้ว

การได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากรุ่นพี่อย่าง EOS R6 Mark II ทำให้กล้อง EOS R8 ถือเป็นกล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรมที่สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K 60P แบบไม่ครอป มีฟังก์ชัน Auto Focus detect only ช่วยให้ภาพวิดีโอดูเนียนตา โฟกัสไม่หลุดแม้เดินเข้าออกจากเฟรมภาพ อีกหนึ่งจุดเด่นคือ Canon Log 3 ที่ทำสีได้ตามต้องการ เพื่อการผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูง ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการไฟล์วิดีโอคุณภาพมืออาชีพ

EOS R8 กล้องมิเรอร์เลสฟูลเฟรมที่ผสมฟีเจอร์ของรุ่นพี่อย่าง EOS R6 Mark II มารวมอยู่ในเครื่อง น้ำหนักเบา 461 กรัม ซึ่งรวมการ์ดหน่วยความจำและแบตเตอรี่แล้ว
กลุ่มเป้าหมายของ EOS R8 คือ ผู้ใช้งานที่ต้องการอัปเกรดคุณภาพงานวิดีโอ การปรับตั้งค่าได้ง่ายดายและหลากหลายเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ยอดเยี่ยม เอาใจฟรีแลนซ์ที่รับงานถ่ายวิดีโอและเหล่า YouTuber กำหนดการวางจำหน่ายประมาณวันที่ 20 เมษายน 2566 เฉพาะตัวกล้องราคา 56,590 บาท (พร้อมเลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM ราคา 64,790 บาท)

EOS R8 มีกำหนดการวางจำหน่ายประมาณวันที่ 20 เมษายน 2566  ในราคาที่แตกต่างกันไป
อีกรุ่นคือ EOS R50 เป็นกล้องมิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัดสำหรับผู้เริ่มต้น โดยเฉพาะมือใหม่คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่จะได้ประโยชน์จากระบบ AI อัจฉริยะ ซึ่งจะช่วยคิดและปรับโหมดให้สามารถสร้างสรรค์คอนเทนต์ได้ง่ายเหมือนมีผู้ช่วยตากล้อง

ฟีเจอร์เด่นของกล้อง EOS R50 ที่ออกแบบมาเพื่อ Content Creator ยุคใหม่คือฟังก์ชัน Close Up Demo ที่ใช้งานได้ทั้งการบันทึกวิดีโอปกติและ Live Streaming จับโฟกัสใกล้-ไกลได้แม่นยำ เชื่อมต่อกล้องเข้ากับคอมพิวเตอร์-แล็ปท็อปผ่านสาย USB-C ได้ทั้งภาพและเสียงโดยไม่ต้องผ่านแอปใด

EOS R50 เป็นกล้องมิเรอร์เลสขนาดกะทัดรัดสำหรับผู้เริ่มต้น
กลุ่มเป้าหมายของ EOS R50 คือ ผู้ที่มองหากล้องตัวเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่ายเหมือนการใช้สมาร์ทโฟน รวมไปถึง Live Streaming Blogger และ Vlogger อีกด้วย

กล้อง EOS R50 วางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2566 โดยราคาพร้อมเลนส์ RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM (อยู่ที่ 28,990 บาท (จำหน่ายสีขาวและดำ) ขณะที่ราคาพร้อมเลนส์ RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM และ RF-S55-210mm f/5-7.1 IS STM คือ 38,490 บาท (มีจำหน่ายเฉพาะสีดำ)

ราคากล้อง EOS R50 ซึ่งออกแบบให้ใช้งานง่ายเหมือนการใช้สมาร์ทโฟน
นอกจากกล้อง แคนนอนยังเปิดตัวเลนส์ตระกูล RF 2 รุ่นใหม่ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM และ RF-S55-210mm f/5-7.1 IS STM เพื่อให้สาวกผู้ใช้งานกล้องมิเรอร์เลสตระกูล EOS R มีตัวเลือกในการใช้เลนส์ได้หลากหลายมากขึ้น สถิติถึงปัจจุบัน มีเลนส์มากถึง 35 รุ่นแล้ว

เลนส์ RF24-50mm f/4.5-6.3 IS STM เป็นเลนส์ซูมเมาท์ RF ที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาที่สุดสำหรับกล้องฟูลเฟรม ด้วยน้ำหนัก 210 กรัม และขนาด 5.8 (เมื่อหดเข้า) พร้อมทำงานสอดรับกับกล้อง EOS R8 เลนส์ช่วยกล้องฟูลเฟรมถ่ายมุมกว้างและมุมมาตรฐานได้เป็นอย่างดีด้วยความยืดหยุ่นในการจัดองค์ประกอบทำให้เลนส์รุ่นนี้แตกต่างจากเลนส์ไพรม์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน

ส่วน RF-S55-210mm f/5-7.1 IS STM เป็นเลนส์ซูมเทเลโฟโต้ที่พกพาสะดวก มาเป็นตัวเลือกใหม่สำหรับผู้ใช้กล้องตระกูล EOS R เซ็นเซอร์ขนาด APS-C ที่กำลังมองหาเลนส์เทเลโฟโต้ที่กะทัดรัด และน้ำหนักเบาเพียง 270 กรัม เมื่อใช้งานร่วมกับกล้องเซ็นเซอร์ขนาดฟูลเฟรม จะได้ระยะทางยาวโฟกัสเทียบเท่า88 มม. ถึง 336 มม. พร้อมด้วยความสามารถแบบ Semi Macro (ด้วยกำลังขยายภาพมากถึง 0.28x) และการถ่ายช็อตโคลสอัป (การโฟกัสใกล้ถึง 0.73ม.) ผลที่ได้คือภาพที่คมชัดมีความละเอียดสูงตลอดทั้งช่วงการซูม

น ส.เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด มั่นใจว่ากล้อง Canon รุ่น EOS R8 และ EOS R50 จะมาเสริมทัพไลน์อัปให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ ที่มาพร้อมเทคโนโลยีที่เพิ่มความแม่นยำและสะดวกสบาย ทั้งระบบ AI ตรวจจับโฟกัสและฟังก์ชัน Close up เพื่อโชว์สินค้าระยะใกล้ขณะ Live streaming ได้อย่างลื่นไหล

"แคนนอนเริ่มทำการตลาดกล้องมิเรอร์เลสเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2018 ปัจจุบันนี้ภายในเวลาเพียง 5 ปี เรามีกล้องในตระกูล EOS R มากถึง 10 รุ่น ซึ่งรวมกล้อง R8 และ R50 ที่เปิดตัวล่าสุด ไลน์อัปที่ครบครันตอบโจทย์ทุกการใช้งานถือเป็นเครื่องยืนยันความตั้งใจของแคนนอนในการรุกตลาดกล้องมิเรอร์เลสอย่างเต็มสูบ"

เนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้ง อินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด
สินค้าทั้งหมดจะถูกโปรโมตผ่านแคมเปญ You ‘R Creator แคนนอนระบุว่าอักษร R นั้นสื่อถึงกล้องแคนนอนมิเรอร์เลสตระกูล EOS R ที่ย่อมาจากคำว่า Revolution หรือการพลิกโฉมการถ่ายรูปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ

"ภายใต้แคมเปญ You ‘R Creator นี้ แคนนอนได้ชวนครีเอเตอร์ในสาขาต่างๆ มาร่วมถ่ายทอดประสิทธิภาพของกล้องตระกูล EOS R รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด เช่น การจัด Roadshow และกิจกรรมเวิร์กชอปต่างๆ ทั่วประเทศเพื่อเข้าถึงผู้ใช้งาน สร้างการจดจำแบรนด์แคนนอนในฐานะผู้นำด้าน Hybrid Camera ที่โดดเด่นทั้งภาพนิ่งและตอบโจทย์งานวิดีโอคุณภาพสูง และเป็นกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญของแคนนอนในการรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ของกล้องดิจิทัลเปลี่ยนเลนส์ได้อย่างต่อเนื่อง" เนตรนรินทร์ ทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น