เดลล์ เทคโนโลยีส์ (Dell Technologies) เปิดตัว XPS 13 Plus พีซีรุ่นท็อปใหม่ล่าสุดส่งท้ายปี โชว์ทรงพลังทั้งความเร็ว-ดีไซน์ ที่ตอบโจทย์ครีเอเตอร์ทุกเซกเมนต์ ปักธงเจาะคนรุ่นใหม่ผู้ชื่นชอบพีซีพรีเมียมทั้งในและนอกวงการศิลปะดิจิทัล ยันภาวะเงินบาทอ่อนยวบไม่มีผลกับราคา เนื่องจากทุกอย่างผ่านการวางแผนไว้แล้วทำให้ไม่กระทบลูกค้า การันตีราคาเปิดตัว XPS 13 Plus ใหม่ 73,990 บาทอยู่ในระดับเดียวกับ XPS รุ่นก่อนหน้าแบบต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ปี คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะยาว
นายอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชียและธุรกิจคอนซูเมอร์ภูมิภาคเอเชียใต้ กล่าวถึงภาวะค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในระหว่างการเปิดตัวพีซีรุ่นล่าสุด XPS 13 Plus ว่าภาวะค่าเงินผันผวนถือเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในตลาดเกิดใหม่อยู่แล้ว หลายประเทศในเอเชีย เช่น ปากีสถานนั้นพบสถานการณ์ไม่แน่นอนที่ทำให้ได้รับผลกระทบบ้าง ทั้งการขนส่งที่ล่าช้า หรือค่าเงินที่ขึ้นลงเร็ว ล้วนเป็นต้นทุนการทำธุรกิจที่พบเจอตามปกติแบบควบคุมไม่ได้ ดังนั้น เดลล์จึงเลือกควบคุมในส่วนที่ทำได้ เช่น การปรับมาตรการดำเนินงาน และการทำงานร่วมกับพันธมิตร เพื่อให้สามารถดูแลลูกค้าได้ดีที่สุด รวมถึงรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดให้ได้
“ค่าเงินผันผวนไม่มีผลกับราคาสินค้าของเดลล์ ทุกอย่างวางแผนไว้แล้ว จะไม่มีผลกระทบต่อลูกค้าและไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ผมเชื่อว่าความผันผวนในตลาดทำให้เกิดความตกใจแค่ในช่วงแรก หลังคลุกฝุ่นแล้วทุกฝ่ายจะปรับตัวได้ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตรายไหน ยังไม่มีการเปลี่ยนที่มีนัยสำคัญมากมายในด้านราคาเพราะสินค้าเทคโนโลยีมีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตในทุกด้านของทุกคน”
ภาวะเงินบาทอ่อนค่านั้นเป็นประเด็นร้อนในช่วงกลางปี 2565 เป็นต้นมา ผลจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพื่อควบคุมเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ดอลลาร์จึงแข็งค่าขึ้น และกดดันค่าเงินบาทให้อ่อนลงมาทะลุ 38 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สถานการณ์ที่ต้องใช้เงินบาทมากขึ้นในการแลกเงินดอลลาร์ในจำนวนเท่าเดิมจึงทำให้ผู้นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเสียประโยชน์จากราคาสินค้าต่างประเทศที่แพงขึ้น ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ประชาชนยังมีโอกาสต้องเสียเงินซื้อสินค้าและบริการจากต่างประเทศในราคาที่แพงขึ้น อย่างไรก็ตาม เดลล์ในฐานะบริษัทสัญชาติอเมริกันยืนยันว่าภาวะนี้อยู่ในแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และมั่นใจว่าจะไม่มีผลกระทบใดต่อลูกค้าเดลล์ในระยะยาว
สำหรับ XPS 13 Plus ที่เปิดตัวล่าสุดนั้นได้รับคำนิยามว่าเป็นแล็ปท็อประดับพรีเมียม เพราะ XPS เป็นตัวท็อปซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รางวัลมากที่สุดของเดลล์ พีซีที่ได้ชื่อว่า “นำเทรนด์ที่สุด” นี้มาพร้อมกับชิปเซ็ต 12th Gen Intel Core 28 โปรเซสเซอร์ ทำให้เป็น XPS ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา จุดเด่นของ Dell XPS 13 Plus ไม่ได้อยู่ที่ความทันสมัยและความมีสไตล์ที่ทรงประสิทธิภาพที่ออกแบบเพื่อกลุ่ม Gen-Z เท่านั้น แต่แล็ปท็อปใหม่ตระกูล XPS นี้ยังเป็นเครื่องแรกที่ได้รับการผลิตโดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนจากพลังน้ำ อีกทั้งยังสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์
วิธีที่เดลล์เลือกใช้เพื่อโปรโมตแล็ปท็อปใหม่ คือการดึงนักวาดภาพประกอบ ช่างภาพ และศิลปินยุคดิจิทัลหลายรายมาสาธิตการใช้เทคโนโลยีเพื่อร่วมสร้างสรรค์ผลงาน นอกจากการจุดประกายให้ศิลปะไปคู่กับเทคโนโลยี เดลล์ยังชูประเด็นว่าในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พีซีมีคุณค่ามากมายกับการใช้ชีวิต เป็นมากกว่าเครื่องมือทำงานเพราะสามารถเป็นเครื่องมือเพื่อ “การเล่น” ได้ด้วย รวมถึงการเชื่อมโยงกับโลก ซึ่งเดลล์เห็นคุณค่าในส่วนนี้ และพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์รอบด้าน
“พีซีรุ่นนี้เน้นความเรียบง่ายดูทันสมัย ตัดอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่จำเป็นออกจนทำให้รูปลักษณ์ดีไซน์ลงตัว ยุทธศาสตร์ในการดีไซน์ XPS เน้น 3 ส่วนหลัก คือ การดีไซน์ให้ยอดเยี่ยม การเพิ่มขีดความสามารถของซอฟต์แวร์ และการพัฒนาแบบเชื่อมโยงเป็นระบบนิเวศ ซึ่งจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นบนการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน เพราะสินค้าที่ดีไม่จำเป็นต้องทันสมัยโดยไม่ตอบโจทย์เรื่องธรรมชาติ”
เดลล์ยืนยันว่า หลักการออกแบบ XPS ที่เน้นระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนนั้นมีเป้าหมาย 2 เรื่อง คือ ทุกเครื่องที่เดลล์จำหน่ายจะต้องนำมารีไซเคิลได้ 100% ขณะเดียวกัน วัสดุอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเดลล์จะต้องผลิตจากผลิตภัณฑ์ที่นำกลับไปรีไซเคิล หรือเป็นวัสดุที่ผ่านการรีไซเคิลแล้ว 100% ซึ่งที่ผ่านมา เดลล์มีการใช้วัสดุธรรมชาติจากเยื่อไม้หรือเมล็ดองุ่นแล้ว
กรณีของ XPS 13 Plus ถือเป็นพีซีเดลล์ตัวแรกที่ผลิตขึ้นโดยใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนจากพลังน้ำ ซึ่งช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ของอะลูมิเนียมได้มาก อีกทั้งสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นจึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (reuse) ในพีซีเครื่องใหม่ได้ ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมาย 2030 ของเดลล์ กำหนดราคาจำหน่ายเริ่มต้นไว้ที่ 73,990 บาท
อโณทัย ทิ้งท้ายว่า ตลาดพีซีพรีเมียมไฮเอนด์วันนี้มีผู้ให้ความสนใจมากขึ้น ตลาดมีความหวือหวาและคึกคัก เห็นได้ชัดจากไตรมาส 2 ที่ผลประกอบการเดลล์แสดงว่ารายได้จากกลุ่มพีซีเติบโต โดยเฉพาะกลุ่มโฮมยูสพรีเมียม ซึ่งคาดว่าจะยังเห็นการเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
ข้อมูลผลประกอบการไตรมาส 2 ปีการเงิน 2023 ชี้ว่าเดลล์มีรายได้ 26,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในจำนวนนี้มาจากกลุ่มธุรกิจ CSG ที่ประกอบด้วยคอมพิวเตอร์พีซี 15,490 ล้านเหรียญ คิดเป็นอัตราเติบโต 9% ต่อปี