xs
xsm
sm
md
lg

อีลอน มัสก์ เปิดตัวน้ำหอม Burnt Hair ตั้งชื่อ "ผมไหม้" หาเงินล้านซื้อ Twitter

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


Elon Musk เปิดตัวน้ำหอมในชื่อ ผมไหม้เกรียม หรือเบิร์นท์แฮร์ (Burnt Hair) ซึ่งสามารถขายได้ 10,000 ขวดจนรวบรวมเงินล้านได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) มหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ปิ๊งไอเดียคว้าโอกาสใหม่ในการใช้ประโยชน์จากการออกผลิตภัณฑ์แปลกใหม่อีกครั้ง โดยเปิดตัวน้ำหอมในชื่อ "ผมไหม้เกรียม" หรือเบิร์นท์แฮร์ (Burnt Hair) ซึ่งสามารถขายได้ 10,000 ขวดจนรวบรวมเงินล้านได้ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ถือเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเมื่อ 4 ปีที่แล้ว มัสก์สามารถขาย "เครื่องพ่นไฟ" ได้ในราคาลำละ 500 เหรียญสหรัฐ และกวาดรายได้ไป 10 ล้านเหรียญ

อีลอน มัสก์ โพสต์อธิบายถึงความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับชื่อ Musk โดยบอกว่าด้วยชื่อนี้ ตัวเขาจึงสามารถโยงเข้าสู่ธุรกิจน้ำหอมได้ แม้ที่ผ่านมาจะไม่ยอมรับก็ตาม ซึ่งล่าสุด มัสก์ได้อัปเดตโปรไฟล์เพื่ออธิบายตัวเองว่าเป็นพนักงานขายน้ำหอมแล้ว พร้อมกับแสดงรายละเอียดคำอธิบายกลิ่นของน้ำหอมรุ่นใหม่ว่าเป็น "แก่นแท้ของความปรารถนาที่น่ารังเกียจ" สนนราคาขวดละ 100 ดอลลาร์ และจะเริ่มจัดส่งได้ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2566

คำอธิบายผลิตภัณฑ์ว่า "แก่นแท้ของความปรารถนาที่น่ารังเกียจ" นั้นโยงได้กับ การซื้อกิจการ Twitter ที่ถูกมองว่าเป็นประเด็นน่าอับอายของอีลอน มัสก์ ซึ่งได้ เปลี่ยนใจกลับมายื่นข้อเสนอซื้อกิจการ Twitter อีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ต.ค.65 ในวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 54.20 ดอลลาร์ต่อหุ้น เท่ากับที่เคยเสนอไป พร้อมทั้งเรียกร้องให้ Twitter หยุดดำเนินคดีฐานพยายามถอนตัวออกจากข้อตกลง



ประเด็นนี้สำนักข่าวรอยเตอร์เคยวิเคราะห์ว่า การกลับลำมาสานต่อดีลซื้อ Twitter ครั้งนี้ไม่เพียงทำให้ มัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการ ‘เทสลา’ และ ‘สเปซเอ็กซ์’ สามารถเข้าครอบครองแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดเจ้าหนึ่งของโลก แต่ยังช่วยปิดฉากคดีความที่บั่นทอนทั้งภาพลักษณ์ของแบรนด์ Twitter และช่วยฟอกตัวให้ มัสก์ หลุดจากภาพการเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่มีพฤติกรรมเชื่อถือไม่ได้

จุดนี้ มัสก์ เคยทวีตข้อความเมื่อ 4 ต.ค. ว่าการเข้าซื้อ Twitter จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการสร้าง แพลตฟอร์มที่ "หลอมรวมทุกอย่าง" ที่มัสก์เรียกว่า ‘X’ ได้สำเร็จเร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ไม่มีการกล่าวถึงเหตุผลดั้งเดิมที่ มัสก์ ระบุว่าอาจถอนตัวจากข้อตกลงซื้อ Twitter เพราะจำนวนบัญชีปลอม หรือ "bot account" นั้นมากกว่าตัวเลข 5% ที่ทางบริษัทประเมินไว้หลายเท่าตัว โดยทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ มัสก์ ว่าจ้างประเมินว่าทวิตเตอร์น่าจะมีบัญชีปลอมอยู่ระหว่าง 5.3-11% ของจำนวนผู้ใช้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม การกลับลำงดทิ้งดีลของ มัสก์ มีขึ้นก่อนที่ศาลรัฐเดลาแวร์จะพิจารณาคำร้องของ Twitter ในวันที่ 17 ต.ค. ซึ่งแต่เดิมนั้น Twitter ขอให้ศาลมีคำสั่งบังคับให้ มัสก์ ให้ต้องปิดดีลธุรกิจนี้ในวงเงิน 44,000 ล้านดอลลาร์ตามที่ตกลงแต่แรก ซึ่งรายงานระบุว่า มัสก์ ได้ยื่นจดหมายถึง Twitter ตั้งแต่ 3 ต.ค. แสดงความพร้อม “เดินหน้า” ซื้อกิจการภายใต้เงื่อนไขเดิม โดยมีเงื่อนไขว่าผู้พิพากษาศาลรัฐเดลาแวร์จะต้องระงับการดำเนินคดีไว้ก่อน ขณะที่โฆษก Twitter ยืนยันว่าได้รับจดหมายดังกล่าวจริง แต่ยังไม่ยืนยันว่า Twitter จะรับข้อเสนอหรือไม่



สำหรับน้ำหอมรุ่นใหม่ รายงานระบุว่า สามารถทำยอดขายได้กิน 10,000 ขวด ทำเงินทะลุหลัก 1 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง มัสก์ ยอมรับว่าจะนำเงินไปจ่ายดีลซื้อ Twitter รอบนี้ด้วย

น้ำหอมนี้จะเป็นสินค้าภายใต้บริษัทเดอะบอริ่ง คัมพานี (The Boring Company) ซึ่งเป็นบริษัทที่มีประวัติการนำสิ่งของแหวกแนวมาทำตลาดจนเป็นที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น ในปี 2018 บริษัทขายเครื่องพ่นไฟในราคาลำละ 500 เหรียญสหรัฐ และกวาดรายได้ไป 10 ล้านเหรียญสหรัฐ

นอกจากนี้ ยังมีเหล้าเตอกีลาซึ่งเปิดตัวแบรนด์เองในปี 2020 และกางเกงขาสั้น "short shorts" ที่เป็นสินค้าที่ระลึกถึงชัยชนะในการช็อตหุ้นของมัสก์เหนือนักลงทุนที่เดิมพันกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นบริษัทรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

บริษัท The Boring Company ซึ่งเป็นบริษัทขุดอุโมงค์ที่มีมูลค่าล่าสุดอยู่ที่ 5.7 พันล้านดอลลาร์ ยังขายหมวกบริษัทได้กว่า 50,000 ใบ คาดว่าในอนาคต ชาวเน็ตจะได้เห็นการแจ้งเกิดผลิตภัณฑ์อื่นตามมาอีกแน่นอน


กำลังโหลดความคิดเห็น