แคนนอนเผยโฉม Canon imagePRESS V1000 รุกตลาดดิจิทัลพรินเตอร์ระดับโปรดักชัน ชูจุดเด่นนวัตกรรมใหม่ POD-SURF และ In-Line Spectrophotometer มั่นใจยกระดับธุรกิจด้วยงานพิมพ์ที่สวยคม เที่ยงตรง และยืดหยุ่นต่อการใช้งานกับสื่อหลากรูปแบบ
นายอุย ชิค โฮ รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์บิสซิเนสอิมเมจจิ้งโซลูชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทั่วโลกกำลังมุ่งฟื้นฟูธุรกิจให้กลับมาอีกครั้งหลังจากที่หยุดชะงักไป ธุรกิจการพิมพ์ก็มาพร้อมกับความท้าทายและการแข่งขันที่สูงขึ้น และความต้องการด้านคุณภาพงานพิมพ์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แคนนอนจึงภูมิใจนำเสนอ Canon imagePRESS V1000 สู่ตลาดในประเทศไทย โดยทางบริษัทฯ ได้เชิญผู้ประกอบการในประเทศไทยกว่า 40 ราย มาร่วมทดลอง สัมผัสเทคโนโลยีใหม่ของเครื่องพิมพ์และฟีเจอร์ต่างๆ ของเครื่องพิมพ์รุ่นใหม่นี้ด้วยตัวเอง รวมถึงพบปะพูดคุย ซักถามข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีการพิมพ์แบบดิจิทัลกับผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จากแคนนอนโดยตรง
"ในฐานะที่แคนนอนเป็นผู้นำด้านอิมเมจจิ้งระดับโลก และให้ความสำคัญด้านการบริการที่เป็นเลิศ เราพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการในวงการงานพิมพ์ในประเทศไทยตามแนวคิด Business Can Be Simple with Canon"
บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด (Canon) ถือว่าตัวเองเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอิมเมจจิ้งระดับโลก ที่เดินเกมรุกตลาดเครื่องพิมพ์ดิจิทัลโปรดักชันอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการเปิดตัวเครื่องพิมพ์ดิจิทัลโปรดักชันรุ่นใหม่ “Canon imagePRESS V1000” วางเป้าหมายเพื่อผู้ประกอบการงานพิมพ์เชิงพาณิชย์ และศูนย์ให้บริการงานพิมพ์รายย่อย (Printing Service Provider - PSP) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ ที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์มากขึ้น
จุดเด่นคือคุณภาพงานพิมพ์สีสวยสดคมชัด บนทิศทางการพัฒนากลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์โปรดักชันเจเนอเรชันใหม่ ให้รองรับแอปพลิเคชัน และสื่อได้อย่างหลากหลาย สอดคล้องกับแนวโน้มของผู้ประกอบการธุรกิจงานพิมพ์ที่สนใจใช้โซลูชันในการพิมพ์ในยุคดิจิทัลมากขึ้น
ทั้งนี้ แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง เอเชีย เชื่อมั่นว่าประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องรุ่นใหม่นี้จะตอบโจทย์เทรนด์การพิมพ์ที่เปลี่ยนไปได้อย่างดี ซึ่งประเทศไทยถือเป็นตลาดสำคัญของแคนนอนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
นายโทเดะ คัตสึยะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (เอเชีย) ได้เผยทิศทางของธุรกิจสิ่งพิมพ์ในอนาคต รวมถึงความพร้อมในการบุกตลาดงานพิมพ์ประเภท Production Printing และความสำคัญของตลาดเมืองไทยที่มีต่อธุรกิจของแคนนอนในภูมิภาคนี้ ว่า แคนนอนวิเคราะห์ภาพรวมของธุรกิจการพิมพ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และพบแนวโน้มที่น่าสนใจว่า หลังสถานการณ์โควิด งานพิมพ์แบบแอนะล็อกมีแนวโน้มค่อยๆ ลดลง สวนทางกับงานพิมพ์แบบดิจิทัลที่เส้นกราฟค่อยๆ สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลพรินเตอร์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่นล่าสุด Canon imagePRESS V1000 เครื่องพิมพ์ดิจิทัลระดับงานโปรดักชันรุ่นแรกของกลุ่มเครื่องพิมพ์เจเนอเรชันใหม่ในซีรีส์ imagePRESS
"แคนนอนเชื่อมั่นว่าเครื่องพิมพ์รุ่นนี้จะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของธุรกิจโรงพิมพ์ในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เป็นอย่างดี เพราะมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น In-Line Spectrophotometer, POD-SURF, Cooling Unit ในตัว และอีกมากมาย ซึ่งสามารถตอบโจทย์ผู้ให้บริการด้านงานพิมพ์เชิงพาณิชย์ซึ่งต้องพิมพ์งานปริมาณมากอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังให้บริการงานพิมพ์ที่มีความยืดหยุ่นด้วยการจัดการด้านแอปพลิเคชันที่หลากหลาย รองรับสื่อสิ่งพิมพ์ได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่การพิมพ์นามบัตร ไดเร็กต์เมล์ หนังสือ แบนเนอร์ และสื่อสร้างสรรค์ทางการตลาดต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพงานพิมพ์ ลดปัญหาจุกจิก ประหยัดต้นทุนและเวลาในการพิมพ์ เพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการได้มากขึ้น"
Canon imagePRESS V1000 มีจุดเด่นด้านความสามารถในการผลิต (Productivity) คุณภาพงานพิมพ์ (Quality) และความหลากลายของวัสดุพิมพ์ (Media Versatility) ด้วยเทคโนโลยีใหม่ที่ติดตั้งภายในตัวเครื่อง ทั้ง In-Line Spectrophotometer (ILS) ซึ่งช่วยในการคาลิเบรตได้อย่างง่ายดายในไม่กี่คลิก ทั้งยังสามารถตั้งค่าล่วงหน้าได้ตามต้องการ ทำให้พิมพ์งานได้ง่ายขึ้น ลดข้อผิดพลาด ควบคุมคุณภาพงานสีให้ได้มาตรฐาน การสร้างโปรไฟล์สี การคาลิเบรตแบบ G7® และอื่นๆ ได้ มีระบบควบคุมให้เลือก 2 แบบคือ PRISMAsync Print Server และ imagePRESS Server D3000 เพื่อการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ
ยังมี Image Transfer นวัตกรรมการปรับปรุงทางเดินกระดาษแบบใหม่ที่รองรับสื่อได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งกระดาษบางและหนาสุดถึง 400 แกรม ช่วยให้พิมพ์งานได้อย่างต่อเนื่อง ลดโอกาสกระดาษเด้งหรือโค้งงอ ทำให้ได้การกระจายของสีที่สม่ำเสมอ แม้ต้องพิมพ์งานสลับกระดาษคนละชนิดกันทำให้งานพิมพ์คุณภาพสม่ำเสมอ ลดความผิดพลาดแม้พิมพ์งานกับกระดาษหลายชนิดพร้อมกัน
รวมถึง POD-SURF (Surface Rapid Fusing) ช่วยควบคุมอุณหภูมิตลอดการพิมพ์งานให้คงที่เพื่อรักษาคุณภาพการลงสีที่สม่ำเสมอ รองรับการพิมพ์งานได้ที่ความเร็ว 100 หน้าต่อนาที และเมื่อใช้งานกับ Multi-Drawer Paper Deck จะสามารถรองรับแอปพลิเคชันการพิมพ์ขั้นสูงเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน มี Cooling Unit ชุดระบายความร้อนในตัว ทำให้กระดาษเย็นตัวลงทันทีหลังการพิมพ์ถึง 25% ลดการเกิดปัญหากระดาษงอ หรือกระดาษติด ลดปัญหาที่เกิดจากงานพิมพ์
สุดท้ายคือ 3-check point Registration นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยในการพิมพ์งานแบบ 2 หน้า โดยเพิ่มจุดเช็กพอยนต์จากเดิม 1 จุด เป็น 3 จุด เพิ่มความแม่นยำในการพิมพ์หน้าหลังให้มีความเที่ยงตรงสูงสุด