เปิดตัวโปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 ถูกเคลมเป็นแพลตฟอร์ม โมบาย เวิร์กสเตชันที่ดีที่สุดในโลก ยกโปรเซสเซอร์ HX รุ่นใหม่เป็นขุมพลังงานที่ทรงพลังที่สุดในตระกูลโปรเซสเซอร์โมบาย Intel Core เจเนอเรชัน 12 ตั้งแต่ที่เคยมีมา
คริส วอล์คเกอร์ รองประธานบริษัทอินเทลและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Mobility Client Platforms กล่าวว่า ด้วยสถาปัตยกรรมหลักตัวใหม่และขุมพลังที่สูงขึ้นของโปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 ทำให้อินเทลสามารถช่วยให้เหล่าบรรดานักผลิตคอนเทนต์สามารถจัดการกับเวิร์กโฟลว์ที่ต้องใช้พลังงานมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้มั่นใจได้ว่าความสมบูรณ์และน่าเชื่อถือของข้อมูลระบบจะอยู่ในระดับสูง
"เช่น การปล่อยให้โปรแกรมทำการเรนเดอร์ภาพ 3D ในพื้นหลัง ในขณะที่เรายังสามารถทำงานภาพ 3D อื่นๆ ได้บนหน้าจอไปพร้อมกัน โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เวิร์กโหลดที่เกี่ยวข้องกับตัวประมวลผลทำงานให้เสร็จก่อนอีกต่อไป คุณสามารถทำงานอื่นต่อได้เลย นอกจากนี้ เกมเมอร์ และนักผลิตคอนเทนต์ยังสามาถเข้าถึงเทคโนโลยีแพลตฟอร์มแบนด์วิดธ์ขั้นสูงอย่าง PCIe เจเนอเรชัน 5 ที่มาพร้อมกับ RAID และหน่วยความจำ ECC เพื่อให้มั่นใจได้ว่าความสมบูรณ์และน่าเชื่อถือของข้อมูลระบบอยู่ในระดับสูง"
มีอะไรใหม่-ทำไมสำคัญ?
Intel Core HX ถูกประกาศในงาน Intel Vision 2022 โดยอินเทลเปิดตัวโปรเซสเซอร์โมบายรุ่นใหม่ 7 ตัวในตระกูล Intel Core Mobile เจเนอเรชัน 12 โดยโปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 ในตระกูลโมบาย ใช้ซิลิคอนขนาดเดียวกันกับที่ใช้ในตระกูลเดสก์ท็อป เพื่อมอบประสิทธิภาพของเวิร์กโฟลว์การทำงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD การทำแอนิเมชันและภาพเอฟเฟกต์
นอกเหนือไปจากนี้โปรเซสเซอร์ HX ยังปลดล็อกมาให้ตั้งแต่แกะกล่อง และพร้อมวางจำหน่ายในรุ่น Core i5 Core i7 และ Core i9
ความสำคัญของการเปิดตัวนี้คือเหล่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญและครีเอเตอร์ต่างต้องการพลังการประมวลผลและแบนด์วิดธ์ของแพลตฟอร์มที่ทรงพลังมากขึ้น เพื่อการสร้างคอนเทนต์ที่รวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจต่างๆ และเอเยนซีสายงานโปรดักชันสามารถทำงานได้ถึงเป้า และอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ ภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานที่รวดเร็ว
นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 ยังเปิดใช้งานแพลตฟอร์มเวิร์กสเตชันโมบายที่ดีที่สุด โดยให้ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้น 65% กว่าการทำงานในเวิร์กโหลดแบบมัลติเธรด ที่มีจำนวนคอร์ที่เยอะขึ้น หน่วยความจำที่เพิ่มขึ้น และ I/O ที่มากขึ้น ในขณะที่ใช้เทคโนโลยี Intel® Thread Director เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานของ P-core (Performance-core) และ E-core (Efficient-core) เพื่อให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญสามารถสร้าง ตั้งโปรแกรม เรนเดอร์ และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะในที่ทำงาน ที่บ้าน หรือระหว่างเดินทาง
นอกเหนือจากการเป็นเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว โปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 ยังมอบแพลตฟอร์มขุมพลังในการเล่นเกมที่จะให้อัตราเฟรมเรตที่สูงขึ้นแก่เกมที่เหล่าเกมเมอร์ชื่นชอบ
อินเทลมั่นใจว่าตระกูลโปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 มอบประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสมกับโลกการทำงานในปัจจุบัน การร่วมมือการทำงานระหว่างหลายฝ่าย การสร้างสรรค์คอนเทนต์ เล่นเกม รวมไปถึงความบันเทิงที่มาในรูปแบบนวัตกรรมโมบาย ได้แก่ จำนวนคอร์สูงสุดถึง 16 คอร์ (8 Performance-cores และ 8 Efficient-cores) และ 24 เธรดที่ทำงานด้วยกำลังของโปรเซสเซอร์ที่ 55 วัตต์ รวมถึงเข้าถึง x16 PCIe เจเนอเรชัน 5.0 ผ่านโปรเซสเซอร์และ 4x4 PCIe เจเนอเรชัน 4.0 จาก Platform Controller Hub (PCH) สำหรับแบนด์วิดธ์ที่เพิ่มขึ้นและการถ่ายโอนข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
โปรเซสเซอร์โมบายตระกูลแรกในอุตสาหกรรมที่ถูกปลดล็อกและสามารถโอเวอร์คล็อกได้
ขณะเดียวกัน ชิปใหม่ก็รองรับหน่วยความจำสูงสุดที่ 128GBs จาก DDR5/LPDDR5 (สูงสุดที่ 4800MHz/5200MHz) และ DDR4 (สูงสุดที่ 3200MHz/LPDDR4 4267MHz) พร้อมความสามารถ Error Correcting Code (ECC) บนดีไซน์ที่มาพร้อมกับ Intel® Wi-Fi 6/6E (Gig+) สำหรับการเชื่อมต่อที่ดีมากขึ้นและการเข้าถึงคลื่นความถี่ 6 GHz สเปกตรัมใหม่
ดีไซน์ของ Workstation และเกมมากกว่า 10 แบบที่ขับเคลื่อนโดยโปรเซสเซอร์ Intel Core HX เจเนอเรชัน 12 คาดว่าจะเปิดตัวโดย OEM รายใหญ่ในปีนี้ รวมถึงระบบจาก Dell, HP, Lenovo และอื่นๆ
