สหภาพฯ NT จี้ ‘ชัยวุฒิ’ ตั้งคนนอกสอบแดนสนธยา ‘คลื่น 700 MHz’

สหภาพฯ NT ร้อง ‘ชัยวุฒิ’ ตั้งคนนอกสอบผู้บริหาร NT ทำแผนธุรกิจคลื่น 700 MHz ล่าช้า เหตุประมูลราคาแพง ไม่เห็นแผนธุรกิจที่ชัดเจน ส่งผลการจับมือพันธมิตรอืด ไม่ได้ข้อสรุป แถมแผนธุรกิจที่เสนอบอร์ดส่อแววขาดทุนตั้งแต่ปีแรก หรือทั้งโครงการกว่า 10,000-30,000 ล้านบาท คนวงในยันหากบอร์ดอนุมัติเท่ากับเร่งให้ NT เจ๊งเร็วขึ้น

นายพงศ์ฐิติ พงศ์ศิลามณี ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT กล่าวว่า วันนี้ (6 พ.ค.) ได้ยื่นหนังสือถึง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อขอให้ตรวจสอบสภาพปัญหาการใช้ประโยชน์ของคลื่นความถี่ย่าน 700 MHZ ของ NT ที่ยังไม่มีแผนธุรกิจ ทำให้ไม่สามารถนำคลื่นความถี่ไปใช้ประโยชน์ในการประกอบกิจการมือถือได้

แต่ในทางกลับกัน คลื่น 700 MHZ กลายเป็นภาระที่องค์กรต้องหาเงินเพื่อนำส่งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เป็นค่าประมูลคลื่นที่ได้ ทำให้ระยะเวลาที่ผ่านไปสร้างความเสียหายขององค์กรที่ไม่สามารถนำคลื่นความถี่ 700 MHz ไปใช้ประโยชน์

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT พบว่า แผนธุรกิจที่เขียนขึ้นรองรับการนำคลื่นความถี่ 700 MHZ ไปประกอบกิจการในรูปแบบการหาพันธมิตรมาร่วม 6 ราย ต่างไม่มีแนวโน้มที่จะใช้เป็นแผนธุรกิจสำหรับประกอบธุรกิจได้ เพราะไม่มีโอกาสที่จะสร้างกำไรให้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างแผนพันธมิตรกับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเอไอเอส แผนธุรกิจทำให้ NT ขาดทุนปีแรกทันทีและขาดทุนทั้งโครงการกว่า 10,000 ล้านบาท หรือการเป็นพันธมิตรกับบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ขาดทุนปีแรกทันทีและขาดทุนทั้งโครงการกว่า 30,000 ล้านบาท

จึงมีข้อสงสัยว่าในช่วงที่บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ตัดสินใจประมูลคลื่นความถี่ 700 MHz ในขณะนั้นมีแผนธุรกิจก่อนการตัดสินใจเคาะราคาประมูลในราคาสูงขนาดนั้นหรือไม่ องค์กรได้มีการศึกษาความเป็นไปใด้ที่จะนำคลื่นความถี่ 700 MHz มาใช้ประโยชน์อย่างไร มีการเขียนแผนธุรกิจรองรับก่อนการประมูลคลื่นความถี่หรือไม่ เพื่อให้ได้ตัวเลขของราคาประมูลที่เหมาะสมและสอดคล้องกับความเป็นไปได้ของแผนธุรกิจที่จะนำมาใช้ในการประกอบกิจการต่อไป เพราะในปัจจุบันมีแต่ข้อเท็จจริงว่า องค์กรประมูลคลื่นความถี่ได้ในราคาที่แพงมาก แต่องค์กรยังไม่สามารถกำหนดแผนธุรกิจเพื่อนำคลื่นความถี่ไปใช้ในการประกอบกิจการได้เลย

‘หากมีแผน เหตุใดจึงไม่มีใครเห็นแผนธุรกิจตัวจริงดังกล่าวก่อนที่จะร่างแผนธุรกิจกับพันธมิตรและเห็นผลว่าต้องขาดทุน ไม่มีกำไร จึงทำให้เป็นที่มาว่ายังไม่สามารถหาพันธมิตรทางธุรกิจได้ เพราะหากเห็นแผนก่อนประมูล องค์กรก็ย่อมสามารถเดินตามแผนได้ ไม่ต้องมานั่งร่างแผนให้เสียเปรียบพันธมิตร’ นายพงศ์ฐิติ กล่าว

นายพงศ์ฐิติ กล่าวต่อว่า สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ NT ขอขอบคุณท่านรัฐมนตรีที่ห่วงใยและสั่งการให้มีการตรวจสอบ แต่กระบวนการตรวจสอบ หากใช้บุคลากรขององค์กร NT ที่เป็นผู้มีผลได้ผลเสียในการประมูลคลื่นและการบริหารจัดการคลื่นความถี่ ก็ย่อมยากต่อการได้คำตอบหรือสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถนำคลื่นความถี่ 700 MHz ไปประกอบกิจการได้ การปล่อยเวลาให้ผ่านไปจะสร้างความเสียหายให้เกิดขึ้นกับองค์กรอย่างไม่จบสิ้น

ดังนั้น จึงขอให้ รมว.ดีอีเอส พิจารณาแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญทั้งในทางกฎหมายและการประกอบธุรกิจที่เป็นคนนอกองค์กรมาร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น นำความจริงมาเปิดเผย เพื่อที่องค์กรจะได้แก้ไขปัญหาได้ตรงกับสาเหตุของปัญหา เพราะปัจจุบันประธานบอร์ด NT พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ เคยเป็นประธานบอร์ด กสท โทรคมนาคม ในสมัยที่ประมูลคลื่น 700 MHz รวมถึงว่าที่กรรมการผู้จัดการใหญ่อาจเป็น พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ กสท โทรคมนาคม จึงควรมีคนนอกมาตรวจสอบมากกว่าให้คนในตรวจสอบกันเอง

แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคมกล่าวว่า หากผลศึกษาก่อนประมูลคลื่น 700 MHz ของ กสท โทรคมนาคม สามารถปฏิบัติและทำธุรกิจได้จริงคงต้องเห็นบริการอะไรออกมาแล้ว เพราะ NT ประมูลคลื่นความถี่มา 2 ปีและจ่ายค่าคลื่น 700 MHz ไป 2 งวดแล้วประมาณ 7,000 ล้านบาท แต่ไม่เห็นมีรายได้กลับมาสักบาทเดียว หากทุกการตัดสินใจทำบนแผนธุรกิจที่สมจริงมีเหตุผล มันต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น

‘สิ่งที่ต้องทำคือเอาแผนธุรกิจที่ กสท โทรคมนาคมทำตอนประมูลคลื่น 700 MHz มากางดู วิเคราะห์เปรียบเทียบกับราคาประมูลที่สูงกว่าเอกชนเท่าตัว จาก 1.7 หมื่นล้านบาทเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท วิเคราะห์ว่าสมเหตุสมผลหรือไม่ เพราะแว่วว่าผลการศึกษายังลืมใส่ต้นทุนบางรายการที่สำคัญลงไป แต่งตัวเลขเต็มที่ยังแค่ปริ่มๆ น้ำ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตาเปล่าไม่ต้องใช้นักวิเคราะห์วุ่นวาย คือ หากทำได้จริงต้องเห็นบริการ เห็นรายได้กลับมาบ้าง ไม่ใช่ดันทุรังจะอนุมัติหาพาร์ตเนอร์ที่ผลศึกษาขาดทุนตั้งแต่วันแรกหากเลือกทางนี้’

แหล่งข่าวระบุว่า สิ่งที่น่าสนใจสำหรับ NT วันนี้คือความพยายามจับคู่ระหว่างประธานบอร์ดกับซีอีโอ ที่เคยทำสำเร็จตอนประมูลคลื่น 700 MHz แว่วว่าตอนนั้นคำสั่งคือ ‘ต้องประมูลมาให้ได้’ โดยไม่แม้กระทั่งกำหนดเพดานสูงสุดที่ไม่ควรเคาะราคาแบบบ้าระห่ำ ทางออกวันนี้ไม่น่าจะใช่แค่ทำหนังสือจี้ รมว.ดีอีเอส ให้หาคนนอกมาตรวจสอบ แต่ควรส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.กล่าวหาคนที่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อเอาเอกสารข้อเท็จจริงทั้งหมดมาเปิดเผย ไม่ใช่ซุกไว้ใต้พรมในห้องทำงานของบางคนเท่านั้น เพราะความเสียหายต่อรัฐได้เกิดขึ้นแล้ว

‘เรื่องนี้ควรถึง ป.ป.ช.ได้แล้ว เพราะขนาดประธานบอร์ด NT คนก่อนยังกระโดดหนี เล่นกันจนองค์กรจะลงเหวแล้ว’