AIS เปิดฉากกระทุ้ง กสทช. ย้ำหน้าที่หน่วยงานกำกับดูแลควรทำตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ประชาชน และผู้ประกอบการ พร้อมเดินหน้าปรับองค์กรสู่ Cognitive Telco ตอบรับการสร้างประสบการณ์ลูกค้าแบบใหม่ โชว์ศักยภาพ ‘AIS5GVerse’ แสดงความพร้อมเข้าสู่ยุค Metaverse
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS กล่าวถึงเป้าหมายในการเป็น Cognitive Telco หรือองค์กรโทรคมนาคมอัจฉริยะ ที่วางแผนไว้ในช่วง 3 ปีข้างหน้านั้น ในปัจจุบัน เอไอเอสจะยังมีโครงสร้างหลักยังเป็นดิจิทัลไลฟ์ เซอร์วิส โพรวายเดอร์ เพื่อให้บริการดิจิทัลแก่ผู้ใช้งาน แต่ถ้าสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้
แต่เมื่อเป็น Cognitive Telco จะยกระดับบริการดิจิทัลที่จะครอบคลุมใน 3 ส่วนด้วยกันคือ 1.เปิดให้ผู้ใช้บริการมีส่วนร่วม 2.ให้บริการเฉพาะบุคคลมากยิ่งขึ้น 3.ระบบที่ตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วแบบเรียลไทม์
ด้วยการทำให้เครือข่ายเป็นเน็ตเวิร์กอัจฉริยะให้มากกว่านี้ อย่างกรณีที่เครือข่ายบางจุดมีปัญหาจะมีการสลับการใช้งานโครงข่ายโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการใช้งานกับผู้บริโภค
อีกสิ่งที่ต้องทำคือปรับปรุงระบบไอทีให้เป็นคลาวด์ทั้งหมด มีการนำ AI เข้ามาช่วยจัดการข้อมูลให้มากขึ้น ซึ่งในแวดวงการโทรคมนาคมไม่ได้ทำตรงนี้อย่างจริงจัง ผิดกับผู้ให้บริการ OTT ในต่างประเทศที่ลงทุนตรงนี้อย่างจริงจัง ทำให้ต้องการนำเทคโนโลยีมาใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ขณะเดียวกัน ในส่วนของงาน AIS5GVerse ในวันนี้ เกิดขึ้นเพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่า AIS ได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้แก่ประเทศไทย และกลายเป็นไม่แพ้ชาติใดในโลก รวมถึงการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่างเมตาเวิร์ส ที่ผสมผสานโลกแห่งความเป็นจริง และโลกเสมือนเข้าด้วยกัน อย่างการแสดงของแบมแบม GOT7 และไอรีน
สุดท้ายคือการขอบคุณลูกค้า นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ปกติ วันนี้มีเพิ่มเติมอย่าง AIS Point ที่เข้าไปช่วยเหลือร้านค้า โดยเฉพาะโครงการร้านค้าถุงเงินของธนาคารกรุงไทยกว่า 400,000 ร้านค้าทั่วประเทศ
ปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหาร กลุ่มลูกค้าทั่วไป กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันลูกค้ากว่า 45 ล้านรายของ AIS นั้นมีปริมาณ AIS Point รวมกันหลายพันล้านบาท รวมถึงการที่ AIS เปิดให้ลูกค้าสามารถนำแต้มบัตรเครดิตเข้ามาแลกเพิ่มเติมด้วย จึงกลายเป็นอีกช่องทางในการใช้ชำระเงินร้านค้าต่างๆ ทั่วประเทศ
ในส่วนของยุทธศาสตร์การทำธุรกิจของ AIS ในปีนี้ จะยังครอบคลุมใน 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย 1.ธุรกิจโทรศัพท์มือถือ ที่ยังคงเป็นรายได้หลักของ AIS ซึ่งจะเน้นพัฒนาในการลงทุนเพิ่มเรื่องของโครงข่ายอัจฉริยะ ตามมาด้วย 2.AIS Fibre และ Enterprise Business ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมกับนำนวัตกรรมมาเสริมการทำงานร่วมกับพันธมิตร
สุดท้ายคือ 3.New Digital Service ในการทำธุรกิจใหม่ๆ อย่างความร่วมมือในธุรกิจการเงินอย่าง AISCB รวมถึงการที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสของ Metaverse ที่ได้ริเริ่มแล้วเป็นรายแรก ซึ่งถ้าในอนาคตมีแนวทางชัดเจนที่จะสร้างรายได้ ทาง AIS มีความพร้อมอยู่แล้ว
***ภาพการแข่งขันหลังคู่แข่งควบรวม
ขณะเดียวกัน AIS ประเมินภาพของการแข่งขันที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ดุเดือดมาก ทั้งในส่วนของพรีเพด และโพสต์เพด โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่ในช่วง 8 ไตรมาสที่ผ่านมา มีการแข่งขันกันต่อเนื่อง ไม่มีช่วงไหนที่ผ่อนคลายเลย
อย่างไรก็ตาม ในแง่ของหลักเศรษฐศาสตร์ เมื่อคู่แข่งน้อยราย การแข่งขันจะน้อยลง ทำให้ในทางหนึ่งเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่สุดท้ายต้องดูในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหลังจากนี้
ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญที่ต้องจับตามองคงหนีไม่พ้นการกำกับดูแลของหน่วยงานอย่างคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ที่ต้องมีความชัดเจน
สมชัย ฝากถึง กสทช. ชุดใหม่ที่เข้ามารับหน้าที่ว่า อยากให้ทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องของการดูกฎหมายว่าต้องทำอย่างไรถึงถูกต้องตามกฎหมาย และอีกเรื่องคือการกำกับดูแลให้ถูกต้อง ในการตัดสินให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ ประชาชน และผู้ประกอบการ