นับเป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้วหลังจากที่รัฐบาลจีนสั่งแบนการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกอย่างกะทันหัน ล่าสุด แอนท์ กรุ้ป (Ant Group) บริษัทใหญ่ด้านฟินเทคของจีนที่ควบคุมโดย แจ็ค หม่า (Jack Ma) ผู้ร่วมก่อตั้งอาลีบาบา กำลังจะได้รับการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ซึ่งจะทำให้ Ant Group อยู่ภายใต้การควบคุมด้านกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลจีนประกาศระงับการเสนอขายหุ้น IPO ของ Ant Group ซึ่งมีมูลค่ากว่า 37,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอย่างกะทันหัน จนถูกจัดเป็นการ ดับฝันมหกรรมการขาย IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในโลก เหตุผลที่ถูกประกาศออกมาคือความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริการเทคโนโลยีทางการเงินที่ไม่ได้รับการควบคุมในประเทศ และ พลังที่เพิ่มขึ้นของภาคเทคโนโลยีของจีนในวงกว้างมากขึ้น ดังนั้น จึงมี คำสั่งให้ Ant Group ต้องผ่าตัดตัวเอง ซึ่งภายใต้แผนการปรับโครงสร้างใหม่ Ant Group จะกลายเป็นบริษัทโฮลดิ้งทางการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับข้อกำหนดใหม่ที่หน่วยงานกำกับดูแลจีนเพิ่งประกาศใช้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
โฆษกของ Ant Group ยืนยันแผนการปรับโครงสร้างรอบนี้ ทำให้พบว่าบริษัทจะเปลี่ยนแปลงใน 6 ด้านหลัก 1 ในนั้นคือธุรกิจการชำระเงินของ Ant Group จะให้บริการผู้บริโภคและผู้ประกอบการรายย่อย (SME) โดยมุ่งเน้นไปที่การชำระเงินแบบมูลค่าน้อย (micro-payments) และทำให้ทุกคนทำธุรกรรมได้สะดวกสบาย จุดนี้ Ant ใช้คำว่าเป็นการ “กลับสู่จุดเริ่มต้น” เพื่อดูแลบริการหลักของบริษัทให้เข้มข้นเต็มที่
2.Ant Group จะจัดตั้งบริษัทรายงานข้อมูลเครดิตส่วนบุคคล และจะยื่นขอใบอนุญาตการรายงานเครดิตส่วนบุคคล 3.Ant Group ปฏิญาณว่าจะเสริมสร้างการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลให้รัดกุม และป้องกันการละเมิดหรือนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิดอย่างมีประสิทธิภาพ
4.บริษัทลูกของ Ant อย่าง Jiebei และ Huabei จะดำเนินการโดยบริษัทเงินทุนเพื่อผู้บริโภคของ Ant Group ซึ่งจะดำเนินการตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง 5.Ant Group จะส่งเสริมการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค และการจัดการความเหมาะสมของบริการด้านการเงินสำหรับผู้บริโภค
สุดท้าย 6.Ant Group ยังวางแผนที่จะปรับปรุงการกำกับดูแลกิจการให้ส่งเสริมกับการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยจะจัดระเบียบธุรกรรมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อย คู่กับการส่งเสริมการป้องกันและควบคุมความเสี่ยง และการสร้างสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เป็นธรรม
Ant Group ตบท้ายว่า การปรับโครงสร้างใหม่จะเสริมสร้างความมุ่งมั่นด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัท ซึ่งเป็น จุดยืนที่แจ็ค หม่า โฟกัส มาตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่มีข่าวลือหนาหู