ในที่สุด กลุ่มค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ของโลกอย่างอาลีบาบา (Alibaba Group Holding Limited) ก็ถูกทางการจีนจัดการในข้อหาผูกขาดทางการค้า เป็นค่าปรับทางการค้าที่สูงสุดในประเทศจีนที่ 1 หมื่นแปดพันล้านหยวน หรือ 82,500 ล้านบาท เฉียดๆ 1 แสนล้านบาททีเดียว!
หลังจากมีการสอบสวนกรณีผูกขาดจากหน่วยงานต่อต้านการผูกขาด ที่ทำงานอย่างเข้มแข็งไม่เห็นแก่หน้าของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อย่างแจ็ค หม่า แต่อย่างใด
เป็นการเชือดบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน และเป็นยักษ์ที่ใหญ่เกือบสุดของโลก เพื่อเป็นเยี่ยงอย่างแก่เหล่าบริษัทยักษ์ด้านไอทีของจีนที่กำลังผงาดเป็นบริษัทยักษ์ของโลกขณะนี้ด้วยซ้ำ
ข้อสังเกตคือ ขณะที่บริษัทยักษ์ของจีนขณะนี้กำลังขับเคี่ยวเพื่อเป็นหมายเลขหนึ่งในโลกแข่งขันอย่างเอาเป็นเอาตายกับบริษัทยักษ์ของสหรัฐฯ เช่น AMAZON แต่รัฐบาลจีนก็ยังกลับมาดึงขาบริษัทยักษ์ของจีนเอง ให้ต้องวิ่งช้าลงไป
ขณะที่สหรัฐฯ เองในสมัยแรกของทรัมป์ ก็ถึงกับขึงขังจะถอดบริษัทยักษ์ของจีนออกจากตลาดทุนที่จดทะเบียนในกระดานแนสแด็ก และเอสแอนด์พี; เพื่อปิดโอกาสให้บริษัทจีนได้มาเพิ่มสินทรัพย์ในประเทศสหรัฐฯ นั่นเอง
ในด้านทางการจีน ท่ามกลางวิกฤตโควิดตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กลับทำให้กลุ่มอาลีบาบาขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เมื่อคนต้องถูกกักตัวจับเจ่าอยู่กับบ้าน เบื้องต้นก็ช่วงตรุษจีนของปี 2020 ที่มีการล็อกดาวน์ถึง 76 วันติดต่อกัน แต่ธุรกิจอาลีบาบาก็เดินหน้าดียิ่งกว่าในปี 2019 ด้วยซ้ำ
พอมาปลายปี กลุ่มอาลีบาบาก็ชะล่าใจเตรียมนำบริษัทการเงิน Ant Financial ของตนเข้าระดมทุนในตลาด...แต่ก็ถูกทางการจีนสั่งตรวจสอบการผูกขาดตลาด (หรือมีอิทธิพลเหนือตลาด) เพราะเป็นการผูกขาดอย่างครบวงจร...จากขายปลีก...มาปล่อยกู้พร้อมบริการทางการเงินอย่างเต็มที่
มีการมองกันว่า เพราะความยิ่งใหญ่มีชื่อเสียงระดับโลกของแจ็ค หม่า จนทำให้เขาลำพองตัวว่า เขาน่าจะยิ่งใหญ่กว่าเหล่าเจ้าพ่อไอทีและค้าปลีกระดับเจฟฟ์ เบซอส หรือมาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ได้สบายๆ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณี Ant Group นั้น จะให้บริการปล่อยกู้ให้แก่พลเมืองจีนที่กว้างใหญ่ระดับพันล้าน ซึ่งถือว่ามีอิทธิพลสูงมากเมื่อเทียบกับการปล่อยกู้แก่ประชาชนที่เป็นลูกค้าธนาคาร และสถาบันการเงินในประเทศอื่น
ทั้งๆ ที่สถานะของ Ant ก็ไม่ใช่ธนาคาร (เป็น non-bank) ซึ่งหมิ่นเหม่ต่อข้อบังคับที่เคร่งครัดสำหรับสถาบันการเงินอื่นๆ คือ กฎข้อบังคับที่เคร่งครัดของธนาคารจะใช้ไม่ได้กับ Ant นั่นเอง
Ant ก็คือ มด ถ้ามดตัวเล็กๆ ตัวเดียวพิษก็คงไม่มาก แต่ถ้ามดนี้เป็นมดคันไฟที่ขยายเป็นมดพันล้านตัว ก็สามารถสร้างปัญหาแก่ประเทศจีนได้เช่นกัน
ดังนั้น คำพูดเพียงไม่กี่คำของแจ็ค หม่า ที่ออกมากระแนะกระแหนธนาคารกลางของจีน...ตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของจีนว่า “ล้าหลัง” และไม่ทันกับความก้าวหน้าที่ใช้เทคโนโลยี; ตลอดจนการสนับสนุนให้รูปแบบธุรกรรมทางการเงินได้สามารถพลิกแพลงมากยิ่งขึ้น...จึงน่าจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทางการจีนไม่ปล่อยเลยตามเลยอีกต่อไป...และทันทีได้สั่งระงับการเข้าจดทะเบียนระดมทุนในตลาดทุนของจีน...พร้อมกับการเข้าสอบสวนถึงพฤติกรรมของกลุ่มอาลีบาบาว่าด้วยการมีอิทธิพลเหนือตลาด
มีการตั้งข้อสังเกตจากนักวิเคราะห์หลายคนด้วยว่า การที่แจ็ค หม่า ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ประกาศลาออกจากการเป็นซีอีโอของกลุ่มอาลีบาบา...เมื่อตอนที่เขาอายุครบ 50 ปี แล้วได้ประกาศยังดำรงตำแหน่งแค่ประธานกรรมการใหญ่ของบริษัทเท่านั้น...น่าจะเป็นช่วงที่เขาได้รับสัญญาณเตือนมาจากทางพรรคหรือทางรัฐบาลแล้วด้วยซ้ำ เพราะขณะนั้นกิจการของอาลีบาบาก็เริ่มมีขนาดใหญ่โตมโหฬาร ทั้งในจีนเอง และข้ามประเทศไปทั่วโลก
แต่สำหรับกิจการของ Ant ในเครืออาลีบาบานี้ จะยิ่งมีอิทธิพลต่อชาวจีนที่อาจตกเป็นเหยื่อทางการเงินได้อย่างง่ายดาย
จึงทำให้ทั้งพรรคและรัฐบาลจีนได้รีบออกมาตัดไฟแต่ต้นลม ที่จะไม่ยอมให้แจ็ค หม่า ได้มีอิทธิพลใหญ่โตเหนือชีวิตของชาวจีนส่วนใหญ่ได้
ไม่ใช่ว่า แจ็ค หม่า จะยิ่งใหญ่เกินกว่าพรรคหรือรัฐบาล...แต่เพื่อปกป้องชีวิตของชาวจีนส่วนใหญ่ต่างหาก
ต่างกับบ้านเราที่คนไทยทั้งประเทศต้องตกเป็นเหยื่อกับการผูกขาดทุกวี่ทุกวัน ทั้งราคาน้ำมันก็แพงกว่าที่สหรัฐฯ, ค่าโดยสารรถขนส่งมวลชนชนิดด่วน (ไฟฟ้า) ก็แพงหูฉี่, ราคาไข่และไก่ก็แพงกว่าที่สหรัฐฯ และรวมถึงค่าบริการสาธารณูปโภคหลายอย่างก็แพงกว่าประเทศพัฒนาแล้วด้วยซ้ำ
คงเป็นอีกปีใหม่ไทย...สงกรานต์ 2564 ที่เรายังต้องทนอยู่กับการผูกขาดอีกต่อไป