xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มทรู ปี 63 ธุรกิจหลักเติบโตเหนืออุตสาหกรรม รายได้รวม 138,212 ล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มทรู รายงานผลการดำเนินงาน มีรายได้จากการให้บริการหลักเติบโต 3% จากปีก่อน ผลักดันรายได้จากการให้บริการรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1.072 แสนล้านบาท และรายได้รวมเป็น 1.382 แสนล้านบาทในปี 2563 แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 และสภาพเศรษฐกิจในประเทศ

โดยธุรกิจโทรคมนาคมหลักเติบโตเหนืออุตสาหกรรม แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่โต 3% จากปีก่อน ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตมีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มสูงสุด 390,000 ราย ขณะที่รายได้จากแพลตฟอร์มและบริการด้านดิจิทัลเติบโตต่อเนื่องในอัตราแบบเลข 2 หลัก

รวมทั้งการให้ความสำคัญกับคุณภาพการขายและการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ EBITDA ในปี 2563 เติบโตขึ้นในอัตรา 18% จากปีก่อนเป็น 3.72 หมื่นล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 1.8 พันล้านบาทในปี 2563

น.ส.ยุภา ลีวงศ์เจริญ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2563 นับเป็นปีที่ท้าทายสำหรับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศและจำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม กลุ่มทรูยังคงเติบโตเหนืออุตสาหกรรม มี EBITDA เติบโตในอัตราแบบเลข 2 หลัก รายได้และฐานผู้ใช้บริการเติบโตต่อเนื่อง โดยเป็นผู้ให้บริการเพียงรายเดียวในอุตสาหกรรมที่มีรายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งธุรกิจบรอดแบนด์ก็มีรายได้เติบโตและฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นสูงกว่าตลาดเช่นกัน นอกจากนี้ แพลตฟอร์มคุณภาพและระบบนิเวศทางธุรกิจที่ครบวงจรของกลุ่มทรูยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

อีกทั้งการขับเคลื่อนองค์กรด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล คลาวด์โซลูชันและวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล ทำให้กลุ่มทรูเข้าใจและสามารถให้บริการที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปได้อย่างตรงใจโดยเฉพาะในยุค New Normal นอกจากนี้ กลุ่มทรูยังได้เพิ่มช่องทางในการบริการทั้งรูปแบบออนไลน์และ self-service ตลอดจนผสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั่วประเทศ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้สูงต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กลุ่มทรูจะเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลและเครือข่ายโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเครือข่าย 5G ตลอดจนการมุ่งสู่ช่องทางการทำตลาดรูปแบบใหม่ ที่จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า ในขณะเดียวกันยังคงมุ่งเน้นปรับโครงสร้างต้นทุนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่ม productivity ทั่วทั้งองค์กร อันจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะเพิ่ม margin และผลกำไรให้แก่กลุ่มทรูได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่องต่อไป


ทรูมูฟ เอช มีรายได้ 8.01 หมื่นล้านบาท เติบโต 3.1% ในปี 2563 สวนทางกับอุตสาหกรรมที่รายได้รวมของผู้ให้บริการรายอื่นลดลง 6% จากปีก่อน ผลประกอบการที่แข็งแกร่งนี้เป็นผลมาจากกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือนที่ทั้งรายได้และฐานผู้ใช้บริการเติบโตในอัตราแบบเลข 2 หลัก

ขณะที่ภาพรวมอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลให้กำลังซื้อผู้บริโภคอ่อนตัวโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าระบบเติมเงิน รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงมาโดยตลอด

ทั้งนี้ ทรูมูฟ เอช มีจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิ 5.41 แสนรายในไตรมาส 4 ขยายฐานผู้ใช้บริการรวมเป็น 30.6 ล้านราย แบ่งเป็นลูกค้าระบบเติมเงิน 20.9 ล้านราย และระบบรายเดือน 9.7 ล้านราย

ในขณะที่ ทรูออนไลน์ มีรายได้บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น 1.2 พันล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 4.6% จากปีก่อน เป็น 2.71 หมื่นล้านบาทในปี 2563 พร้อมจำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่สุทธิที่เติบโตสูงเหนืออุตสาหกรรม จำนวน 390,000 รายในปี 2563 ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นเป็น 4.2 ล้านราย หนุนโดยการขยายโครงข่ายไฟเบอร์และแพกเกจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 1 Gbps ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากตลาดอย่างต่อเนื่อง


ทรูวิชั่นส์ มีรายได้จากการให้บริการ 1.07 หมื่นล้านบาทใน ปี 2563 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งส่งผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและฐานลูกค้าในกลุ่มธุรกิจโรงแรม รวมถึงการเลื่อนการจัดกิจกรรมอีเวนต์และกีฬา ทำให้ทั้งรายได้และต้นทุนที่เกี่ยวข้องปรับตัวลดลง ทั้งนี้ในช่วงไตรมาส 4 เริ่มฟื้นตัวขึ้นราว 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

สุดท้าย ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป มียอดรับชมคอนเทนต์วิดิโอต่อเดือนโดยเฉลี่ยสูงถึง 256 ล้านครั้งต่อเดือนในไตรมาสที่ 4 ของปี 2563 รวมเป็นยอดรับชม 2.2 พันล้านครั้งของทั้งปี ซึ่งถือเป็นการเติบโตสูงถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ในขณะที่ยอดจำนวนการซื้อคอนเทนต์เพื่อรับชมภายในแอปพลิเคชันยังพุ่งขึ้นสูงสุดที่ 400,000 ครั้งในไตรมาสนี้

นอกจากนี้ บริการโทร.และแชตฟรีภายในแอปพลิเคชันยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยมีฐานผู้ใช้งานสูงถึง 1.12 ล้านรายในปี 2563 สำหรับแพลตฟอร์มบนจอโทรทัศน์ กล่องทรูไอดี ทีวี ได้ไต่ระดับไปอีกขั้น ด้วยยอดขายสูงถึง 2.1 ล้านกล่อง โดยทั้งหมดนี้ส่งผลให้ยอดสมัครรับชมคอนเทนต์ดิจิทัลและรายได้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง

สำหรับด้านลูกค้าองค์กร กลุ่มธุรกิจดิจิทัลโซลูชัน ได้ยกระดับโซลูชันที่ให้บริการและเชื่อมต่ออุปกรณ์เซ็นเซอร์ IoT ใช้บริการได้แล้วกว่า 380,000 อุปกรณ์ ณ สิ้นปี 2563 และได้เปิดตัว Digital Guest Solution แพลตฟอร์มที่ปฏิบัติการบนคลาวด์ ที่มาช่วยเติมเต็มช่องว่างระหว่างโลกออนไลน์และออฟไลน์สำหรับผู้ให้บริการพื้นที่อาคารในหลายอุตสาหกรรม


กำลังโหลดความคิดเห็น