xs
xsm
sm
md
lg

กูเกิลเฮการท่องเที่ยว APAC ฟื้น คนไทยสนใจค้นหาที่พักแบบพูลวิลล่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เฮอร์ไมโอนี่ จอย (Hermione Joye) หัวหน้ากลุ่มงานค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยว ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิกของ Google
กูเกิลพบความต้องการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย 50% ของผู้คนใน APAC ที่ทำแบบสำรวจบอกว่าต้องการเดินทางแล้วแนะธุรกิจท่องเที่ยวควรลงทุนกับระบบเสิร์ชเพื่อให้ทันกับความต้องการของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ระบุคนไทยสนใจค้นหาที่พักแบบพูลวิลล่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยค้นหาคือสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งสัมพันธ์กับความต้องการเช่ารถที่เพิ่มขึ้นทุกปี

โรฮัน ทานุกะ (Rohan Dhanuka) หัวหน้าทีมวิเคราะห์ข้อมูลการเดินทางและการเงินของกูเกิล กล่าวว่า ในช่วง 3 เดือนหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ความต้องการค้นหาการท่องเที่ยวฟื้นตัวประมาณ 50% จากช่วงก่อนการระบาด โดยการค้นหาโรงแรมและเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเพราะ 50% ของผู้คนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ทำแบบสำรวจบอกว่าพวกเขาต้องการเดินทางแล้วในขณะนี้

ความต้องการค้นหาการท่องเที่ยวฟื้นตัวประมาณ 50% จากช่วงก่อนการระบาด
ทานุกะ ย้ำว่า เวลานี้จีนเป็นผู้นำในเอเชียแปซิฟิกที่การท่องเที่ยวฟื้นตัวมากที่สุด 3 สิ่งที่โลกได้เรียนรู้จากจีนคือการวางแผนท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบนระบบดิจิทัล ขณะที่ความปลอดภัยคือส่วนสำคัญที่นักท่องเที่ยวจะพิจารณาเป็นอันดับแรก ทั้งหมดนี้นำไปสู่การทำธุรกิจท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ที่ต่างจากยุคก่อน

โรงแรมต้องปลอดภัยและเสี่ยงน้อย

ดังนั้น แม้นักเดินทางยุคโควิด-19 จะให้ความสำคัญกับราคา แต่การโปรโมตเรื่องความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนักเดินทางในเอเชียแปซิฟิกซึ่งเป็นภูมิภาคที่ถูกจัดอันดับความปลอดภัยสูงขึ้นหลังจากการแพร่ระบาด ล้วนมีมุมมองต้องการความปลอดภัยที่หลากหลายและแตกต่างกัน

จากการวิเคราะห์มุมมองเหล่านี้ทีมวิจัยของกูเกิลแบ่งประเทศออกเป็น 3 กลุ่มหลักคือ กลุ่ม New Normal กลุ่ม Transition และกลุ่ม Lockdown/Domestic Economic Openning โดยเวียดนาม จีน เกาหลีใต้ และนิวซีแลนด์อยู่ในกลุ่ม New Normal ซึ่งเป็นประเทศที่ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดได้ดี ความต้องการท่องเที่ยวในประเทศกลุ่มนี้จึงเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ไทยอยู่ในกลุ่ม Transition เช่นเดียวกับออสเตรเลีย และญี่ปุ่น
ขณะที่ไทย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นอยู่ในกลุ่ม Transition ต่างจากสิงคโปร์ที่กำลังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยว New Normal และ Transition ด้านอินเดีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่ในกลุ่ม Lockdown

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย กูเกิลรายงานข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยว่า การท่องเที่ยวภายในประเทศฟื้นตัวเพราะการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศด้วยมาตรการของรัฐหลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มคลี่คลายลง รัฐบาลไทยก็ได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ส่งผลให้อุปสงค์การท่องเที่ยวเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสําคัญเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

“สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลและชายหาด เช่นพัทยา และหัวหินเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวภายในประเทศอันดับต้นๆและเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทย สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่นกาญจนบุรีได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากนักท่องเที่ยวต้องการเดินเที่ยวชมธรรมชาติหรือเดินป่าระยะไกลในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ” รายงานระบุ

แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยค้นหาได้แก่สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ (เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) และสัมพันธ์กับความต้องการเช่ารถที่เพิ่มขึ้นทุกปี เช่นเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวริมทะเลเช่น สถานแสดงพันธุ์สัตว์นํ้าภูเก็ต (Phuket Aquarium) และชายหาดต่างๆ ทั่วประเทศก็ได้รับความนิยมเช่นกัน

สถิติที่น่าสนใจจากรายงานคือความสนใจค้นหาที่พักแบบพูลวิลล่าเพิ่มขึ้น 2 เท่า บ่งบอกถึงความต้องการสิ่งอํานวยความสะดวกที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น

พัทยาและหัวหินเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวภายในประเทศอันดับต้นๆ


นอกจากนี้ ความสนใจเช่ารถในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมยังเพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ขณะที่ความสนใจสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติในช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคมเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

ต้องให้ข้อมูลนักท่องเที่ยว

เฮอร์ไมโอนี่จอย (Hermione Joye) หัวหน้ากลุ่มงานค้นหาข้อมูลการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกของกูเกิล ระบุว่า ชาวเน็ตส่วนใหญ่มักค้นหาถึงสถานที่ที่จะเดินทางไปโดยตรวจสอบว่าตารางเวลาที่วางไว้มีความปลอดภัยสำหรับการเดินทางหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้นักท่องเที่ยวจะหาจุดหมายปลายทางได้ยากมากเนื่องจากโรคสามารถแพร่กระจายได้เร็ว ในขณะที่หลายรัฐบาลมีข้อจำกัดและเปลี่ยนแปลงมาตรการตลอดเวลาการเดินทางจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักท่องเที่ยวรวมถึงเธอเองด้วย

ผู้บริหารกูเกิลจึงแนะนำให้ธุรกิจและประเทศต่างๆ ลงทุนในฐานข้อมูลออนไลน์เพื่อให้ทันกับความต้องการของนักเดินทางที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เธอย้ำว่าธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องสร้างความไว้วางใจจากผู้เยี่ยมชมโดยใส่ข้อความเรื่องสุขอนามัยและความปลอดภัยไว้ในแบรนด์ของตัวเอง

จอย ยอมรับว่า กูเกิลได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวทั่วภูมิภาคโดยเฉพาะรายได้จากโฆษณาที่ดีดตัวสูงขึ้นแต่ประโยชน์นี้ก็เกิดขึ้นในเชิงของผู้ใช้ที่สามารถท่องเที่ยวอย่างวางใจและลดความเสี่ยงด้านสุขภาพลง ขณะเดียวกัน ก็เป็นประโยชน์กับทุกธุรกิจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

“การลงโฆษณาอาจจะมากขึ้นแต่ก็เป็นประโยชน์กับภาพรวมทั้งหมดทั้งความสัมพันธ์วงกว้าง การเป็นพันธมิตรระยะยาว และการตอกย้ำว่ากูเกิลมีแนวคิดในการพัฒนาบริการที่เอื้อกับธุรกิจท่องเที่ยวเช่นเดียวกับทุกคนที่มีความสุขและสุขภาพดีขึ้นเมื่อการท่องเที่ยวกลับมา”

3 สถิติที่น่าสนใจจากรายงานของกูเกิล
กำลังโหลดความคิดเห็น