"ซี.พี.แลนด์ฯ" ขยับรับดีมานด์ท่องเที่ยว-อีอีซี มั่นใจเปิดบริการ "โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง" ยอดใช้บริการเติบโต พร้อมปรับกลยุทธ์สร้างรายได้ เปิดราคาจูงใจหน่วยงานราชการ ร้านค้าจัดงานสัมมนา เผยคนไทยที่นิยมเที่ยวนอกหันมาเที่ยวไทยมากขึ้น ดันยอดใช้บริการโรงแรมเพิ่ม 20-30% ระบุหากวัคซีนเริ่มใช้ทั่วโลก ธุรกิจการท่องเที่ยวจะกลับมาพลิกเร็วขึ้น
นายเชิดชัย กมลเนตร รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจโรงแรม บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงศักยภาพของจังหวัดระยอง ว่า มีความเจริญเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางเข้ามาพักผ่อน เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ และยังเป็นหนึ่งใน 3 จังหวัดนำร่องที่อยู่ในโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และหากอีอีซีเริ่มมีการขับเคลื่อน จะดึงดูดให้จังหวัดระยองได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของบริษัท ซี.พี.แลนด์ฯ ได้เตรียมความพร้อมในการรองรับการเติบโต โดยมีการลงทุนและเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่ภายใต้ชื่อ โรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง ตั้งแต่กลางปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเลื่อนจากแผนเดิมต้องเปิดต้นปี เนื่องจากเริ่มมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ บริษัทต้องปรับแผน หันมาทำตลาดกับกลุ่มคนไทยอย่างเดียว ใช้สื่อทุกช่องทางในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวกลุ่มต่างๆ หน่วยงานราชการ ร้านค้า ภาคธุรกิจในนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงคนในกรุงเทพฯ เลือกมาท่องเที่ยวในจังหวัดระยอง ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ลูกค้าให้การตอบด้วยดี ทั้งคำชมในเรื่องอาหาร และการบริการของโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง เนื่องจากการบริการมีมาตรฐานเหมือนได้รับการดูแลจากเชนโรงแรมที่มีชื่อเสียง เนื่องจากโรงแรมในกลุ่มซี.พี.แลนด์ฯ เครือเดียวกับแกรนด์ เมอร์เคียวซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกด้วย
"ทางโรงแรมได้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้มาใช้บริการ โดยกำหนดมาตรฐานที่ดีในการดูแลลูกค้า ซึ่งสเปกที่เราวางไว้ตรงกับที่บริษัทเอกชนต้องการ อย่างเช่น เครือเอสซีจี ที่มาใช้ห้องประชุมสัมมนา ก็มีความห่วงใยในสวัสดิภาพของพนักงานเครือเอสซีจี ในส่วนของลูกค้าทั่วไป พฤติกรรมการมาพักผ่อน แม้วันธรรมดา อัตราการเข้าพักจะไม่สูง แต่สามารถชดเชยได้กับวันหยุดยาว คนกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงมาใช้บริการ ส่งผลให้อัตราการเข้าพักปรับสูงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะเดียวกัน ทางโรงแรมได้ปรับกลยุทธ์ จะเจาะตลาดในกลุ่มประชุมสัมมนามากขึ้น เพื่อชดเชยตลาดต่างประเทศที่ชะลอตัวในระยะอันสั้น รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายช่วงวันหยุด ลดพิเศษ 20 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากลูกค้าคนไทยจะมีความกังวลในเรื่องของราคา"
นอกจากนี้ ทางโรงแรมยังได้กลุ่มลูกค้าคนไทยที่หันมาท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น เนื่องจากหลายประเทศยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยว โดยช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางโรงแรมฟอร์จูน แสงจันทร์ บีช ระยอง สามารถดึงลูกค้ากลุ่มนี้มาใช้บริการถึง 20-30% เป็นครอบครัว อายุมากกว่า 30-40 ปี ราคาห้องพักไม่สูง ด้วยการเป็นแบรนด์ของคนไทยทำให้ต้นทุนไม่สูงเท่ากับเชนโรงแรมอื่นๆ
สำหรับภาพรวมการบริการธุรกิจโรงแรมใน จ.ระยองนั้น พบว่า โรงแรมเปิดใหม่ยังไม่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นจำนวนห้องพักในจังหวัดมากนัก ซึ่งอาจจะเป็นผลจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การลงทุนโครงการใหม่ๆ ชะลอเลื่อนเปิดออกไป และตลาดการใช้บริการโรงแรมของลูกค้ายังเป็นช่วงวันหยุดเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นกลุ่มจากตลาดนิคมอุตสาหกรรมที่เลือกมาพักผ่อนในวันธรรมดา เพียงแต่ระยะนี้คงต้องรอธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับนิคมฯฟื้นตัว
นายเชิดชัย กล่าวถึงโอกาสการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมโรงแรมในไทยว่า จากการแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการในธุรกิจเดียวกัน ต่างให้น้ำหนักในเรื่องการมีวัคซีนออกมาใช้ทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวกลับมาได้เร็ว แต่ถ้าสถานการณ์โควิด-19 ยังยืดเยื้อก็คงมีปัญหาแน่นอน ดังนั้น สิ่งที่ทำได้ คือ ต้องประคับประคองให้รอด และหวังการฟื้นตัวและเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น และไม่กระทบไปถึงการจัดสรรงบประ มาณในแต่ละหน่วยราชการ ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องมีสายส่งไปตามต่างจังหวัดจะได้ไม่ถูกลดต้นทุนส่วนนี้ลง
"3 ข้อที่กล่าวมา ถ้าไม่ดีขึ้น โรงแรมก็จะแย่มากขึ้น ใครมีเงินสดก็ดี ดูแลธุรกิจต่อไปได้ อย่าลืม บางธุรกิจต้องส่งคนไปต่างจังหวัด เช่น ธุรกิจรถยนต์ ธุรกิจยา ธุรกิจอาหาร สุดท้ายแล้วการเปิดประเทศถือเป็นแนวทางที่ดีเพื่อทดลอง และประเมินความสามารถในการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก่อนจะนำร่องไปสู่จังหวัดท่องเที่ยวอื่น เป็นการให้กำลังใจแก่ภาคธุรกิจในจังหวัดนั้นๆ ส่งเสริมให้มีรายได้ในการดูแลพนักงานมากขึ้น"