ติ๊กต็อก (TikTok) ระบุตัวเองไม่ได้เป็นเพียงแพลตฟอร์มที่มีความโดดเด่นในการสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและมอบความสุขให้แก่ผู้คน แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มที่มุ่งมั่นพัฒนานโยบายและเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้เกิดความมั่นใจและมีความรู้สึกปลอดภัยในการใช้แพลตฟอร์ม โดยเผยรายงานสรุปแนวทางการพัฒนาด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสตลอดครึ่งปีที่ผ่านมา ร่วมกับการจัดตั้ง APAC Safety Advisory Council หรือที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยแห่งเอเชียแปซิฟิก ซึ่งถือเป็นการแสดงเจตจำนงที่แน่วแน่ของ TikTok ในการพัฒนาด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มและการดำเนินงานด้วยความโปร่งใสสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้ TikTok ทั่วโลก
สุรยศ เอี่ยมละออ Head of Marketing ของ TikTok กล่าวว่า การเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ TikTok ในปี 2563 นี้ ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ซึ่งสิ่งที่ TikTok ได้มุ่งมั่นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง คือ การสร้างสรรค์แรงบันดาลใจและมอบความสุขให้แก่ผู้คนผ่านการนำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลายควบคู่กับการสร้างแฮชแท็กแคมเปญต่างๆ มากมาย เพื่อให้ตอบโจทย์ในทุกไลฟสไตล์และความชื่นชอบของผู้ใช้
"นอกจากนี้ เรายังได้ให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมในเรื่องความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มและการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกให้แก่ชุมชนผู้ใช้ TikTok ทั่วโลก"
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 บริษัทได้มีการพัฒนาเรื่องความปลอดภัยในหลายด้าน โดยใน TikTok Transparency Report ได้แก่ การเพิ่มขอบเขตแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชน ด้วยนโยบายใหม่ต่างๆ เพื่อจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลที่ผิดและข้อมูลที่มีการบิดเบือน
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริง (fact-checking program) ใน 9 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สเปน, ญี่ปุ่น และอินเดีย เพื่อช่วยในการตรวจสอบเนื้อหาที่อาจทำให้เกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ การเลือกตั้ง และอื่นๆ ซึ่งมีแผนที่จะขยายพื้นที่ในการใช้โปรแกรมนี้ในประเทศอื่นๆ ต่อไป
ขณะเดียวกัน ก็มีการเพิ่มกิจกรรมที่เกี่ยวกับการให้ความรู้ทางการศึกษาบนแพลตฟอร์มและการสร้างสรรค์แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับประเด็นสำคัญในสังคม เช่น COVID-19, การเลือกตั้ง, Black Lives Matter และ QAnon เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้ให้แก่ผู้คน
รวมถึงการเปิดตัว Family Pairing หรือโหมดแนะนำโดยผู้ปกครอง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยสำหรับครอบครัว เพื่อให้ผู้ปกครองสามารถเชื่อมต่อบัญชี TikTok ของตนเองกับบุตรหลานได้ เพื่อเข้าไปควบคุมดูแลในการเข้าถึงคอนเทนต์ของบุตรหลาน รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้แพลตฟอร์มของบุตรหลาน เช่น การตั้งค่า Screentime หรือเวลาในการใช้แพลตฟอร์มให้แก่บุตรหลาน
ควบคู่กับความร่วมมือกับองค์กรความปลอดภัยชั้นนำระดับโลก เช่น National Center for Missing and Exploited Children และ WePROTECT Global Alliance รวมถึงความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนา Machine Learning ในการจัดการกับ Hate Speech และความปลอดภัยของเยาวชนในด้านอื่นๆ
นอกจากนี้ ในรายงานสรุปแนวทางการพัฒนาด้านความปลอดภัยและความโปร่งใสประจำครึ่งปีแรกของปี 2563 ยังได้เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการที่แพลตฟอร์ม TikTok ได้รับความนิยมและมีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงทำให้จำนวนคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นและพบว่ามีการลบวิดีโอที่มีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและละเมิดแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชนออกจากระบบเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบจากปีก่อน
ในปีนี้พบว่าข้อมูลสรุปจากทั่วโลก มีจำนวนวิดีโอ 104,543,719 รายการที่ถูกลบออกจากระบบ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและละเมิดแนวทางปฏิบัติสำหรับชุมชนของ TikTok ซึ่งจากจำนวนนี้ ถือเป็นจำนวนที่น้อยกว่า 1% ของจำนวนวิดีโอทั้งหมดที่อัปโหลดบน TikTok
ขณะที่ 96.4% ของวิดีโอที่ถูกลบทั้งหมด ได้ถูก TikTok ค้นพบและลบออกก่อนที่จะมีผู้ใช้รายงาน และยังพบว่า 90.3% ของวิดีโอที่ถูกลบ ได้ถูกลบออกจากระบบก่อนที่จะมีการเข้าชมใดๆ
เพื่อตอกย้ำว่า TikTok ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม จึงได้มีการจัดตั้ง APAC Safety Advisory Council หรือที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยแห่งเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับนโยบายการกลั่นกรองเนื้อหาและปัญหาด้านความปลอดภัยที่เฉพาะเจาะจงสำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยสมาชิกสภา APAC Safety Advisory Council จะทำหน้าที่ในการคาดการณ์ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในภูมิภาคที่อาจส่งผลกระทบต่อแพลตฟอร์มและผู้ใช้ เพื่อพัฒนาแนวทางและกลยุทธ์ในการจัดการกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
“ทั้งหมดนี้ คือ การแสดงออกของ TikTok ในการเดินหน้าพัฒนาด้านความปลอดภัยบนแพลตฟอร์มให้แก่ชุมชนผู้ใช้ TikTok ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้แพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยและการสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกให้แก่ชุมชนผู้ใช้ TikTok ควบคู่ไปกับการพัฒนาแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มความหลากหลายของคอนเทนต์ที่สามารถตอบโจทย์ได้ตามความต้องการของผู้ใช้ในทุกกลุ่มอายุ เพื่อให้ผู้ใช้ของเราได้เพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ความบันเทิง ข้อมูลข่าวสาร พร้อมแชร์เรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ ไปกับแพลตฟอร์ม TikTok ได้อย่างไร้กังวล” สุรยศ กล่าวทิ้งท้าย