xs
xsm
sm
md
lg

Poly ชูโอกาสโตยุคนิว นอร์มอล ตลาดอุปกรณ์ประชุมวิดีโอทางไกลคึกคักทั่วอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ซามีร์ ซายิด กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเกาหลี บริษัท โพลี
โพลี (Poly) มั่นใจตลาดอุปกรณ์การประชุมและชุดหูฟังเติบโตก้าวกระโดดจากกระแสไฮบริดเวิร์กกิ้ง ลูกผสมการทำงานจากทั้งในสำนักงานและระยะไกลล้วนผลักดันให้มีการใช้งานอุปกรณ์วิดีโอคอนเฟอเรนซิงระบบคลาวด์และเทคโนโลยีเอไอเพิ่มขึ้น ชี้ความท้าทายใหญ่ที่สุดคือการให้ตัวเลือกที่เหมาะสมต่อความต้องการที่หลากหลาย ย้ำอาเซียนเป็นตลาดที่เห็นการเติบโตชัดเจนทั้งส่วนอุปกรณ์และโซลูชันเพื่อการทำงานร่วมกัน (collaboration) และส่วนตลาด DPU หรือโซลูชันวางแผนการพัฒนาธุรกิจ สำรวจพบ 63% ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกได้เพิ่มงบการลงทุนซื้ออุปกรณ์การประชุมและชุดหูฟังในช่วงวิกฤตโควิด-19

ปิแอร์ - ฌอง ชาลง รองประธานอาวุโสประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท โพลี หรือชื่อเดิม Plantronics และ Polycom กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการทำงาน เกิดเป็นแนวโน้มการทำงานแบบผสมผสานที่จะกลายเป็นเทรนด์แพร่หลายในบริษัททั่วโลก ภาวะที่เกิดขึ้นทำให้องค์กรธุรกิจต้องจัดหาโซลูชันและอุปกรณ์เพื่อให้การสื่อสารจากระยะไกลผ่านวิดีโอสามารถทำได้เต็มประสิทธิภาพ

"เราเห็นโอกาสจากไฮบริดเวิร์กกิ้ง ก่อนนี้เทคโนโลยีวิดีโอคอนเฟอเรนซิงไม่ถูกใช้งานบ่อยนัก แต่รูปแบบเวิร์กฟอร์มโฮมทำให้มีการใช้งานทุกคน ตอนนี้มีการปรับพื้นที่ในบ้านให้เป็นสำนักงานมากขึ้น การสำรวจพบว่า 70% ของผู้คนจะยังทำงานที่บ้านแม้หลังจากวิกฤตโควิด-19 จะสิ้นสุดลง ทำให้เชื่อว่าตลาดปีนี้จะขยายตัวถึงปีหน้า 2021 ทั้งปี"


ปิแอร์ เชื่อว่าแม้จะมีการเปลี่ยนแปลง แต่อาคารสำนักงานก็จะไม่หดหายหรือลดบทบาทไปอย่างชัดเจน เพราะสำนักงานยังจำเป็นสำหรับการประชุมและกิจกรรมอื่น โดยส่วนที่เหลือสามารถทำได้ทุกที่ และคนทำงานกว่า 70% ยอมรับในแบบสอบถามว่าชื่นชอบที่จะจัดการประชุมและทำงานร่วมกันในสำนักงานผ่านการประชุมทางวิดีโอ และจากข้อมูลของการ์ทเนอร์ (Gartner) พบว่า 74% ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินหรือ CFO ยอมรับว่าชื่นชอบการทำงานจากที่บ้าน

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดเป็นการทำงานแบบผสมผสาน หรือไฮบริดเวิร์กกิ้งที่จะกลายเป็นเรื่องปกติใหม่ของบริษัททั่วโลก ขณะที่บริษัทมองว่าเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะค่าเช่าอาคารที่อาจจะลดลง

ซามีร์ ซายิด กรรมการผู้จัดการ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและเกาหลี บริษัท โพลี เผยว่าไฮบริดเวิร์กกิ้งผลักดันให้มีการใช้อุปกรณ์วิดีโอคอนเฟอเรนซิงแพร่หลายมากขึ้น ทั้งโซลูชันบนระบบคลาวด์ และเทคโนโลยีเอไอ ล้วนทำให้อุปกรณ์และโซลูชันมีต้นทุนต่ำลงและใช้งานง่ายขึ้น ซึ่งโพลีได้จัดเตรียมอุปกรณ์สนับสนุนการประชุมทางไกลหลายประเภท บนจุดเด่นคือการเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความไว้วางใจเรื่องความเสถียรและปลอดภัย รวมถึงรองรับการใช้งาน Microsoft Team และ Zoom

"สินค้าของโพลีไม่ได้เน้นแค่ดีไซน์ หรือการรองรับการประชุมเท่านั้น แต่อยู่ที่การทำให้เกิดเป็นการทำงานจากระยะไกลได้จริง และสามารถทำทุกอย่างได้สมบูรณ์ สินค้าเราจึงออกแบบตามยูสเคส และพัฒนาตามความต้องการใช้งานจริง"


สินค้าของโพลีจึงไม่ได้มีเพียงชุดหูฟังพร้อมไมโครโฟนที่หลายคนเคยคุ้นตากับแบรนด์ Plantronics เท่านั้น แต่ยังมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาฝังอยู่ในอุปกรณ์ เช่นกล้องและลำโพง ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่ามุมมองที่ต้องการได้เมื่อทำวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ยังมีการฝังระบบตัดเสียงรบกวนแบบจับทิศทาง การโทร.แบบกลุ่ม และการปรับโหมดของอุปกรณ์ได้หลากหลายเพียงคลิกเดียว

แม้จะไม่ได้ตอบคำถามว่ายอดขายของโพลีเพิ่มขึ้นเท่าใดในช่วงโควิด-19 แต่ซามีร์ย้ำว่าเห็นความต้องการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้สูงมากเรื่องโซลูชันไฮบริดเวิร์กกิ้ง ทั้งระบบเพื่อการทำงานร่วมกัน หรือ Collaboration และระบบ DPU เพื่อการวางแผนพัฒนาธุรกิจโดยที่พนักงานสามารถทำงานจากที่บ้านได้ องค์กรจึงต้องวางแผน จัดการ และลงทุนกับแล็ปท็อป อุปกรณ์ และวิธีการเข้าใช้งาน (Access) เพื่อให้ดึงข้อมูลจากสำนักงานได้ โพลีจึงเห็นความต้องการของตลาดสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

จุดนี้การสำรวจของโพลี พบว่า 40% ของกลุ่มตัวอย่างจะยังคงใช้การประชุมเสมือนจริงต่อไปแม้ว่าวิกฤตการระบาดไวรัสโควิด-19 จะผ่านไปแล้วก็ตาม หลายองค์กรลงทุนในแล็ปท็อป (36%) และซอฟต์แวร์สำหรับการทำงานร่วมกัน (41%) ในช่วงวิกฤตนี้ ทั้งนี้ ในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (และส่วนใหญ่อยู่ในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่) พนักงานยังไม่มีความพร้อมที่จะทำงานจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องซื้อแล็ปท็อป จอภาพและชุดหูฟังชุดใหม่มาใช้ที่บ้าน โดยราว 63% ขององค์กรในเอเชียแปซิฟิกได้เพิ่มงบการลงทุนไปในอุปกรณ์การประชุมและชุดหูฟังอย่างมีนัยสำคัญเพื่อใช้ในการทำงานร่วมกันในช่วงวิกฤตโควิด-19 ขณะเดียวกัน ก็มีการลงทุนเพิ่มขึ้น 41% ในอุปกรณ์การประชุมทางวิดีโอ


การสำรวจพบว่า 33% ขององค์กรได้เพิ่มงบการลงทุนในโซลูชันการทำงานร่วมกันและการใช้วิดีโอบนคลาวด์ซึ่งเป็นผลจากการระบาดของไวรัส โดยคาดว่าจะมีความต้องการในด้านนี้ต่อไปอีก 12 เดือนข้างหน้าเนื่องจากยังจะมีพนักงานระยะไกลเพิ่มขึ้นอีก โดย 55% คาดว่าจะมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้นเพื่อพัฒนาประสบการณ์ของพนักงาน และ 47% ของผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่าจะมีการใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับการทำงานร่วมกันเพิ่มขึ้นแม้หลังจากวิกฤตโควิด-19 จะสิ้นสุดลง

ในขณะที่มีผู้นำธุรกิจเพียง 15% ในเอเชียแปซิฟิก ระบุว่า จะลดการลงทุน ผู้นำธุรกิจในประเทศมาเลเซียจำนวน 33% คาดว่าจะลดการใช้พื้นที่สำนักงานที่ใช้ในเชิงพาณิชย์หลังภัยโควิด-19 ลง

สำหรับความท้าทายใหญ่ที่สุดของโพลีช่วงปีนี้ ปิแยร์ มองว่าอยู่ที่การมอบทางเลือกที่เหมาะสมต่อความต้องการที่หลากหลาย และการทำให้มั่นใจว่าผู้ใช้ทุกคนในองค์กรสามารถใช้งานระบบได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ขณะที่ความท้าทายในตลาดเอเชียและเกาหลีนั้นต่างออกไป โดยซามีร์กล่าวว่า มีหลายสิ่งที่สำนักงานต้องให้ความสำคัญ เช่น ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ และความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งล้วนเป็นสิ่งสำคัญของการทำงานจากระยะไกล


กำลังโหลดความคิดเห็น