คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ นำร่องสอบทุกวิชาผ่านระบบออนไลน์ ลงทุนซื้อ iPad รองรับนักศึกษาทุกชั้นปี หลังสถานการณ์โควิด-19 ผลักดันให้เกิดการทรานฟอร์ม พร้อมนำข้อมูลความถนัดของนิสิตมาวิเคราะห์ ปรับการสอนให้เหมาะสมเฉพาะบุคคล
อ.ดร.นพ.ดนัย วังสตุรค ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า คณะแพทยศาสตร์เริ่มนำ iPad มาใช้เป็นอุปกรณ์ในการเรียนการสอนมาตั้งแต่ 6-7 ปีที่ผ่านมา โดยคณะมีการลงทุนซื้อ iPad ให้นิสิตที่มีความต้องการยืมนำไปใช้งาน เพื่อช่วยยกระดับการเรียนการสอนให้มีคุณภาพมากขึ้น จนในปีล่าสุด พบว่า นิสิตในคณะแพทย์ 313 คน มี iPad พร้อมนำมาใช้งานแล้วราว 83.4% อีก 12.1% มีแผนที่จะซื้อ และมีเพียง 4 รายเท่านั้น ที่ไม่มีแผนจะซื้อในเร็วๆ นี้
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา เริ่มมีอาจารย์นำวิธีการสอบผ่านแอป Exam+ มาใช้งานในแต่ละรายวิชาคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 50% จนเกิดการเปลี่ยนผ่านในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาทำให้คณะตัดสินใจปรับรูปแบบการสอบเป็นผ่านแอปทั้งหมด 100%
ที่ผ่านมา คณะแพทย์จุฬาฯ มีการนำ Exam+ มาใช้ในการสอบแบบ On-Site หรือการสอบพร้อมกันภายในมหาวิทยาลัยมาใช้งานแล้วในบางรายวิชา แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีการเปลี่ยนรูปแบบการสอบไปเป็น Remote จากที่บ้าน ซึ่งก่อนสอบมีการสำรวจก่อนว่านิสิตใดที่มีอุปกรณ์ไม่รองรับ ก็จะจัดส่ง iPad ไปให้สอบถึงที่บ้าน
ทั้งนี้ ในระหว่างการสอบแบบ Remote จะมีการประกาศข้อกำหนดเพิ่มเติม ที่นอกเหนือจาก iPad ที่ใช้งานผ่าน Exam+ ในการสอบแล้ว จะต้องมีอุปกรณ์ชิ้นที่ 2 เพื่อทำการถ่ายทอดสดขณะสอบ ให้สามารถเห็นบรรยากาศโดยรวมเพื่อป้องกันการทุจริตด้วย
สำหรับเหตุผลหลักที่เลือกนำ iPad มาใช้เป็นอุปกรณ์หลักในการสอบ เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากแอปเปิล (Apple) ในการเปิด API พิเศษ ทำให้ในเวลาที่เปิดแอป Exam+ เพื่อสอบออนไลน์ จะไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์อื่นๆ ได้
นอกจากนี้ เมื่อใช้การสอบผ่านแอป จะช่วยให้อาจารย์สามารถนำข้อมูลการสอบของนิสิต นักศึกษาไปปรับปรุง และแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับสามารถเชื่อมโยงข้อมูลให้เห็นเป็นโปรไฟล์ของนักศึกษาแต่ละคน จึงสามารถเน้นจุดแข็งเป็นรายบุคคลได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ตามมาในแง่ของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ คือ เรื่องของต้นทุนในช่วงแรกที่จะมีการลงทุนค่อนข้างสูง แต่ในระยะยาวอาจารย์จะสามารถเก็บข้อมูลการเรียน การสอนแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งสามารถต่อยอดไปสู่การสอนเชิงพัฒนาได้มากขึ้น
“การจัดสอบแบบ Remote จะมีต้นทุนที่สูงกว่าแบบ On Site เนื่องจากต้องใช้เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบในปริมาณนิสิต 10 คนต่อเจ้าหน้าที่ 1 คน ในขณะที่การสอบแบบ On Site ในมหาวิทยาลัยจะควบคุมสภาพแวดล้อมในการสอบได้มากกว่า”
มาลีพรรณ ผาสุพงษ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ Deverhoo ผู้พัฒนาแอป Exam+ ให้ข้อมูลถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันว่า จุดประสงค์หลักคือการพัฒนาระบบการสอบออนไลน์ ที่ช่วยวัด ประมวลผล และวิเคราะห์การเรียนการสอน
โดยประกอบด้วย 4 คุณสมบัติหลัก คือ คลังข้อสอบ สอบ คุมสอบ และการวิเคราะห์ผล ซึ่งที่ผ่านมามีสถาบันการศึกษากว่า 16 สถาบันนำไปใช้งาน จัดการสอบแบบออนไลน์ไปแล้วกว่า 200 รายวิชา 500 ครั้ง และมีผู้ที่เคยสอบด้วยแอป Exam+ มาสูงถึง 5,000 คน
Exam+ สามารถรองรับข้อสอบได้ทุกรูปแบบ เช่น ข้อสอบปรนัย, อัตนัย, จับคู่คำตอบ, การตอบถูก-ผิด หรือเรียงลำดับ ที่สำคัญคือการสอบถูกจัดขึ้นโดยยึดหลักความปลอดภัย ที่ผู้สอบไม่สามารถถ่ายภาพหน้าจอ กดออกจากแอป หรือกดคัดลอก วางข้อความได้
อีกจุดเด่นที่ทำให้ผู้สอบชื่นชอบ คือ การที่สามารถดูโจทย์ในรูปแบบของสื่อต่างๆ ได้แบบดิจิทัล เช่น ภาพ หรือวิดีโอ ที่มีความคมชัดกว่าบนกระดาษทั่วไป ฟีจเจอร์ที่น่าสนใจของแอป คือ Dashboard ผู้สอบสามารถดูภาพรวมว่าขณะนี้ทำไปแล้วกี่ข้อ และข้อไหนยังไม่ได้ทำ ทำให้ไม่เกิดปัญหาตอบไม่ครบ ไม่ตกหล่น
สำหรับผู้คุมสอบนั้นจะสามารถดูพฤติกรรม รวมทั้งคำตอบได้ทันที นอกจากนี้ ยังสามารถให้ความช่วยเหลือหากเกิดปัญหาใดๆ เช่น สัญญาณอินเทอร์เน็ตขัดข้อง ก็จะสามารถกดเพิ่มทดเวลาให้แก่ผู้สอบได้