xs
xsm
sm
md
lg

ดาต้า เพาเวอร์ ลุยสินค้า DIY ราคาเบากระตุ้นตลาดครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ดาต้า เพาเวอร์ เผยทิศทางการตลาดครึ่งปีหลัง ชูเรื่องสินค้าคุณภาพราคาเข้าถึงง่าย ปรับกลยุทธ์เน้นเรื่องการขายออนไลน์และโปรโมชันโดนใจ พร้อมจับมือผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ ผู้ผลิต และดีไซเนอร์ ยกระดับปลั๊กไฟธรรมดาไปสู่การใช้เป็นอุปกรณ์ประดับบ้าน และสร้างสรรค์สินค้างานดีไซน์ขายแบบพรีออเดอร์บนเว็บไซต์ พร้อมออกสินค้าประเภท DIY ราคาถูก ให้รายย่อยสามารถต่อยอดธุรกิจ ลุยวิกฤตโควิด-19 และทำการ CSR อย่างเป็นกระบวนการโดยพยายามกระจายให้สู่ชุมชนที่ดาต้าเข้าถึงให้โตและยั่งยืนไปด้วยกัน

นายอภิสฤษฎิ์ นิรุชทรัพย์รดา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดาต้า เพาเวอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลั๊กไฟมากว่า 35 ปี เปิดเผยถึงทิศทางในการทำตลาดครึ่งปีหลังนี้ว่า ดาต้าพร้อมจับมือกับผู้ประกอบการในวงการเฟอร์นิเจอร์ และดีไซเนอร์ สร้างพันธมิตร สร้างงาน สร้างอาชีพ และทำการตลาดออนไลน์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ นวัตกรรม สวยงาม ใช้งานได้ โดยจะเน้นให้ผู้ประกอบการเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยน ทำสินค้าใหม่ และโปรโมตขายออนไลน์ และออฟไลน์ทางช่องทางที่ดาต้ามี ทั้ง เพจเฟซบุ๊ก และไลน์ออฟฟิเชียล @datatrustedpower

"ที่ผ่านมา ดาต้า ได้ใช้คอนเซ็ปต์ เชื่อในสิ่งที่ดีที่สุด บนพื้นฐานของความเข้าใจในแบรนด์ ทำงานมาโดยตลอด เพราะคิดถึงทุกฝ่ายที่มีส่วนได้เลีย ตั้งแต่ลูกค้า คู่ค้า ซัปพลายเออร์ ลูกน้อง ในการทำงานเราจึงต่อยอดแนวความคิดกับดีไซเนอร์ต่างประเทศ สร้างขึ้นมาเป็นแพลตฟอร์ม สำหรับดีไซเนอร์และผู้ผลิตบนเว็บไซต์ Thedomani.com โดยหลักกการคือ นำเอาไอเดียมาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์และขายบนช่องทางออนไลน์ในลักษณะพรีออเดอร์ (Preorder) เพื่อร่วมกันออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรม สวยงาม สามารถใช้งานได้ทั้งฟังก์ชัน และแก้ปัญหาจุดบกพร่องต่างๆ ผ่านมุมมองของผู้ออกแบบ"

อภิสฤษฎิ์ นิรุชทรัพย์รดา
ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ ดาต้า ทำตลาดในประเทศไทยได้ดีขึ้น ปัจจุบันมีสินค้าพร้อมจำหน่ายแล้วหลายตัว บนแนวคิดไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล 4.0 ที่มีมือถือ อุปกรณ์ไอที และ IOT เป็นตัวแปรสำคัญ ดาต้าระบุว่าเฟอร์นิเจอร์รุ่นแรกที่ออกแบบมาสามารถประยุกต์เอาปลั๊กไฟไปใช้ได้ทุกที่ในบ้าน และสามารถติดตั้ง หรือวางกูเกิล โฮม หรืออเมซอน อเล็กซ่า บนเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกออกแบบมาบน platform thedomani.com โดยจะวางไว้ในตำแหน่งไหนของบ้านก็ได้ เพื่อเป็นการตอบสนองต่อวิถีชีวิตแนวใหม่ที่ทุกคนอยากกำหนดชีวิตเองได้

"เช่น การนำปลั๊กไฟไปอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น ทุกที่ เพื่อเชื่อมต่อ และใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆ อย่างลงตัว ยกตัวอย่างสินค้า The Cat ที่นำเอาอุปกรณ์สำหรับชาร์จไฟแบบยูเอสบี ผสานกับของตกแต่งบ้านอย่างลงตัว เหมาะกับการตกแต่งห้อง และชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ ได้แบบไม่รก และจะนำแนวคิดแบบนี้ไปสร้างผลงานในสินค้ารุ่นต่อๆ ไป เป็นการสร้างอาชีพให้แก่งานฝีมือในสาขาอื่นต่อไป ตั้งเป้าการสร้างงานให้ได้ถึง 1,000,000 บาทภายในสิ้นปี ดาต้า ยังเตรียมแผนส่งออกสินค้าดีไซน์ที่ผลิตในไทยไปต่างประเทศ นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับบริษัท อาร์ ที บี เทคโนโลยี จำกัด นำนวัตกรรมสายชาร์จไฟมาต่อยอด เรียกว่าครบวงจร เสียบปลั๊กชาร์จไฟ เสริมความแข็งแกร่งไปด้วยกัน เป็นแบบอย่างอีโค ซิสเต็ม ที่หาพันธมิตรโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน" นายอภิสฤษฎิ์ กล่าว

สำหรับทุกคนที่กำลังต่อสู้กับวิกฤตโควิด-19 ดาต้า ยังสนับสนุนสินค้าประเภท DIY ให้อย่างเต็มที่ เพื่อตอบรับกระแสการตกแต่งต่อเติมบ้านด้วยการทำเอง หรือแม้แต่การประดิษฐ์เพื่อสร้างงานเชิงพาณิชย์ สอดคล้องต่อกระแส work from home ต่อให้ปิดเมืองก็ต้องรอด ต้องมีอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว คนอยู่บ้านสามารถทำอาหารขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ หรือหากคิดจะเริ่มต้นทำร้านธุรกิจเล็กๆ เช่น ร้านชา หรือร้านกาแฟ ดาต้า จะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนด้วยชุดสินค้าประเภท DIY เริ่มต้นด้วยการเพิ่มช่องเสียบปลั๊ก เพิ่มจุดเชื่อมต่อปลั๊กไฟสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยมีสินค้าให้เลือกมากมาย เช่น ชุดเต้ารับเดี่ยว ชุดเต้ารับคู่ สวิตช์ไฟ สายไฟ และปลั๊กลอย เป็นต้น ในราคาที่ย่อมเยา เริ่มต้นไม่ถึง 50 บาท


นอกจากนี้ ดาต้า ยังไม่ลืมสังคม สวนกระแสด้วยการสร้างกระบวนการ CSR แบบยั่งยืน โดยเน้นให้ชุมชนมีรายได้ ช่วยส่งเสริมการทำตลาด ทำผลิตภัณฑ์ ออแกนิกส์ ภายใต้แบรนด์ Nice Organic นำเอาผลิตภัณฑ์ชุมชนมาต่อยอด โดยมีชุมชนต้นแบบกว่า 14 ชุมชน ร่วมมือกัน เพื่อเป็นอาชีพเสริม พร้อมส่งต่อนวัตกรรม และรองรับอนาคตของชุมชน รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่จะเข้าร่วมกับชุมชนในอนาคต Nice Organic คือ สินค้าประเภท food packaging 

"เพราะในช่วงโควิด-19 เราเล็งเห็นว่า แนวโน้มในบรรจุภัณฑ์อาหารประเภทพลาสติกมีแนวโน้มสูงขึ้น และใช้เวลานาน พร้อมกระบวนการหลายขึ้นตอนในการกำจัดหรือย่อยสลาย จึงนำเอาผลิตภัณฑ์จากชุมชนต้นแบบ ซึ่งเราเป็นเจ้าแรกๆ ที่ผลิตมาจากวัสดุธรรมชาติ 100% มาต่อยอด เพื่อสร้างระบบนิเวศลดระยะเวลาการย่อยสลายผลิตภัณฑ์จากบรรจุภัณฑ์อาหาร แทนที่จะทิ้งเป็นขยะสามารถแปลงมาเป็นปุ๋ยได้ เหมือนใบไม้"




กำลังโหลดความคิดเห็น