อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส (AWS) ประกาศความพร้อมการให้บริการ AWS Outposts ในประเทศไทยและมาเลเซีย ฮารด์แวร์แร็คนี้ออกแบบโดย AWS ที่ตั้งค่าการทำงานและบริหารจัดการได้อย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้ลูกค้าสามารถรันเวิร์กโหลดบน on-premise และเชื่อมต่อกับบริการที่หลากหลายของ AWS บนคลาวด์ได้อย่างไร้รอยต่อ ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานและโมเดลการดำเนินการแบบเดียวกับที่ใช้ในปัจจุบัน มอบประสบการณ์ไฮบริดที่ต่อเนื่องอย่างแท้จริง
คอเนอร์ แมคนามารา กรรมการผู้จัดการภาคพื้นอาเซียน AWS กล่าวว่า บริษัทยินดีที่ได้นำบริการนี้มาสู่ประเทศทั้งสองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่ได้มีการเปิดตัวไปในประเทศอินโดนีเซียและสิงคโปร์เมื่อต้นปีนี้
“ด้วย AWS Outposts ลูกค้าของเราจะได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมคลาวด์ที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ช่วยให้ประมวลผลพร้อมจัดเก็บข้อมูลที่ละเอียดอ่อนบน on-premise ได้อย่างปลอดภัย เนื่องจาก AWS Outposts ถูกบริหารจัดการโดย AWS อย่างเต็มรูปแบบ ลูกค้าของเราจึงสามารถมุ่งความสนใจไปที่การดูแลผู้ใช้งาน หรือลูกค้าของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมที่ช่วยสร้างความแตกต่างทางธุรกิจ แล้วปล่อยให้เราดูแลรับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการระบบโครงสร้างพื้นฐานให้”
อะเมซอน เว็บ เซอร์วิสเซส ระบุว่า AWS Outposts มอบการประมวลผลที่ตั้งค่าได้ บริหารจัดการได้อย่างเต็มรูปแบบ และสตอเรจแร็คที่สร้างบนฮาร์ดแวร์ที่ออกแบบโดย AWS ซึ่งช่วยให้ลูกค้าประมวลผล จัดเก็บข้อมูลและระบบฐานข้อมูล รวมถึงบริการอื่นๆ บนระบบ on-premises ได้ ในขณะที่เชื่อมต่อกับการบริการหลากหลายของ AWS บนคลาวด์ได้ โดย AWS Outposts นำเอาบริการ ตลอดจนระบบโครงสร้างพื้นฐาน และโมเดลการดำเนินการของ AWS มาสู่ดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงพื้นที่สำหรับโค-โลเคชั่น ตลอดจนการบริการบน on-premise ต่าง ๆ ทุกแห่งในแบบเวอร์ชวล
“ด้วย AWS Outposts ลูกค้าสามารถใช้ AWS APIs control plane เครื่องมือต่างๆ และฮาร์ดแวร์ on-premise ในรูปแบบเดียวกับที่อยู่บน AWS cloud เพื่อประสบการณ์ไฮบริดที่ต่อเนื่องได้อย่างแท้จริง”
ลูกค้าในประเทศไทย และมาเลเซียที่มีเวิร์กโหลดที่ต้องการความหน่วงต่ำในการเข้าถึงระบบ on-premise ไปจนถึงการประมวลข้อมูล หรือดาต้า สตอเรจในพื้นที่ จะได้รับผลประโยชน์จาก AWS Outposts ทั้งหมดนี้ยังรวมถึงแอปพลิเคชั่นที่อาจต้องการการตอบสนองในแบบที่ใกล้เคียงเรียลไทม์ (near real-time response) ไปจนถึงการสื่อสารกับระบบ on-premises อื่นๆ หรือควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่อยู่ไซต์งาน เช่น อุปกรณ์ในโรงงาน ระบบบริหารจัดการด้านสุขภาพ และระบบจุดการจำหน่าย (point of sale) สำหรับร้านค้าปลีก
AWS Outposts ช่วยให้ลูกค้าของเราทั้งในประเทศไทยและมาเลเซีย สามารถทำงานร่วมกับเครือข่ายคู่ค้าของ AWS (APN-AWS Partner Network) เพื่อนำประสบการณ์ในเชิงลึกมาช่วยให้องค์กรธุรกิจย้ายแอปพลิเคชันมาไว้บน AWS ได้ทุกแง่มุมของโครงการย้ายระบบที่มีความซับซ้อน ทั้งหมดนี้รวมถึงการสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ทั้งหมดในเบื้องต้น พร้อมการประเมิน การวางแผนการย้าย และการดำเนินการต่างๆ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยี และกลยุทธ์ด้านคลาวด์เพื่อช่วยและรันเวิร์กโหลดบน AWS Outposts
ดร.ยุทธศาสตร์ นิธิไพจิตร รองประธาน ฝ่ายธุรกิจคลาวด์ และบิ๊กดาต้า บมจ กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า AWS Outposts ช่วยให้ กสท นำเทคโนโลยี AWS Cloud มาไว้ใกล้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
"ในฐานะที่เรารัน AWS Outposts ในดาต้าเซ็นเตอร์ของเรา เรามุ่งเป้าในการสร้างสถาปัตยกรรมคลาวด์ และมองว่าจะนำบริการของ AWS ทั้งในแนวกว้างและในเชิงลึกทุกแง่มุมมาช่วยลูกค้าของเราเริ่มต้นการเดินทางสู่คลาวด์ โดยช่วยให้ลูกค้าของเรานำเทคโนโลยี AWS มาใช้ได้ง่าย พร้อมทั้งช่วยให้ประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลอยู่ภายในประเทศ ซึ่งจะช่วยลดอุปสรรคหลักๆ ให้กับลูกค้าในการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาใช้ ทั้งการรักษาความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูลเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญอันดับต้นเช่นกัน AWS Outposts ช่วยให้เราควบคุมและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าที่โฮสต์และรันอยู่บน Outposts ได้อย่างราบรื่น อีกทั้งยังใช้บริการ AWS จาก AWS region เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าในการสร้างนวัตกรรมด้วย AI/ML ที่พร้อมใช้งานได้ทันที และเรายังมั่นใจว่า AWS Outposts จะช่วยแก้ปัญหาและความกังวลใจของภาครัฐบาลและลูกค้าได้ รวมถึงให้การสนับสนุนองค์กรเหล่านี้ในการปฏิรูปธุรกิจสู่ยุคของดิจิทัลได้"
ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (True IDC) คือพันธมิตรของ AWS ที่ให้คำปรึกษาที่ล้ำหน้า ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2015 ธนรรถ สังข์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท ทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ เชื่อมั่นว่า AWS Outposts จะนำโอกาสที่ยิ่งใหญ่พร้อมประโยชน์มากมายมาสู่ลูกค้าในประเทศไทย
“โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการโซลูชันไฮบริดที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ให้ความหน่วงต่ำ สำหรับข้อมูลขนาดใหญ่, IOT คอนเทนต์ และโครงการด้านสื่อ ทำให้ลูกค้าคนไทยสามารถรันแอปฯ ที่ใช้ประมวลผลข้อมูลได้แบบเรียลไทม์บน AWS Outposts ควบคู่ไปกับสภาวะระบบงานแบบ on-premise ช่วยให้บริษัทเหล่านี้สามารถใช้บริการของ AWS ได้อย่างราบรื่น เช่น Amazon Elastic Cloud Compute (EC2) และ Amazon Simple Storage Service (S3) สำหรับงานเวิร์กโหลด เรายินดีที่จะได้ทำงานร่วมกับคู่ค้าที่มีนวัตกรรมและมีความคิดที่ก้าวหน้า เช่น AWS เพื่อนำโซลูชันไฮบริดคลาวด์ มามอบให้กับลูกค้า”
ดร. วิชญ์ เนียรนาทตระกูล กรรมการผู้จัดการ เดลิเทค พันธมิตรในเครือข่าย APN ที่ให้คำปรึกษาล้ำหน้าด้านคลาวด์ในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มแรก มองเห็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ในการนำ AWS Outposts มาช่วยลูกค้า กล่าวว่าได้ทำงานร่วมกับ AWS เพียงรายเดียวมาตั้งแต่ปี 2014 และรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ต้อนรับ AWS Outposts ในประเทศไทย เพราะจะช่วยสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับลูกค้าเราที่ต้องการระบบโครงสร้างไฮบริดคลาวด์เพื่อรองรับแอปพลิชันที่มีความหน่วงต่ำ
“เราทำงานกับลูกค้าในหลายอุตสาหกรรม เช่น การธนาคาร การประกัน และการผลิต ซึ่งสินทรัพย์และแอปพลิเคชันในระบบ on-premise ส่วนใหญ่ต้องมีความหน่วงต่ำมาก และด้วย AWS Outposts ทำให้ปัจจุบันเราสามารถนำเสนอโซลูชันไฮบริดได้อย่างแท้จริงโดยช่วยให้องค์กรเหล่านี้ ใช้ทรัพยากรในระบบ on-premise ควบคู่ไปกับสายผลิตภัณฑ์ด้านบริการคลาวด์ที่ครอบคลุมมากที่สุด ที่พร้อมให้บริการในทั่วโลกได้อย่างราบรื่น”
ด้วย AWS Outposts ลูกค้าสามารถเลือกจากบริการที่หลากหลายทั้งการประมวลผล สตอเรจ อินสแตนซ์ที่เหมาะกับงานกราฟฟิก (Amazon EC2) โดยที่จะใช้ทางเลือก local storage ก็ได้ หรือไม่ใช้ก็ได้ รวมถึง ทางเลือก Amazon Elastic Block Store (Amazon EBS) ซึ่งลูกค้าสามารถรันบนบริการ AWS ที่กว้างขวางภายในประเทศได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น Amazon Elastic Container Service (Amazon ECS), Amazon Elastic Kubernetes Service (Amazon EKS), Amazon Relational Database Service (Amazon RDS) และ Amazon Elastic MapReduce (Amazon EMR) อีกทั้งสามารถเชื่อมต่อกับบริการในภูมิภาคได้โดยตรง เช่น Amazon S3 buckets หรือ Amazon DynamoDB ผ่านการเชื่อมต่อแบบไพรเวท