อะเมซอน (Amazon) ประกาศกำไรโตก้าวกระโดดแตะหลัก 2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ผลจากการเติบโตต่อเนื่องของบริการสมัครสมาชิกไพร์ม (Prime) ขณะที่ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้ง และธุรกิจโฆษณาก็เติบโตไม่แพ้กัน
Amazon ระบุว่า สามารถทำรายได้ 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วง 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) สุดยอดอัศจรรย์ใจเพราะเติบโตจาก 197 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ถือเป็นไตรมาสที่ 3 ติดต่อกันที่ Amazon มีรายได้เกินระดับ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นผลงานที่โดดเด่นสุดขีดส่งให้หุ้นของ Amazon เติบโตเต็มขั้น
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของยอดขาย Amazon กลับอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ โดยยอดขายของ Amazon ทะยานแตะ 52.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่โดดเด่น คือ ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติงอย่างอะเมซอนเว็บเซอร์วิส (Amazon Web Services) ยังคงเป็นแผนกทำรายได้หลัก ทำยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสนี้
Amazon Web Services สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดนำหน้าคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์ (Microsoft) และกูเกิล (Google) ทำให้สัดส่วนของธุรกิจคลาวด์ทำกำไรสูงกว่าธุรกิจค้าปลีกหลักของ Amazon
ในมุมธุรกิจโฆษณาออนไลน์ Amazon ยังชิงตลาดที่มีเฟซบุ๊ก (Facebook) และ Google ครองพื้นที่ได้สำเร็จ จุดนี้พบว่าธุรกิจโฆษณาทำยอดขายให้ Amazon ได้เกือบ 2.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 132% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า
Amazon ยังโชว์ว่า ชาวเน็ตกว่า 100 ล้านคนวันนี้ ตัดสินใจจ่ายเงินค่าสมาชิกให้ Amazon เพื่อแลกกับบริการจัดส่งสินค้าเร็วใน 2 วัน และบริการรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่เติบโตขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมา Amazon ประเดิมเพิ่มราคาสมาชิกจาก 99 เหรียญสหรัฐฯ มาเป็น 119 เหรียญสหรัฐฯ ต่อปี สะท้อนว่าการเพิ่มราคานี้ไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจของชาวเน็ตในสหรัฐอเมริกา
ก่อนหน้านี้ หุ้น Amazon ร่วงลงเกือบ 3% ในการซื้อขายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 ก.ค.) แต่กลับฟื้นตัวดีขึ้นเมื่อประกาศผลกำไรร้อนแรง โดยเดือนมิถุนายน มูลค่าตลาด หรือ market value ของ Amazon ทะลุหลัก 900,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ทำให้ Amazon เป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกเหนือแอปเปิล (Apple) สำเร็จ.
