IFC เตรียมปล่อยกู้ 25,000 ล้านบาท ระยะยาว 20 ปี ให้เคที (กรุงเทพธนาคม) ลงทุนทำโครงการนำสายสื่อสารลงดินรอบ กทม. ขณะที่ราคาค่าเช่ายังตกลงกันไม่ได้อยู่ระหว่างรอชงเข้าบอร์ดดีอี วอนทีโอที อยู่เฉยๆ ขอให้ตั้งใจทำงานเน็ตประชารัฐ-เน็ตชายขอบให้ดีก่อน
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตัวแทนจาก บรรษัทเงินทุนระหว่างประเทศ (International Finance Corporation: IFC) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในเครือของธนาคารโลก (World Bank Group) มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้เข้าพบตนเองเพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายและความชัดเจนในการนำสายสื่อสารลงดินของประเทศไทยว่ามีความจริงจังหรือไม่ อย่างไร ซึ่งตนเองได้ให้ข้อมูลว่าประเทศไทยต้องการปรับภูมิทัศน์ของประเทศรวมถึงสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชนในการใช้ท้องถนน และ ริมฟุตบาท จึงมีนโยบายระดับประเทศในการนำสายสื่อสารลงดิน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ในกทม.เท่านั้น แต่ต้องเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย
สำหรับสาเหตุที่ IFC ต้องการความชัดเจนจากกสทช.นั้น เนื่องจาก บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) ได้ทำเรื่องขอเงินกู้เพื่อดำเนินโครงการท่อร้อยสายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มูลค่า 25,000 ล้านบาท แต่ต้องการชำระเงินระยะยาว 20-30 ปี จึงต้องการสอบถามถึงนโยบายดังกล่าวกับกสทช.ว่ามีความชัดเจนเพียงใด ทั้งนี้ เมื่อ IFC ได้หารือร่วมกันกับตนเองแล้ว ก็เกิดความมั่นใจมากขึ้น และมีความเป็นไปได้ในการปล่อยเงินกู้มูลค่า2.5 หมื่นล้านบาทกับการผ่อนระยะยาวให้กับโครงการเกี่ยวกับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยได้
“ขณะนี้ทางกรุงเทพธนาคมเขากำลังเดินหน้าเต็มที่ในการหาแหล่งเงินทุนเพื่อทำโครงการให้สำเร็จ ส่วนทีโอที ตอนนี้ขอให้อยู่นิ่งๆก่อน อย่าเพิ่งทำอะไรที่ทับซ้อนกับกทม. ขอให้ตั้งใจทำโครงการเน็ตประชารัฐ เน็ตชายขอบ ซึ่งเป็นงานของทีโอทีให้ดีก่อน” นายฐากร กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ กรุงเทพธนาคม ยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องค่าเช่าท่อร้อยสายกับเอกชนได้ เนื่องจากราคาที่กรุงเทพธนาคมเสนอยังสูงเกินไปและเป็นการคิดราคาที่ไม่ตรงกับที่ทีโอทีคิดให้กับเอกชน ดังนั้นเอกชนจึงต้องการให้ลดราคาลง เพราะราคาที่ทีโอทีคิดอยู่ที่ 9,000 บาท ต่อกิโลท่อ ต่อเดือน ซึ่งใน 1 กิโลท่อ สามารถให้เอกชนใช้ได้ 3 ราย ราคาเฉลี่ยต่อรายจึงอยู่ที่ 3,000 บาท ต่อกิโลท่อ ต่อเดือน เท่านั้น
ขณะที่กรุงเทพธนาคมเอง ก็ยังไม่สามารถเสนอในราคาดังกล่าวได้จึงเสนอให้กสทช. สนับสนุนเงินบางส่วนในการลงทุนทำท่อร้อยสายดังกล่าวด้วย ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องเสนอไปยังคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (บอร์ดดีอี) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในการอนุมัติให้กสทช.สามารถนำเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน USO) มาสนับสนุนได้
ส่วนเงินสนับสนุนจะเป็นเท่าใดนั้น กรุงเทพธนาคม และ กรุงเทพมหานคร ต้องเป็นผู้คิดสัดส่วนเงินลงทุนมาเสนอกสทช.ก่อนว่าต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ถึงจะสามารถให้บริการได้ในอัตราค่าเช่า 3,000 - 4,000 บาท ต่อกิโลท่อ ต่อเดือนได้ เพื่อให้กสทช.ทำเรื่องนำเสนอต่อบอร์ดดีอีต่อไป