xs
xsm
sm
md
lg

'พุทธิพงษ์' สั่งสอบปลัด ปมไทยคมพ่นพิษ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
'พุทธิพงษ์' ถึงบางอ้อ กรณีไทยคม 5 ผิดสัญญา เร่งตั้งคณะกรรมการสอบความผิดปลัดกระทรวงดีอีเอส หลังศึกษามติครม.และสัญญาสัมปทาน พบ มีหลายเรื่องที่ปลัดทำไม่ถูกต้อง ด้านกสทช.ระบุความผิดนี้อาจร้ายแรงกว่าการแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ 'หมอเลี้ยบ' ถูกดำเนินคดีก่อนหน้านั้น ชี้อาจต้องนำวงโคจรมาเปิดเสรี เหตุดาวเทียมใช้งานไม่ได้ ไม่มีแรงจูงใจดึงนักลงทุนทำพีพีพี

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องดาวเทียมไทยคม 5 ซึ่งอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานระหว่างกระทรวงฯ กับ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) โดยจะหมดสัญญาสัมปทานในเดือน ก.ย. 2564 แต่ดาวเทียมไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้กระทรวงฯต้องทำหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เพื่อขอเช่าใช้วงโคจรดาวเทียมต่างชาติในภาวะฉุกเฉิน เพราะเกรงว่าลูกค้าที่ใช้งานจะได้ผลกระทบนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

เนื่องจากตนเองได้ย้อนกลับไปอ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 2562 แล้ว พบว่า ปลัดกระทรวงฯ คือ น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย เสนอให้ครม.พิจารณาตามที่ไทยคมเสนอมา คือ สามารถดำเนินการเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อน หรือ พาวเวอร์ แบงก์ ให้ไทยคม 5 ที่กำลังเสื่อมสภาพให้ใช้งานได้ แต่ต้องขอขยายระยะเวลาสัญญาสัมปทานไปอีก 4 ปี ด้วย แต่มติครม.ไม่สามารถขยายระยะเวลาสัมปทานออกไปได้ แต่เห็นชอบให้ดำเนินการติดพาวเวอร์ แบงก์ อย่างเดียว จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล ในทางธุรกิจก็มองออกว่าไทยคมไม่มีทางยอมทำให้แน่นอน เหตุใดปลัดกระทรวงฯ จึงไม่คัดค้าน กลับรับมตินั้นมา โดยมั่นใจว่าไทยคมจะดำเนินการตามมติครม.

อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงฯมีความมั่นใจว่า สิ่งที่ไทยคมรับปากว่าจะทำให้ในเดือนส.ค.2563 นั้น ตนเองก็ได้สอบถามกับไทยคมแล้วว่าเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อรู้อย่างนี้ เหตุใดจึงปล่อยเวลาล่วงเลยมาเป็นปีจากที่ครม.มีมติ จะอ้างว่ามีหนังสือตอบกลับหรือตามเรื่องเป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ อย่างไร ก็ขอให้มาชี้แจงเองกับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเรื่องนี้ตนเองปล่อยไปไม่ได้ จะผิดมาตรา 157 ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า สัญญาสัมปทานระบุว่า ต้องมีดาวเทียม หลัก และ ดาวเทียม สำรอง อย่างละ 1 ดวง ซึ่งไทยคม มีสัญญาสัมปทานกับกระทรวงดีอีเอส 11 ไฟล์ลิ่ง รวมไทยคม 4,5,6 และ 7,8 ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการรออนุญาโตตุลาการตัดสิน ว่าท้ายที่สุดแล้วจะอยู่ในระบบสัมปทานกับกระทรวงฯหรือระบบใบอนุญาตของกสทช.โดยไทยคม 4 เป็นดาวเทียมสำรองของไทยคม 3 ซี่งใช้งานไม่ได้แล้ว ดังนั้นเมื่อไทยคม 5 ใช้งานไม่ได้ ก็ต้องมีดาวเทียมสำรองอีกดวง จะอ้างว่าไทยคม 6 เต็มแล้ว ได้อย่างไร และการอนุญาตให้ไทยคมใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติเพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานต่อได้นั้น จะตีความว่าเป็นดาวเทียมสำรองหรือไม่ ตรงนี้ยังไม่มีคำตอบ

นอกจากนี้ สัญญาสัมปทานยังระบุชัดเจนด้วยว่า เมื่อดาวเทียมในสัญญาสัมปทานใช้งานไม่ได้ กระทรวงฯต้องมีหน้าที่ให้คู่สัญญาดำเนินการแก้ไขให้ใช้งานให้ได้ ไม่ว่าการซ่อมบำรุงนั้นจะใช้เงินมากน้อยแค่ไหนก็ตาม ไทยคมอ้างว่าไม่คุ้มทุน ไม่ได้ นอกจากนี้ยังมีประเด็นที่ตนก็ยังกังวลอีกว่าเมื่อไทยคม 5 เสียแล้วจะมีโอกาสตกใส่บ้านเรือนหรือสถานที่ต่างๆในโลกที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ เพราะทราบมาว่าวงเงินประกันความเสียหายทำไว้ที่ 70 ล้านบาท เท่านั้น ซึ่งไม่เพียงพออย่างแน่นอน หรือ หากจะยิงให้ตกก่อนที่จะเกิดความเสียหาย การตัดสินใจดังกล่าวใครจะกล้าตัดสินใจ และจะผิดหรือไม่อย่างไร ขณะเดียวกัน เมื่อหมดสัญญาสัมปทาน เงื่อนไขก็บอกอยู่ว่าต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ก่อนส่งมอบให้กระทรวงฯ ตรงนี้จะดำเนินการอย่างไร

'ยอมรับว่าปวดหัวและหนักใจ ผมเข้ามารับตำแหน่งก็เจอแต่เรื่องแบบนี้ เต็มไปหมด ถามว่ากลัวไหมที่จะถูกหยิบยกไปเป็นประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ผมว่าทุกเรื่องอธิบายได้ เรามีข้อเท็จจริงหมดทุกเรื่อง เมื่อเรารู้ เราก็อธิบายได้ แต่เรื่องนี้ไม่สอบไม่ได้ เอาข้อเท็จจริงและเอกสารมาคุยกัน'

ไทยคม 5
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจาก กสทช.ระบุว่า การดำเนินการไม่เป็นไปตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานที่กระทรวงดำเนินการนั้น โดยเฉพาะเรื่องดาวเทียมสำรอง หากสอบแล้วพบว่ามีความผิด ความผิดนี้น่าจะร้ายแรงยิ่งกว่าการแก้ไขสัญญาสัมปทานที่ น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ หมอเลี้ยบ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ถูกดำเนินคดีไปก่อนหน้านั้น

ดังนั้นกระทรวงฯ ต้องแสดงหลักฐานให้หลุดพ้นจากเงื่อนไขนี้ ก็จะทำให้มีความผิดแค่เรื่องเดียวคือ การไม่สั่งการให้ไทยคมดำเนินการซ่อมบำรุงตามสัญญา หากกระทรวงฯมีหนังสือยืนยันว่าได้ดำเนินการจนถึงที่สุดแล้ว แต่ไทยคมไม่ทำ กระทรวงฯก็ต้องฟ้องร้องกับไทยคม เพราะหากท้ายที่สุดแล้วไทยคม 5 ใช้การไม่ได้ แผนการทำพีพีพีดาวเทียมของกระทรวงฯก็จะเหลือแค่ไทยคม 4 และ 6 กสทช.ก็ต้องนำไฟล์ลิ่งของไทยคม 5 ออกมาให้ใบอนุญาตตามกฎหมายเปิดเสรีดาวเทียมฉบับใหม่

'ถามว่าลูกค้าที่ไทยคม 5 โอนไปเช่าใช้ของต่างชาติ จะกลับมาไหม ไทยคมก็บอกว่ากลับมาไม่ได้ เพราะเมื่อมีการเปิดเสรีดาวเทียมต่างชาติ ลูกค้าก็มีสิทธิ์จะใช้ของใครก็ได้ บังคับไม่ได้ อย่างนี้แล้ว กระทรวงฯจะทำไทยคม 5 ต่อไปอย่างไร ดาวเทียมก็เสีย ลูกค้าก็ไม่มี ใครจะมาทำพีพีพีด้วย เพราะมันไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เรื่องดาวเทียมมันมักมีอาถรรพ์ ที่ผ่านมาก็เด้งปลัดไปแล้วหลายคน' แหล่งข่าว กสทช.ตั้งข้อสังเกต


กำลังโหลดความคิดเห็น