บอร์ดกสทช.ยังไม่ลงมติค่าเยียวยาคลื่น 2600 MHz ให้คณะอนุกรรมการเยียวยากลับไปคิดระยะเวลาถือครองคลื่นให้ชัดเจนก่อนเสนอบอร์ดอีกครั้ง 29 ม.ค. 2563 พร้อมเห็นชอบให้ไทยคม 5 ใช้ดาวเทียมต่างชาติก่อนกฎหมายเสรีดาวเทียมเปิด เหตุไทยคม 5 ขัดข้อง หวั่นกระทบลูกค้า
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2563ที่ประชุมคณะกรรมการกสทช. ยังไม่มีมติอนุมัติเงินเยียวยาคลื่นความถี่ 2600 MHz ให้กับ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) แต่มีมติรับทราบข้อเสนอของคณะอนุกรรมการเยียวยา โดยที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตให้คณะอนุกรรมการเยียวยากลับไปแก้ไขโดยเฉพาะเรื่องประเด็นระยะเวลาที่เหลือในการถือครองคลื่นความถี่ 2600 MHz ว่าเหลือเวลาเท่าใด รวมถึงให้ไปปรับปรุงแก้ไขประเด็นอื่นๆ ให้มีความสมบรูณ์ โดยให้ส่งกลับมายังสำนักงานกสทช.ภายในวันที่ 24 ม.ค.2563 เพื่อนำเข้าเสนอที่ประชุมอีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ 29 ม.ค 2563
'มูลค่าที่คณะอนุกรรมการเยียวยาได้ทำความเห็นมาเป็นการพิจารณาจากการถือครองคลื่นในระยะเวลา 15 ปี ดังนั้น จึงต้องนำระยะเวลาที่เหลือในสัมปทานมาพิจารณา รวมถึงพิจารณาด้วยว่าเมื่ออนุญาตให้นำคลื่นไปให้บริการแล้วมีการนำไปให้บริการหรือไม่อย่างไร มาพิจารณาประกอบด้วยเพื่อความเหมาะสม'
นอกจากนี้ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณากรณี บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ขออนุญาตใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉินเนื่องจากมีเหตุขัดข้องของระบบแจ้งสถานะของดาวเทียมไทยคม 5 แต่ระบบควบคุมสั่งการอื่นยังใช้การได้และยังไม่มีผลกระทบต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ ตามที่บริษัทได้มีหนังสือมา ขณะเดียวกันกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ดศ. 0407/57 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2563 แจ้งขอให้ กสทช. พิจารณาการขออนุญาตจัดหาช่องสัญญาณต่างประเทศตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉินตามที่ไทยคม ร้องขอ
ดังนั้นที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาแล้วพบว่า กรณีดังกล่าว เป็นกรณีเร่งด่วนเนื่องจากส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ อาจส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ที่ส่งสัญญาณออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคมได้ จึงได้มีมติเห็นชอบให้ ไทยคม ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน ดังนี้
1.อนุญาตให้ ไทยคม ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ จากดาวเทียม KTSat 8 ดาวเทียม Measat 3 Measat 3A และดาวเทียม Apstar 7 รวมกันจำนวนไม่เกิน 5.50 ทรานสปอนเดอร์ เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2563 จนถึงไม่เกินวันสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (วันที่ 10 ก.ย. 2564) เพื่อให้บริการ วงจรดาวเทียมสื่อสารทดแทนตามสัญญาดังกล่าว
2. ไทยคม ต้องบริหารจัดการโอนย้ายผู้ใช้บริการวงจรดาวเทียม (ทรานสปอนเดอร์) ของดาวเทียมไทยคม 5 เดิม ไม่ให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้ใช้บริการที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์จาก กสทช. ทั้งนี้ ในกรณีที่จำเป็น กสทช. อาจกำหนดให้ส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบให้ กสทช. พิจารณาด้วย
3.การอนุญาตดังกล่าวเป็นการอนุญาตตามแผนการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งคู่สัญญาตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศได้เห็นชอบร่วมกันไว้แล้วเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ ไทยคม นำช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติข้างต้นไปให้บริการนอกเหนือจากแผนการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน
4. ไทยคม ต้องแจ้งให้ กสทช. ทราบ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงของแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน หรือมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ
5.เมื่อประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ มีผลบังคับแล้ว ไทยคม ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศดังกล่าวให้ครบถ้วนโดยเร็วต่อไป
6.เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ให้กระทรวงดีอีเอส ดำเนินการให้ ไทยคม ปฏิบัติตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศตามที่ได้มีการลงนามผูกพันตามสัญญาให้ถูกต้องครบถ้วน