คำว่า Machine to Machine เป็นคำที่คุ้นหูเรามากว่าสิบปีแล้ว เทคโนโลยีนี้ได้ถูกพัฒนามาจนถึงยุค Internet of Thing (IoT) ที่อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้พูดคุยสื่อสารกันผ่านการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานและเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพในปัจจุบัน ทำให้อุปกรณ์อัจฉริยะเหล่านี้เข้ามาช่วยตอบโจทย์ทั้งการใช้ชีวิต และทำธุรกิจได้สมาร์ทกว่าที่เคย
จากความได้เปรียบในการให้บริการผ่านเครือข่าย NB-IoT ที่ครอบคลุมมากที่สุดในไทย ทำให้ทรูกลายเป็นผู้เล่นแถวหน้าที่น่าจับตามองเมื่อเดินหน้ารุกสู่ Narrow Band IoT (NB-IoT) เทคโนโลยีสื่อสารระยะไกลแบบใช้พลังงานงานต่ำ ที่ต่อยอดมาจากระบบ LTE(4G) รวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไปอีกขั้นสู่ LTE-M (CAT-M1) ให้บริการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงกว่า แต่ยังคงประหยัดพลังงาน ช่วยยืดอายุให้แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวเป็น 10 ปี
ข้อดีของ NB-IoT
จากความสามารถของเทคโนโลยี NB-IoT ที่รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้เป็นจำนวนนมาก ระดับ 1 แสนตัวต่อสถานี มีรัศมีครอบคลุมกระจายได้มากกว่า 10 กิโลเมตร ใช้พลังงานในการรับส่งข้อมูลต่ำ สามารถใช้เครือข่ายโทรศัพท์มือถือในการรับส่งสัญญาณ ทำให้หลากหลายภาคธุรกิจสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปปรับใช้ ยกระดับองค์กรและขับเคลื่อนสังคมสู่ Smart Life และ Smart City ได้อย่างแท้จริง
ตัวอย่างการใช้งาน NB-IoT
• Smart Parking ระบบแจ้งสถานะและจองที่จอดรถ
• Smart Metering ส่งข้อมูลมิเตอร์ค่าน้ำค่าไฟมายังศูนย์กลาง
• Smart Transportation ระบบประเมินการขับขี่ ตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ ลดความเสี่ยงในการสูญหาย และควบคุมอัตราสิ้นเปลือง
• Asset Tracking ระบบติดตามแจ้งโลเคชั่น รถ ของมีค่า
ทั้ง NB-IoT และ LTE-M (CAT-M1) นี้เป็นเทคโนโลยีที่รองรับการใช้พลังงานต่ำ สามารถครอบคลุมพื้นที่ให้บริการได้กว้าง และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT เป็นจำนวนมาก จึงเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์ LPWA IoT applications เพื่อก้าวไปสู่ 5G Massive IoT ในอนาคตได้อย่างแท้จริง
True IoT : The Future is Real. โลกแห่ง IoT ใช้ได้จริงทั่วไทยแล้ววันนี้ ติดตามข่าวสารไอโอทีจากทรูเพิ่มเติม ได้ทาง trueiot.truecorp.co.th และ FB Fanpage : True IoT
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)