แม้จะเพิ่งเริ่มให้บริการเพียง 6 เดือน วันนี้จีบีไพร์มเพย์ (GB Prime Pay) ระบบชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ดาวรุ่งสัญชาติไทยระบุว่ามียอดรูดบัตรเครดิตทะลุ 10 ล้านบาทต่อวัน หวังเพิ่ม 3 เท่าเป็น 30 ล้านบาทต่อวันให้ได้ในปีนี้ ท่ามกลางผู้ประกอบการในระบบกว่า 500-600 ราย วางเป้าหลักบุกพ่อค้าแม่ขายโซเชียลรายย่อยที่ไม่สามารถรับบัตรเครดิตได้
นางสาวสศิรา อภิรัชเหมภาส กรรมการบริหารบริษัทโกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (Global Prime Corporation) เปิดเผยว่าที่ผ่านมา ร้านค้ารายย่อยบนเครือข่ายสังคมจำนวนมากพบปัญหาไม่สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ทำให้มีข้อจำกัดที่จำเป็นต้องรับชำระเฉพาะเงินสดผ่านการโอนบัญชีธนาคารหรือพร้อมเพย์ ผลคือธุรกิจไม่เติบโตเต็มที่เมื่อเทียบกับการรับบัตรเครดิตที่ยืดหยุ่นกว่า ทำให้ธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซต้องหันมาหาทางเปิดร้านค้าออฟไลน์ ขณะที่หลายรายพยายามหาช่องทางฝากสินค้าให้มีหน้าร้าน จึงจะทำให้สามารถรับชำระเงินด้วยบัตรเครดิต กลายเป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นในโซเชียลคอมเมิร์ซเมืองไทยขณะนี้
“ผู้ประกอบการบางรายไม่สามารถใช้บริการอีเพย์เมนต์ของธนาคารได้ เพราะติดเรื่องการวางเงินประกัน ขั้นตอนการดำเนินงานที่ไม่ยืดหยุ่น และตีกรอบมาก เราจึงอยากให้ GB Prime Pay เป็นตัวช่วยร้านออนไลน์ให้เติบโตได้แบบไม่ต้องไปขายผ่านหน้าร้านเพื่อรับบัตรเครดิต”
น่าเสียดายที่ปัจจุบันยังไม่มีการสำรวจตัวเลขร้านค้าออนไลน์ที่ขยายไปออฟไลน์ในประเทศไทย แต่ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า ตัวเลขมูลค่าการชำระเงินผ่าน E payment บนมือถือของเดือนธันวาคม 2559 กับธันวาคม 2560 นั้น เพิ่มมากขึ้นถึง 1 เท่าตัว จากเดิมปี 2559 มูลค่า 584,000 ล้านบาท ปี 2560 มูลค่าการชำระเงินเพิ่มขึ้นมาเป็น 1,046,080 ล้านบาท
เมื่อการันตีว่า GB Prime Pay จะไม่ตีกรอบผู้ประกอบการ GB Prime Pay ซึ่งเป็นระบบรับชำระเงินออนไลน์ที่มีความปลอดภัยระดับสากลตามมาตรฐาน PCI- DSS 3.2 จะคัดกรองผู้ใช้ด้วยการดูตัวตนและดำเนินการพิสูจน์ทราบรายบุคคล บริษัทจะตรวจชื่อผู้ประกอบการกับฐานข้อมูล ปปง. ทำให้ผู้ที่มีชื่อหรือนามสกุลเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงินจะไม่สามารถรับบริการจาก GB Prime Pay ได้ แต่จะไม่มีการพิจารณารายชื่อบุคคลที่ติดเครดิตบูโร
จุดเด่นของ GB Prime Pay ที่เหนือกว่าคู่แข่งอย่างเพย์พาล (Paypal) ยังมีอีก 3 ประเด็น 1 ระยะเวลาส่งเงินให้ผู้ประกอบการ แทนที่จะกำหนดตายตัว 30 วัน GB Prime Pay แบ่งประเภทผู้ประกอบการเพื่อส่งเงินให้ในระยะเวลาที่ต่างกันตามรูปแบบบริการ เช่น ร้านอาหารจะได้รับเงินภายใน 2 วัน หรือผู้ค้าสินค้าที่ต้องจัดส่งจะได้รับเงินใน 7 วัน 2 ประเด็นค่าธรรมเนียมที่ GB Prime Pay ยืนยันว่าอยู่ในระดับ 3-4% ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่ง และ 3 ประเด็นความง่ายในการชำระ เพราะ Paypal นั้นกำหนดให้พ่อค้าและลูกค้าต้องมีบัญชี Paypal ทั้ง 2 ฝ่ายจึงจะจ่ายเงินได้ แต่กรณีของ GB Prime Pay ลูกค้าผู้บริโภคทั่วไปไม่จำเป็นต้องรู้จัก GB Prime Pay ก็สามารถชำระเงินได้
ผู้บริหาร GB Prime Pay ยังย้ำว่า GB Prime Pay ไม่ใช่คู่แข่งของธนาคาร เนื่องจากธนาคารจะเน้นกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจเป็นหลัก แต่ GB Prime Pay เน้นที่โซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งจะไม่ต้องใช้วิธีแปะเลขที่บัญชีอีกต่อไป แต่สามารถรับบัตรเครดิตหรือใช้ QR Code โดยที่ไม่ต้องมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง
วันนี้ ระบบรับชำระเงินออนไลน์ของ GB Prime Payสามารถเชื่อมต่อได้ในหลากหลายแพลตฟอร์ม ทั้งเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, ระบบจอง (Booking Engine), เครื่อง POS (Point of sale) ทำให้ตอบโจทย์ทุกสาขาธุรกิจได้ ปัจจุบันมีธุรกิจในระบบ GB Prime Pay ราว 600 รายทั้งที่เพิ่งเริ่มให้บริการเมื่อต้นปีนี้
สำหรับต้นสังกัด GB Prime Pay อย่างบริษัทโกลบอล ไพรม์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด (Global Prime Corporation) นั้นมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท จุดนี้ผู้บริหารระบุว่าเป็นทุนไทยล้วนไม่มีต่างชาติ และโกลบอล ไพรม์ เป็นผู้ได้รับใบการอนุญาตจากกระทรวงดิจิตอลฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยให้ประกอบธุรกิจรับชำระเงินออนไลน์เมื่อปี 2560 โดยปัจจุบันไม่มีการกำหนดเพดานจำนวนเงินที่ฝั่งร้านค้า ขณะที่ฝั่งผู้ใช้สามารถกำหนดเพดานใช้จ่ายเงินได้เอง
ปัจจุบัน GB Prime Pay มีรายได้หลักจากค่าธรรมเนียม และส่วนต่างจากที่ต้นสังกัดอย่าง VISA และ Master Card กำหนด โดยขณะนี้ GB Prime Pay กำลังทำโปรโมชัน ให้ผู้ค้าที่สมัครใช้บริการภายในมิถุยายนได้รับสิทธิ์ฟรีค่าธรรมเนียม ซึ่งผลการสมัครจะทราบได้ภายใน 2 วันทำการ
เป้าหมายใหญ่ของ GB Prime Pay คือการเป็น One Stop Service ที่สามารถให้บริการผู้ประกอบการในรูปแบบจุดเดียวเบ็ดเสร็จ จุดนี้บริษัทมั่นใจเพราะพันธมิตรในมือ เช่น เอคอมเมิร์ซ (ACOMMERCE), สวัสดีกรุ้ป (SWATDEE GROUP THAILAND) ซึ่งเป็นบริษัทซัปพลายเออร์อย่างเป็นทางการของ Alibaba, เมกเว็บอีซี่ (MAKE WEB EASY), บลูเฮาส์ทราเวล (BULE HOUSE TRAVEL), เคทชัปเว็บ (KETSHOPWEB) และเอ็กซ์เซลลี่ (XSELLY) ทำให้วันนี้ GB Prime Pay ให้บริการระบบรับชำระเงินออนไลน์กับธุรกิจหลากหลายสาขา เช่น สาขาธุรกิจท่องเที่ยว สายการบิน โรงแรม, ธุรกิจออนไลน์ทั้ง E-Commerce รวมทั้ง Social Commerce และยังมีธุรกิจออฟไลน์แบบร้านอาหาร รวมไปถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เช่น ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ และยานยนต์
“ระบบชำระเงินอย่างอาลีเพย์ วีแชตเพย์ ยังรองรับผู้จดทะเบียนที่จีน แต่ GB Prime Pay รองรับได้ทั้งในประเทศไทยและข้ามประเทศ” ฮวาซุน หวู กรรมการผู้จัดการบริษัทสวัสดีกรุ้ป ไทยแลนด์กล่าว โดยสวัสดีกรุ้ปเป็นบริษัทที่เน้นให้บริการเอสเอ็มอีที่อยากขายสินค้าในประเทศจีน ซึ่งจะช่วยบริหารจัดการให้สามารถขายสินค้าบนเว็บไต์เครืออาลีบาบาและเถาเป่า สู่สายตาคนจีนและภูมิภาคอื่นเช่นตะวันออกกลาง
ในส่วนด้าน Social Commerce and E commerce ทาง GB Prime Pay ได้พัฒนาเทคโนโลยี GB LINK ซึ่งเป็นลิงก์หน้าเว็บไซต์สำหรับกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระเงิน ทำให้ผู้ค้าขายบนโซเชียลมีเดียสามารถส่ง GB LINK ให้ลูกค้า เพื่อให้สามารถรองรับทุกการรับชำระเงินออนไลน์ ทั้งบัตรเครดิต บัตรเดบิต คิวอาร์เพย์เมนต์ หรือบิลเพย์เมนต์ ซึ่งจะรองรับการชำระเงินมากกว่า 30 สกุลเงินทั่วโลก และการชำระเงินผ่าน Mobile Banking จากทุกธนาคารพาณิชย์ของไทย
ก้าวต่อไปของ GB Prime Pay คือแผนให้บริการ QR PAYMENT ที่รับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตในไตรมาสที่สามของปีนี้ ซึ่งถือเป็นอีกความก้าวหน้าเพราะ QR PAYMENT ปัจจุบันยังรองรับเฉพาะเงินสดในบัญชี ไม่สามารถใช้บัตรเครดิตชำระได้.