หลังจากเริ่มให้บริการ SCB Connect มาเกือบ 1 ปี จน LINE ยกให้เป็นแอ็กเคานต์ที่ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้ามากที่สุด บน 3 แนวคิดง่ายๆ เร็วกว่า ถูกกว่า ง่ายกว่า จนทำให้กลายเป็นแอ็กเคานต์ที่มี Block Rate ราว 10% ซึ่งต่ำที่สุดในไทย
นายธนา เธียรอัจฉริยะ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส Chief Marketing Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุถึงการที่ทาง SCB ตัดสินใจนำ LINE Business Connect (BC) มาใช้งาน เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวผ่านความกลัวบริการดิจิทัล ก่อนที่ทาง SCB จะประกาศฟรีค่าธรรมเนียม
“ก่อนหน้านี้ SCB มีรายได้จากการสมัครแจ้งข้อมูลธุรกรรมทางการเงินหลักร้อยล้านบาท แต่การที่หันมาผูกกับ LINE BC จะทำให้รายได้ตรงนี้หายไป ทำให้พอข้ามจุดนี้มาได้ การประกาศยกเลิกค่าธรรมเนียมจึงกลายเป็นอีกก้าว”
สำหรับ SCB Connect ถือเป็นบริการแจ้งเตือนยอดเงินเข้า-ออกจากบัญชี ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิต ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่จะแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ในแอปพลิเคชัน LINE โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ทั้งนี้ จากแนวคิดของ SCB ที่มองว่า ในอนาคต หัวใจของธนาคารจะอยู่ทุกที่ ยกเว้นที่แบงก์ ทำให้ธนาคารต้องเข้าไปอยู่ในที่ๆ ลูกค้าอยู่ ประกอบกับการที่เชื่อว่า 99% ของลูกค้าอยู่ที่ LINE จึงมองว่าน่าจะเป็นช่องทางสื่อสารที่เข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด
นายธนา ยกตัวอย่างการผสมผสานดิจิทัลเข้ามาในการให้บริการของ SCB คือ เริ่มจากการนำแม่มณี เข้ามาช่วยในการชำระเงินผ่าน QR Code ซึ่งในมุมของร้านค้าก็อยากทราบว่ามีเงินเข้าต้องทำอย่างไร เพราะถ้าสมัครบริการผ่าน SMS ก็จะแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินสูงกว่า 500 บาท
การมาของ SCB Connect จึงเข้าไปตอบโจทย์ตรงนี้ ที่พิสูจน์แนวคิดให้เห็นว่าอะไรที่ถูกกว่า ดีกว่า จะทำให้ผู้บริโภคหันมาใช้ โดยปัจจุบัน SCB Connect มีลูกค้าสมัครเข้ามาใช้งานแล้วกว่า 2.2 ล้านราย ในขณะที่ SCB Easy ที่เป็นแอปของทาง SCB มีฐานผู้ใช้งานราว 7 ล้านราย
“ในอนาคต เชื่อว่าฐานลูกค้าที่ใช้งาน SCB Easy ก็จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ 10 ล้านราย และปริมาณลูกค้าที่รับการแจ้งเตือนธุรกรรมผ่าน SCB Connect ก็จะเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ และสิ้นปีน่าจะอยู่ในช่วง 4-5 ล้านราย”
ปัจจัยสำคัญที่ SCB มองว่า การนำบริการอย่าง SCB Connect มาจะช่วยให้ธนาคารสามารถก้าวเข้าสู่ดิจิทัลได้ง่ายขึ้น เพราะมีช่องทางสื่อสารกับลูกค้าแบบ 1 ต่อ 1 บนพื้นฐานของการจูงใจให้ลูกค้าหันมาใช้งาน SCB เป็นบัญชีหลักให้ได้
“สิ่งที่ SCB ทำในตอนนี้ คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้ลูกค้ารัก ก่อนที่จะสร้างบทสนทนาเพื่อให้ลูกค้ากลับมาใช้งาน แล้วในอนาคตค่อยคิดว่าจะเสริมบริการ หรือผลิตภัณฑ์ใดเข้าไป ซึ่งถือเป็นวิธีการทำธุรกิจธนาคารหลังจากยุคของการเก็บค่าธรรมเนียม”
ขณะเดียวกัน การหันมาใช้ดิจิทัล ยังถือเป็นการลดต้นทุนที่มีนัยสำคัญจากเดิมต้นทุนเฉลี่ยต่อธุรกรรมในสาขาอยู่ที่ 50 บาท ตู้เอทีเอ็มอยู่ราว 20 บาท แต่ถ้าผ่านช่องทางดิจิทัลจะอยู่ที่ราว 1 บาท ดังนั้น ด้วยการที่ต้นทุนต่ำ เมื่อลูกค้าหันมาใช้งานปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะกลับมาทดแทนรายได้ในอนาคต
นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร ผู้อำนวยการฝ่ายขายและสื่อโฆษณา LINE ประเทศไทย ให้รายละเอียดถึงบริการ LINE BC เพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน SCB Connect ถือเป็นแอ็กเคานต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างตรงความต้องการเนื่องจากทำให้ SCB Connect กลายเป็นแอ็กเคานต์ที่มี Block Rate ที่ต่ำที่สุดในตลาดหลังจากเปิดให้บริการมา 1 ปี ด้วยอัตรา Block Rate ที่อยู่ราว 10% ซึ่งเมื่อเทียบกับแอ็กเคานต์ทั่วๆ ไปจะอยู่ที่ราว 60-70%
“SCB Connect ถือเป็นตัวอย่างการนำเทคโนโลยีของ LINE ไปใช้ได้อย่างถูกใจผู้บริโภค เพราะหลังจากที่ SCB เปิดตัว ได้การตอบรับจากผู้บริโภคที่ค่อนข้างดี ทำให้กระตุ้นให้ลูกค้าหลายๆ รายหันมาใช้งาน BC เพิ่มเติม”
ปัจจุบัน LINE มีแบรนด์ต่างๆ เข้ามาสมัครใช้งาน Official Account (OA) ราว 200 แบรนด์ โดยในปีที่ผ่านมา OA ราว15% เริ่มหันมาใช้งาน BC และเพิ่มเป็น 34% ในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 50% เพราะมองว่าเป็นช่องทางที่จะช่วยให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตได้สะดวกขึ้น
