รมว.ดีอี รับชะลอแผนโอนทรัพย์สินไปบริษัทลูก กสท โทรคมนาคม กับทีโอที (NGDC, NBN) ให้คณะทำงานศึกษาให้รอบคอบก่อนได้ข้อสรุป เชื่อต้องเดินหน้าต่อภายในปีนี้
นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่ากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงดีอี ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาแผนรองรับการเปลี่ยนผ่านของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) บริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (NBN) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ต จำกัด (NGDC) เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา และได้มีการประชุมไปสองรอบแล้วนั้น พบว่า การประชุมครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เมษายน ยังมีปัญหาที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปในการเดินหน้าแยกทรัพย์สินไปยังบริษัทลูกได้ จึงให้ชะลอการโอนทรัพย์สินออกไปก่อนจนกว่าจะหาข้อสรุปได้
ทั้งนี้ การชะลอการโอนทรัพย์สินเกิดจากความเห็นของคณะทำงานร่วมของกระทรวงดีอี ที่ไม่เห็นด้วยกับรายละเอียดในการโอนทรัพย์สินของทั้งสองบริษัท จึงต้องทำการพิจารณา และวางมาตรการที่เหมาะสมให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยกระทรวงดีอี เชื่อว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนโดยเร็วที่สุด เพื่อดำเนินหน้าโครงการตั้งบริษัทลูกให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้
นอกจากนี้ กระทรวงดีอี ได้กำชับให้กรรมการบริหารของทีโอที และ กสท โทรคมนาคม ดำเนินการชี้แจงและทำความเข้าใจในเรื่องนี้เพิ่มเติม โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับความกังวลในอนาคตของพนักงานและอนาคตขององค์กร โดยขอให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน และไม่ให้เกิดปัญหาค้างคาใจในประเด็นใดอีก
ด้านนางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวว่า วันที่ 8 พ.ค. ที่จะถึงนี้ จะมีการประชุมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งยอมรับว่ายังมีหลายประเด็นที่ไม่ชัดเจนว่าทำได้หรือไม่ ดังนั้น จำเป็นต้องทำให้รอบคอบก่อน ซึ่งตนก็ได้สอบถามทางสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้วว่าต้องรีบหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ เพราะปกติแล้ว การเปลี่ยนผ่านต้องใช้เวลา 6 เดือนอยู่แล้ว ดังนั้น หากผู้บริหารทั้งสองมีแผนในการฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจที่ดีกว่า และตอบโจทย์รัฐบาลในการมีโครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติได้ คณะทำงานก็พร้อมจะรับฟัง