อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba) รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2018 (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2017) รายได้รวมเพิ่มขึ้น 56% แตะระดับ 5 หมื่นล้านหยวน หรือ 2.5 แสนล้านบาท รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่งเติบโตขึ้น 58% ขณะที่รายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 96%
นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อดิจิตอลและบันเทิงของอาลีบาบา ยังทำรายได้เพิ่มขึ้น 30% ขณะที่รายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรม ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
แดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอาลีบาบา กรุ๊ป กล่าวในแถลงการณ์ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดว่า อาลีบาบาเริ่มต้นปีงบประมาณ 2018 ได้อย่างมั่นคง สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและหลากหลายทางธุรกิจ โดยบอกว่าการเติบโตของรายได้ที่สูงถึง 56% นำไปสู่ความตั้งใจของอาลีบาบา ที่จะเดินหน้าลงทุนกับโอกาสการเติบโตในระยะยาว
ข้อมูลที่น่าสนใจจากผลประกอบการประจำปีงบประมาณ สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 คือ อาลีบาบา ทำรายได้รวม 50,184 ล้านหยวน (7,403 ล้านเหรียญสหรัฐ) เพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ขณะที่รายได้หลักจากธุรกิจการค้าปลีก-ค้าส่ง เติบโตขึ้น 58% จากปีที่ผ่านมา รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 43,027 ล้านหยวน (6,347 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อาลีบาบา ระบุว่า รายได้จากธุรกิจคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 96% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 2,431 ล้านหยวน (359 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับรายได้จากธุรกิจสื่อดิจิทัลและบันเทิง เติบโตขึ้น 30% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 4,081 ล้านหยวน (602 ล้านเหรียญสหรัฐ)
อีกข้อมูลน่าทึ่ง คือ รายได้จากกลุ่มธุรกิจเชิงนวัตกรรมเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา รวมเป็นรายได้ทั้งหมด 645 ล้านหยวน (95 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่ช่องทางค้าปลีกของอาลีบาบาในประเทศจีน มีลูกค้าที่ซื้อสินค้าอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อปีรวมกว่า 446 ล้านราย เพิ่มขึ้น 12 ล้านราย เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560)
ยอดผู้ใช้งานที่เข้าถึงช่องทางค้าปลีกผ่านโทรศัพท์มือถือในประเทศจีนในแต่ละเดือน สูงถึง 529 ล้านคนในเดือนมิถุนายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 2560 ถึง 22 ล้านคน
จำนวนลูกค้าบริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง ที่จ่ายค่าบริการ เพิ่มขึ้นจาก 874,000 คนในไตรมาสก่อน เป็น 1,011,000 คน (ณ วันสิ้นสุดปีงบประมาณ 30 มิถุนายน 2560) บริษัทได้รายงานการขาดทุนจากธุรกิจดังกล่าวเป็นเงิน 532 ล้านหยวน (78 ล้านเหรียญสหรัฐ) หรือ 103 ล้านหยวน (15 ล้านเหรียญสหรัฐ) หากไม่นับรวมค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ย ภาษี และการชำระหนี้
รายได้สุทธิของอาลีบาบา คือ 14,031 ล้านหยวน (2,070 ล้านเหรียญสหรัฐ) ส่วนรายได้จากการดำเนินการ 17,513 ล้านหยวน (2,583 ล้านเหรียญสหรัฐ) ขณะที่รายได้ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 25,124 ล้านหยวน (3,706 ล้านเหรียญสหรัฐ) สำหรับอัตรากำไรจากการดำเนินงาน อยู่ที่ 35% หรือคิดเป็น 50% หากไม่รวมดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้
ทั้งนี้ อัตรากำไรของกลุ่มธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ก่อนคำนวณดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และการชำระหนี้ อยู่ที่ 63%
กำไรต่อหุ้นปรับลดอยู่ที่ 5.65 หยวน (0.83 เหรียญสหรัฐ) ส่วนกำไรต่อหุ้นปรับลดที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป อยู่ที่ 7.95 หยวน (1.17 เหรียญสหรัฐ) ด้านเงินสดสุทธิจากการดำเนินงานอยู่ที่ 25,311 ล้านหยวน (3,733 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ทั้งหมดนี้ทำให้กระแสเงินสดในมืออาลีบาบา ที่ไม่ได้คำนวณตามหลักการบัญชีทั่วไป มีมูลค่ารวม 22,149 ล้านหยวน (3,267 ล้านเหรียญสหรัฐ)