หลังจากเปิดตัว Connected Car คันแรกเมื่อปีที่แล้ว และหลังจากเจาะระบบอีคอมเมิร์ซและความบันเทิงในรถยนต์ผ่านระบบ Carplay ของแอปเปิล ดูเหมือนอาลีบาบาจะหลงเสน่ห์อุตสาหกรรมยานยนต์ติดหมัด เพราะในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอินเทอร์เน็ตและอีคอมเมิร์ซจากแดนมังกรแห่งนี้เพิ่งลงขัน 18 ล้านดอลลาร์ในการระดมทุนรอบใหม่ของ WayRay ผู้พัฒนาเทคโนโลยี AR สำหรับสมาร์ทคาร์จากสวิตเซอร์แลนด์สดๆ ร้อนๆ
WayRay ผู้ผลิตระบบนำทางแบบโฮโลกราฟิกที่ก่อตั้งกิจการในปี 2012 แถลงว่า บริษัทควักกระเป๋าตัวเองไปแล้ว 10 ล้านดอลลาร์อัดฉีดการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นพื้นฐานของเนเวียน หรือแดชบอร์ดระบบ augmented-reality (ความจริงเสริม – AR) ที่ฉายภาพเส้นทางและข้อมูลอื่นๆ บนกระจกบังลมหน้า โดย WayRay วางแผนไว้ว่า จะทดสอบและเปิดตัวระบบนี้ในเวอร์ชันสำหรับผู้บริโภคภายในปลายปีนี้ รวมถึงเซ็นสัญญากับผู้ผลิตรถรายใหญ่จากทั่วโลกเพื่อติดตั้งระบบอินโฟเทนเมนท์ของบริษัท
นอกจากนั้น WayRay ยังแถลงว่า ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ Banma Technologies บริษัทร่วมทุนระหว่างอาลีบาบา กรุ๊ป กับ SAIC Motor หนึ่งในค่ายรถ “บิ๊ก 4” ของรัฐบาลจีน สร้างระบบนำทาง AR และระบบความบันเทิงที่ควบคุมด้วยเสียงและท่าทางสำหรับรถที่ Banma จะเปิดตัวในจีนปีหน้า ซึ่ง WayRay คุยว่า จะเป็นรถคันแรกของโลกที่ติดตั้ง head-up display (HUD) ระบบ AR แบบโฮโลกราฟิก
ปัจจุบัน ยังไม่มีรถรุ่นไหนติดตั้งเทคโนโลยีนี้โดยตรงจากโรงงาน แม้ผู้ผลิตหลายค่ายแย้มว่า อาจติดตั้งในรถต้นแบบ และเมื่อเดือนที่แล้ว อีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเทลซา บอกเป็นนัยว่า อาจติดตั้ง HUD ในโมเดล 3 เพราะฉะนั้น ยังต้องรอลุ้นกันว่า อาลีบาบาจะได้เป็นผู้บุกเบิกรถที่ติดตั้ง HUD ระบบ AR แบบโฮโลกราฟิกรายแรกสมใจหรือไม่
HUD คือระบบที่แสดงข้อมูล อาทิ เส้นทาง สภาพการจราจร และการแจ้งเตือนต่างๆ บนกระจกบังลมหน้ารถโดยตรง ทำให้คนขับไม่ต้องละสายตาจากถนนไปดูหน้าจอเนวิเกเตอร์ โดยองค์ประกอบเสมือนเหล่านี้สามารถให้รายละเอียดการนำทางในระยะ 20 เมตร และข้อมูลที่แสดงจะเปลี่ยนแปลงตามความเร็วและองศาในการเลี้ยวของรถ นอกจากนี้ระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์แห่งอนาคตจากการพัฒนาของ WayRay ยังเป็นระบบแรกที่ใช้เทคโนโลยีโฮโลกราฟิกสี (จากเดิมที่แสดงแค่สีเขียว) ระบบนี้ยังมีฟังก์ชันผู้ช่วยขับขี่อัจฉริยะที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ อาทิ สถิติและรูปแบบการขับขี่ เป็นต้น
แม้ยังอุบเงียบเกี่ยวกับรายละเอียดรถที่ร่วมพัฒนากับ Banma แต่ WayRay แย้มว่า จะเริ่มนำ “เอเลเมนต์” ผู้ช่วยการขับขี่อัจฉริยะที่ทำหน้าที่วิเคราะห์สไตล์การขับขี่ต่างๆ ออกขายปลีกในอเมริกาและจีนในอีกไม่กี่เดือนนี้
ทั้งนี้ การจับมือกับอาลีบาบาและ Banma เท่ากับเป็นการกรุยทางสะดวกให้ WayRay รุกเปิดตลาดในจีน ซึ่งเป็นตลาดรถใหญ่ที่สุดของโลก
ส่วนในแถลงการณ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป อีธาน สี ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการลงทุน แสดงความเชื่อมั่นว่า การพัฒนาเทคโนโลยีล้ำยุคอย่าง AR และแอปพลิเคชันสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่นระบบนำทาง AR ของ WayRay สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ มีศักยภาพที่ไม่อาจมองข้าม
อาลีบาบานั้นเข้าสู่แวดวงรถยนต์เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว ด้วยการเปิดพรี-ออร์เดอร์ Roewe RX5 ซึ่งเป็น Connected Car ที่บริษัทร่วมพัฒนากับ SAIC เพื่อร่วมแบ่งเค้กในตลาดนวัตกรรมยานยนต์นี้ที่เชื่อกันว่า จะมีมูลค่าถึง 180,300 ล้านดอลลาร์ในปี 2022
RX5 ใช้ระบบปฏิบัติการ YunOS ของอาลีบาบาที่พัฒนาขึ้นมาสำหรับอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ เช่น ตู้เย็นและโทรศัพท์ อาลีบาบายังหวังว่า จะทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ ของรถรุ่นนี้อยู่บนระบบ Internet-of-Things ซึ่งจะรวมฮาร์ดแวร์อัจฉริยะอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการออนไลน์ต่างๆ จากในรถ เช่น จองและจ่ายค่าที่จอดรถผ่าน Aliplay ซึ่งเป็นระบบชำระเงินเคลื่อนที่ของแอนต์ ไฟแนนเชียล บริษัทที่ให้บริการการชำระเงินในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป
อย่างไรก็ตาม สมาร์ทคาร์ของอาลีบาบาต้องขับเคี่ยวดุเดือดกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่แห่งอื่นๆ ของจีน เช่น ลีอีโคที่อวดอ้างว่า ลีซี รถไฟฟ้าของบริษัทเป็นระบบนิเวศเคลื่อนที่ติดล้อระบบแรก และไป่ตู้ที่กำลังพัฒนาเทคโนโลยีรถอัจฉริยะและรถขับขี่อัตโนมัติร่วมกับ BAIC อีกหนึ่งในค่ายรถบิ๊กโฟร์แดนมังกร และนี่อาจเป็นเหตุผลให้อาลีบาบาต้องเร่งติดอาวุธเพิ่มเติมให้รถของบริษัทด้วยการเข้าลงทุนใน WayRay ครั้งนี้