ทีโอที ส่งมอบถนนดิจิตอลครบ 3,000 หมู่บ้าน งวดที่ 1 ทั่วประเทศในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ย้ำเน็ตประชารัฐเป็นโครงการสำคัญของกระทรวงดีอี เพื่อนำประเทศสู่ไทยแลนด์ 4.0
นายมนต์ชัย หนูสง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินโครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงการเน็ตประชารัฐ ซึ่งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มอบหมายให้ทีโอที เป็นผู้ดำเนินการขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสื่อสัญญาณสายเคเบิลใยแก้วนำแสง (FTTx) โดยขณะนี้ ทีโอทีได้ติดตั้งขยายโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงงวดที่ 1 ครบตามเป้าหมายแล้วกว่า 3,000 หมู่บ้าน
รวมถึงการจัดจุดให้บริการอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายกับผู้ใช้บริการหมู่บ้านละ 1 จุดให้บริการ ที่ระดับความเร็วรับ/ส่งไม่ต่ำกว่า 30 Mbps/10 Mbps ทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1,835 หมู่บ้าน ภาคเหนือ 587 หมู่บ้าน ภาคใต้ 449 หมู่บ้าน ภาคกลาง 292 หมู่บ้าน และภาคตะวันออก 211 หมู่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมา จากสภาพอากาศ และภาวะฝนตกอย่างหนักตลอดเดือนพฤษภาคม แม้จะเป็นอุปสรรคความยากลำบากในการติดตั้งขยายโครงข่าย แต่ด้วยความตั้งใจที่จะสร้างถนนดิจิตอลระบบเคเบิลใยแก้ว เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลสร้างประโยชน์ให้กับประเทศ และประชาชน จึงทำให้การขยายโครงข่ายสามารถส่งมอบเน็ตประชารัฐ ถึงมือประชาชนได้ตามเป้าหมายของกระทรวงดีอี
“การส่งมอบเน็ตประชารัฐครบทั้ง 3,000 หมู่บ้านในครั้งนี้ ทีโอทีขอขอบคุณ รมว.กระทรวงดีอี ที่ได้ผลักดันสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประเทศขับเคลื่อนเกิดการพัฒนาในทุกด้าน และขอขอบคุณ กสทช. การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) หัวหน้าส่วนราชการท้องถิ่น ที่สนับสนุนให้ความร่วมมือในการดำเนินการครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ที่ได้ให้ความสำคัญเป็นลำดับแรกในการพาดสายเคเบิลใยแก้วบนเสาไฟฟ้า รวมถึงการติดตั้งมิเตอร์ในพื้นที่หมู่บ้านกว่า 3,000 หมู่บ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โครงการเน็ตประชารัฐ เข้าถึงหมู่บ้านเป็นไปตามเป้าหมาย”
ทั้งนี้ ในการดำเนินการขยายโครงข่ายทีโอที เน้นการใช้เงินงบประมาณอย่างคุ้มค่า มีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน และดำเนินงานด้วยความโปร่งใส โดยได้มีการลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) เน้นการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และผู้สังเกตการณ์ ซึ่งจะสามารถเข้าร่วมสังเกตการณ์ในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตลอดระยะเวลาของโครงการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การจัดซื้อจัดจ้างอุปกรณ์ติดตั้งตามโครงการ และการจัดประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกรอบการดำเนินโครงการให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ทั่วประเทศ
โดยมีผู้ประกอบการในพื้นที่ทั้ง 5 ภูมิภาค จำนวนกว่า 500 ราย ร่วมดำเนินการขยายโครงข่ายสร้างถนนดิจิตอลระบบเคเบิลใยแก้วนำแสงไปยัง 3,000 หมู่บ้าน และเมื่อรวมกับโครงการนำร่อง 99 หมู่บ้าน ทีโอทีได้ดำเนินการติดตั้งไปแล้ว 3,099 หมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายครบทั้ง 24,700 หมู่บ้านภายในสิ้นปี 2560 โดยส่วนที่เหลือ จำนวน 21,601 หมู่บ้าน ทีโอทีจะดำเนินการส่งมอบในเดือนมิถุนายน จำนวน 2,800 หมู่บ้าน เดือนกันยายน 8,200 หมู่บ้าน และเดือนธันวาคม 10,601 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ เมื่อติดตั้งขยายครบทั้งโครงการ จะเป็นการกระจายความเจริญ และสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับชุมชนในการพัฒนาหมู่บ้าน ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้เข้มแข็งทั้งด้านเศรษฐกิจ ด้านคุณภาพการศึกษา การสาธารณสุข และการเข้าถึงบริการของภาครัฐของประชาชน และชุมชน
