'AdCamie' เดินหน้าขยายกลุ่มลูกค้าจับ SMEs
ชีส โมบาย หวังช่วยติดปีก SMEs เมื่อโฆษณาออนไลน์ ไม่ได้มีแค่เฟซบุ๊ก และกูเกิล แต่ยังมีโอกาสในการเข้าถึงผู้บริโภคที่ใช้งานโมบายอินเทอร์เน็ตจำนวนมากจากช่องทางออนไลน์ในรูปแบบอื่น ผ่านแพลตฟอร์มโฆษณาอย่าง AdCamie ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เชาวนิตย์ วัฒนศัพท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีส โมบาย คอร์ปอเรชั่น จำกัด เล่าย้อนให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการนำ AdCamie ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อสื่อโฆษณาออนไลน์ เข้ามาให้บริการในประเทศไทย ด้วยการเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ให้แก่ลูกค้า เกิดขึ้นมาจากที่ผ่านมา ทางชีส โมบาย มีการเลือกใช้ช่องทางโฆษณาต่างๆ ด้วยการติดต่อกับแต่ละแห่ง ทำให้ต้องเสียเวลา และใช้บุคลากรจำนวนมาก
'จากเดิมที่ต้องใช้บุคลากร 5 คน ในการดูแลช่องทางการทำโฆษณาออนไลน์ พอได้รู้จักกับ AdCamie เริ่มนำมาใช้งานก็ไม่จำเป็นที่ต้องเสียเวลาในการดูแลช่องทางโฆษณาจำนวนมากเอง แต่สามารถบริหารจัดการได้ด้วยบุคคลเพียงคนเดียว'
ขณะเดียวกัน ก็มองถึงโอกาสของธุรกิจโฆษณาบนมือถือ ที่มีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 300% ในปีที่ผ่านมา และจะยังคงมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องไปถึงปีต่อๆไป จึงเกิดแนวคิดที่จะนำ AdCamie เข้ามาให้บริการในประเทศไทย ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา
เพียงแต่ว่าก่อนหน้านี้ ทาง AdCamie จะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นเอเจนซีขนาดใหญ่ เพื่อให้ทำความรู้จักกับแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่มีช่องทางที่หลากหลาย เพียงแต่พบว่า เมื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปเสนอทางเอเจนซี จะพบว่าส่วนใหญ่อยากที่จะเรียนรู้ และติดต่อหาช่องทางด้วยตนเอง ส่งผลให้ต้องมีการปรับกลยุทธ์ในการรุกตลาดใหม่
โดยเมื่อมองแล้วธุรกิจ SMEs ในปัจจุบัน ถือว่ามีการเติบโตที่สูงมาก และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ทราบถึงช่องทางโฆษณาออนไลน์ที่มากขึ้น ทำให้มีการปรับกลุ่มลูกค้าลงมาเป็น SMEs ที่ต้องการขยายโอกาสทางธุรกิจให้ได้รับผลตอบรับในวงกว้างมากยิ่งขึ้น
'ตอนนี้สัดส่วนรายได้ของชีส โมบาย ยังมาจากธุรกิจที่เป็นการผลิตคอนเทนต์เป็นหลักราว 80% และอีก 20% จะมาจากการให้บริการ AdCamie แต่ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ธุรกิจคอนเทนต์ของ ชีส โมบายมีการเติบโตถึง 4 เท่าตัวมาจากการใช้ AdCamie ในการบริหารจัดการช่องทางโฆษณา จึงถือเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่ามีโอกาสใช้งานและประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี'
อย่างไรก็ตาม เชาวนิตย์ เชื่อว่า ในอนาคตธุรกิจของชีส โมบาย จะมุ่งหน้าไปที่การเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่าภายในปีหน้า สัดส่วนรายได้ของชีส โมบาย จะมาจากธุรกิจคอนเทนต์ และการให้บริการ AdCamie อยู่ที่ 50% เท่ากัน
ปัจจุบัน AdCamie ในประเทศไทยจะได้รับความนิยมจากผู้ให้บริการเกมในเกาหลี ที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย รวมถึงเอเจนซีขนาดใหญ่ในประเทศไทย ที่ต้องการเพิ่มช่องทางการสื่อสารแก่ลูกค้า ซึ่งในอนาคต AdCamie ก็จะไม่ได้หยุดอยู่แค่แพลตฟอร์มโฆษณาบนมือถือ แต่จะเข้าถึงทั้งพีซี และสื่อภายนอกอาคารด้วย
'แนวโน้มของการพัฒนาสื่อโฆษณาในอนาคต จะเริ่มให้ความสำคัญกับช่องทางที่หลากหลาย และปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมมากขึ้น อย่างสื่อโฆษณาภายนอกอาคาร ก็จะเริ่มทำระบบให้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เพื่อให้ลูกค้าเลือกช่วงเวลาในการทำโฆษณาได้ เปิดโอกาสให้ลูกค้าหลายๆรายเข้าถึงช่องทางโฆษณาให้มากขึ้น'
ในอนาคตลูกค้ารายใหญ่อาจจะไม่ได้สำคัญเหมือนในปัจจุบัน เพราะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มโฆษณาสามารถหาลูกค้ารายย่อยมาโฆษณาแทนในช่วงที่ลูกค้ารายใหญ่ปรับเปลี่ยนแผน ทำให้ไม่เกิดช่องว่างในการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
สำหรับแผนที่จะทำให้ AdCamie สามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้น มาจากการปรับโยกงบในการทำตลาด ที่มีการใช้งานต่อเนื่องเดือนละราว 15-16 ล้านบาท มาให้ความสำคัญกับ AdCamie มากยิ่งขึ้น ถัดมาคือการจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับแพลตฟอร์มโฆษณาให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทาง AdCamie ได้ร่วมกับทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ที่มีฐานผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศไทย จัดงานสัมมนา 'Mobile First SMEs Online' เพื่อแนะนำผู้ประกอบการที่ปัจจุบันรู้จักแต่ช่องทางการตลาดผ่านเฟซบุ๊ก หรือกูเกิล ให้ได้รับทราบช่องทางอื่นเพิ่มมากขึ้น
โดยมีผู้ประกอบการ SMEs ตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 300 ราย ซึ่งทาง AdCamie ยังได้มีการเชิญพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจอย่าง Paysbuy ที่เป็นระบบชำระเงินออนไลน์ Lalamove บริการโลจิสติกส์สำหรับขนส่งสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน และMakeWebEasy บริษัททำเว็บมาเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการเลือกใช้
'หลังจากนี้เราจะมีการจัดงานสัมมนาเพื่อแนะนำผู้ประกอบการทุกเดือน เพื่อแนะนำช่องทางการสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ ซึ่งทาง AdCamie ตั้งเป้าว่าถ้ามีลูกค้าที่มาฟังและสนใจที่จะทดลองใช้งานเกิน 50 รายก็พึงพอใจแล้ว'
กาเบรียล แทน ผู้ก่อต่อ AdCamie.com ให้ข้อมูลสถิติที่น่าสนใจว่า มากกว่า 85% ของผู้ประกอบการ SMEs ใช้เฟซบุ๊กในการโฆษณา และพบว่ามีการเก็บอัตราค่าโฆษณาที่เพิ่มขึ้น แต่ได้จำนวนผู้เข้าถึงน้อยลง ขณะเดียวกันคู่แข่งทุกรายก็ใช้งานเฟซบุ๊กในการทำตลาดเช่นเดียวกัน รวมถึงการทำตลาดผ่านกูเกิล และไลน์
ในขณะที่พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้มีการใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆอีก การเข้าถึงผู้ให้บริการช่องทางโฆษณาอื่นๆ ถือเป็นโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าที่กว้างขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ AdCamie ทำคือการเข้ามาช่วยบริหารจัดการ การซื้อโฆษณาออนไลน์ที่สามารถซื้อได้ทุกช่องทางโดยเฉพาะบนโทรศัพท์มือถือ
'ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ไม่ถึง 25% ที่มีการทำตลาดผ่านอุปกรณ์พกพา ในรูปแบบของการมีเว็บที่รองรับการใช้งานทั้งบนสมาร์ทโฟน และบนพีซี ในขณะที่อีก 75% ทำการตลาดผ่านเว็บไซต์เป็นหลัก และยังพบว่าสถิติของผู้ประกอบการ SMEs เมื่อมีการขยายช่องทางการตลาดเข้าสู่โมบาย มีโอกาสที่จะเติบโตถึง 3 เท่า'
ขณะเดียวกัน จำนวนผู้ใช้งานในประเทศไทย พบว่า 80% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมาจากโทรศัพท์มือถือ จากจำนวนมือถือมากกว่า 100 ล้านเครื่อง ส่วนจำนวนธุรกรรมออนไลน์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจะอยู่ที่ปีละราว 600 ล้านเหรียญ และมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มเป็น 1.4 พันล้านเหรียญภายในปี 2563
'ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐาน และระบบอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็ว ผู้ใช้งานโทรศัพท์สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น และสุดท้ายคือผู้บริโภคเข้าใจการใช้งานอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้ โดยไม่จำกัดเวลา และสถานที่'