ผู้จัดการรายวัน 360 - ผู้นำด้านแอปพลิเคชันให้บริการรับ-ส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ตลอด 24 ชั่วโมงจากฮ่องกง ปลื้มผลการดำเนินงานในกรุงเทพฯ หลังเปิดให้บริการ 2 ปีเติบโต 600% ด้วยมูลค่าการใช้บริการ 120 ล้านบาท เตรียมแผนเพิ่มบริการใหม่หวังปี 60 เติบโตอย่างน้อย 6 เท่า พร้อมขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จาก 5 เมือง 5 ประเทศ เป็น 100 เมือง 10 ประเทศ
นายสันทิต จีรวงศ์ไกรสร ผู้อำนวยการประจำภูมิภาค ฝ่ายดำเนินงาน Lalamove (ลาลามูฟ) ผู้นำด้านแอปพลิเคชันให้บริการรับ-ส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ตลอด 24 ชั่วโมงจากประเทศฮ่องกง เปิดเผยว่า ปัจจุบัน Lalamove เปิดให้บริการในทวีปเอเชียรวม 45 เมือง แบ่งเป็น 40 เมืองในจีน และ 5 เมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ฮ่องกง สิงคโปร์ กรุงเทพฯ ไทเป และมะนิลา โดยมีเป้าหมายที่จะขยายตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ยกเว้นจีน) เป็น 100 เมือง 10 ประเทศ ภายในปี 2560
การขยายตัวของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีอัตราเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 15% ต่อปี ส่งผลโดยตรงต่ออุตสาหกรรมการขนส่งซึ่งมีการเติบโตขึ้นอย่างมากในปี 2559 โดยเฉพาะในส่วนของการขนส่งแบบออนดีมานด์ซึ่งให้บริการผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ทำให้ Lalamove มีการปิดรอบระดมทุนซีรีส์บีไปเมื่อไม่นานมานี้ด้วยมูลค่ารวม 30 ล้านเหรียญสหรัฐ โดย “เซียงเหอแคปปิตัล” ผู้ลงทุนจากกรุงปักกิ่ง ทำให้มียอดรวมทั้งหมดตั้งแต่ระดมทุนเป็นจำนวน 60 ล้านเหรียญสหรัฐ
“Lalamove เริ่มเข้ามาทำตลาดประเทศไทยในปี 2557 จนปัจจุบันถือเป็นผู้นำตลาดรับ-ส่งสินค้าแบบออนดีมานด์ซึ่งมีสัดส่วนเพียง 5% ของตลาดรวม ในปี 2560 จึงมีแผนพัฒนาแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงขยายการให้บริการไปยังพื้นที่ใหม่ๆ ตลอดจนเพิ่มการให้บริการรับ-ส่งสินค้าภายใน 1 วัน หรือ Same Day Parcel Base ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ใหญ่ในตลาดด้วยสัดส่วน 95% เพื่อให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ในแวดวงที่กว้างขึ้น” นายสันทิตกล่าวในตอนท้าย
ด้าน นายชานนท์ กล้าหาญ กรรมการผู้จัดการ Lalamove ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า กรุงเทพฯ ถือเป็นตลาดสำคัญของ Lalamove (ยกเว้นจีน) ที่มีการเติบโตสูงสุดถึง 600% ในปี 2559 ทั้งในแง่ของปริมาณการใช้งานและมูลค่าการใช้บริการ ด้วยยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่า ทำให้ปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งาน 2.1 แสนราย รวมมูลค่าการใช้บริการเป็นเงินกว่า 120 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2560 จะยังคงรักษาการขยายตัวเพิ่มขึ้น 6 เท่า คิดเป็นมูลค่าการใช้บริการเป็นเงิน 720 ล้านบาท
ผู้ใช้บริการส่วนใหญ่เป็นลูกค้าทั่วไป 70% และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ 30% ส่วนใหญ่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม 60% ส่วนที่เหลือเป็นเสื้อผ้าและร้านค้าออนไลน์ทั่วไป ส่วนช่องทางที่ผู้ใช้บริการใช้งานในปัจจุบันมี 3 ส่วน คือ แอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโอเอส 80% เว็บไซต์ 18% และ Open API (การเชื่อมต่อระบบของ Lalamove กับแพลตฟอร์มต่างๆ ของลูกค้า) 2% ซึ่งมีเป้าหมายที่จะขยายเพิ่มเป็น 10-15% ภายในระยะเวลาอันใกล้ อันเนื่องมาจากการขยายตัวของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ
Lalamove มีจุดเด่นคือการรับ-ส่งสินค้าด้วยระยะเวลารวดเร็วใน 1 ชั่วโมง ภายในรัศมีระยะทาง 10-15 กิโลเมตร พร้อมพนักงานขับรถอิสระมากที่สุดในตลาดประเทศไทยด้วยจำนวน 1.7 หมื่นคน ส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ 90% ส่วนที่เหลือ 10% เป็นรถกระบะและรถยนต์ 5 ประตู โดยในปี 2559 มีระยะทางขนส่งสินค้าทั้งหมด 40,075 กิโลเมตร เทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกถึง 314 รอบ