Focus ทุ่ม 20 ล้านบาท อัดแคมเปญการตลาด เปิดตัวกระจกนิรภัยถนอมสายตา “Focus Blue Light Cut Tempered Glass” จับกระแสสมาร์ทโฟนบูมต่อเนื่อง ทั้งที่ตลาดรวมมือถือซบเซา มั่นใจตลาดให้การตอบรับที่ดี โดยเฉพาะกลุ่มคนใช้สมาร์ทโฟนที่รักสุขภาพต้องการถนอมสายตา มองเทรนด์กระจกนิรภัยถนอมสายตาเติบโตได้อีกมาก ตั้งเป้ายอดขายรวมฟิล์มสิ้นปี 550 ล้านบาท
นายอมรศักดิ์ แดงแสงทอง รองประธานกรรมการฝ่ายการตลาด บริษัท ดีพลัส อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิต และจำหน่ายฟิล์มกันรอยแบรนด์ Focus กล่าวถึงภาพรวมตลาดฟิล์มกันรอยปัจจุบันว่า แบรนด์ Focus มีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับ 1 ประมาณ 63% ขณะที่อันดับ 2 คือ Dapad มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 29% และแบรนด์คู่แข่งรายย่อยอื่นๆ ที่เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ มีส่วนแบ่งการตลาดรวมกันไม่ถึง 8% การแข่งขันในตลาดส่วนใหญ่เป็นเรื่องราคา โดยจะเห็นการลอกเลียนแบบผลิตภัณฑ์อยู่มาก รวมทั้งการนำเข้าสินค้าต้นทุนต่ำจากจีนเข้ามาทำตลาด ขณะที่ Focus ให้ความสำคัญต่อการทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ด้วยจุดแข็งที่มีโรงงานผลิตเอง ทำให้สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าของตัวเองได้ทุกขั้นตอน
“ตลาดอุปกรณ์เสริม และฟิล์มกันรอยช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ชะลอตัวกว่าที่คาดการณ์ไว้ อันเป็นผลจากการชะลอตัวของภาพรวมเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของผู้บริโภค ทำให้การตัดสินใจเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือใหม่ และอุปกรณ์เสริมลดน้อยลงตาม”
ในส่วนภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายรวมอยู่ที่ราว 17 ล้านเครื่อง ขยายตัวประมาณ 24% จากปีก่อนหน้า ซึ่งมียอดขายรวมอยู่ที่ 13.6 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นการขยายตัวที่ชะลอลงจากปีที่ผ่านๆ มา ซึ่งในจำนวนนี้พบว่าตลาดสมาร์ทโฟนกลุ่มหน้าจอใหญ่กลับมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น นับเป็นปัจจัยบวกที่ส่งผลดีต่อการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของ Focus
ทั้งนี้ ค่าเฉลี่ยคนไทยในปัจจุบันดูจอทุกอย่างรวมกันไม่ว่าจะเป็นจอทีวี โน้ตบุ๊ก และสมาร์ทโฟน ประมาณ 7.2 ชั่วโมงต่อวัน แน่นอนต้องได้รับแสงที่ปล่อยออกมาจากอุปกรณ์เหล่านั้นมากน้อยต่างกัน โดยตัวที่ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาเป็นอันตรายต่อสายตามากที่สุด คือ แท็บเล็ต เมื่อเป็นจอใหญ่ก็ต้องการความชัดเจนมากขึ้น โอกาสที่คนจะใช้ฟิล์มกันรอยที่เป็นกระจกก็มีมากขึ้น โดยสมาร์ทโฟนจะมีหน้าจอใหญ่ และเหมาะต่อฟิล์มกันรอยที่มีคุณภาพ คือ ชนิดที่เป็นกระจกเทียบได้กับซื้อรถยนต์จะหาราคาถูก แต่ตอนแต่งรถเพื่อความสวยงามมักไม่ต่อราคา
ก่อนหน้านี้ ดีพลัส เปิดตัวฟิล์มป้องกันแสงสีฟ้าออกมาทำตลาด โดยพบว่า มีคนกลุ่มหนึ่งที่ต้องการฟิล์มกันรอยประเภทที่เป็นกระจกป้องกันแสงสีฟ้า เพราะสามารถป้องกันการขีดข่วนได้ดีกว่าชนิดที่เป็นฟิล์ม จึงเป็นที่มาของการพัฒนาโปรดักต์ที่ตอบสนองความต้องการผู้ใช้ที่ต้องการกรองแสงสีฟ้า ขณะเดียวกัน ก็อยากได้ความแข็งแกร่งของกระจกเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนได้ด้วย โดยล่าสุด ดีพลัส เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ “กระจกนิรภัยถนอมสายตา” (Focus : Blue Light Cut Tempered Glass) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ในการปกป้องหน้าจอสมาร์ทโฟนพร้อมดูแลสุขภาพดวงตาของผู้บริโภค ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคจอประสาทตาเสื่อมในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีกรองคลื่นแสงสีฟ้าที่กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ และทำลายเซลล์จอประสาทตา
Focus : Blue Light Cut Tempered Glass มีคุณสมบัติในการป้องกันรอยขีดข่วน และปกป้องหน้าจอสมาร์ทโฟนได้ โดยผลิตจากแผ่นกระจกคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ผ่านกระบวนการอบด้วยความร้อนสูงจนมีความแข็งแกร่งถึงระดับ 9H เช่นเดียวกับกระจกนิรภัยที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ มีรูปทรงที่พอดีต่อหน้าจอสมาร์ทโฟนรุ่นยอดนิยมหลากหลายรุ่น ผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้วยสารชนิดพิเศษช่วยให้ผิวสัมผัสลื่น ใช้งานทัชสกรีนได้ไม่สะดุด ตลอดจนลดคราบมัน และรอยนิ้วมือที่เกิดขึ้นขณะใช้งาน เหมาะต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟนที่ต้องการถนอมสายตา
นายอมรศักดิ์ กล่าวว่า Focus เป็นรายเดียวที่ผลิตในประเทศ ขณะที่แบรนด์อื่นนำเข้ามาทำตลาดจึงมีข้อจำกัดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บางรายบอกว่า ป้องกันแสงสีฟ้าได้ก็จริง แต่ก็ต้องดูว่าได้ในระดับไหน ขณะที่ Focus เน้นป้องกันแสงสีฟ้าได้จริงโดยผ่านการทดสอบจากกรมวิทยาศาสตร์ ทั้งให้ภาพที่สวยเหมือนเดิม สัมผัสผิวได้ลื่นกว่า
ดีพลัส คาดว่าจะใช้งบการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่โดยมุ่งเน้นการปลุกกระแสการดูแลสุขภาพดวงตาจากการใช้สมาร์ทโฟน ผ่านภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้า สื่อออนไลน์ ตลอดจนจัดกิจกรรมโรดโชว์ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดหัวเมืองในภาคต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลต่อกลุ่มผู้บริโภค โดยจะเริ่มแคมเปญโปรโมตตั้งแต่ช่วงเดือน มิ.ย.-ส.ค.นี้ โดยมั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่จะมีกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้บริโภค
“ในปีนี้ Focus ตั้งเป้ายอดขายฟิล์มกันรอยรวมไว้ที่ 550 ล้านบาท เติบโตประมาณ 10% จากปีก่อน จากตลาดรวมฟิล์มกันรอยทุกประเภท 800-900 ล้านบาท เน้นการชิงส่วนแบ่งตลาดกระจกนิรภัยให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 60% เนื่องจากยังคงเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่มใหม่ที่มีโอกาสเติบโตได้อีก ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จากกระจกนิรภัยอยู่ที่ประมาณ 15% นอกจากนี้ Focus จะมุ่งเน้นการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกันรอยด้วยการควบคุมคุณภาพสินค้าให้มีความหลากหลาย มีประสิทธิภาพในการใช้งานสูง และพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ให้ตรงความต้องการของผู้บริโภคออกมาอย่างต่อเนื่อง”
