แจ้งเกิดระบบรถไฮเทค สตาร์ทไม่ติดเมื่อพบคนขับ”เมา”

กำเนิดระบบเซ็นเซอร์พันธุ์ใหม่ที่สามารถทำให้รถยนต์สตาร์ทไม่ติดหากพบว่าผู้ขับมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือกสูงกว่าที่กฏหมายกำหนด ผู้พัฒนาสุดรอบคอบจัดเซ็นเซอร์ 2 ตัวทำงานร่วมกันเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ทั้งจากลมหายใจและจากการสัมผัสด้วยเทคโนโลยีอินฟราเรด คาดแรงสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกสหรัฐฯและเหล่าสมาคมที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้เซ็นเซอร์นี้ถูกพัฒนาต่อเนื่องเพื่อนำไปใช้งานในยานยนต์จริงในอนาคต

แม้จะเป็นคุณสมบัติที่ไม่ได้ช่วยให้รถขายดีขึ้น แต่ข่าวการพัฒนาระบบเซ็นเซอร์สำหรับตรวจจับผู้ขับขี่มึนเมาสะท้อนถึงการยกระดับความปลอดภัยของผู้ใช้ถนนได้ชัดเจน ข้อมูลระบุว่าเซ็นเซอร์นี้ถุกพัฒนาโดยโครงการ Driver Alcohol Detection System for Safety (DADSS) โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานรัฐผู้ดูแลความปลอดภัยบนทางหลวง National Highway Traffic Safety Administration (NHTSA) และสมาคมยานยนต์ที่มีสมาชิกเป็นผู้ผลิตรถมากกว่า 17 แห่ง รวมถึงสมาคมผู้ผลิตสินค้าที่เกี่ยวข้องกับแอลกอฮอล์หลายรายในสหรัฐฯ

เทคโนโลยีตรวจจับโมเลกุลแอลกอฮอล์ในเลือดของ DADSS ถูกกำหนดระดับแอลกอฮอล์ที่จะทำให้เครื่องสตาร์ทไม่ติดไว้ที่สูงกว่า 0.08% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่กฏหมายสหรัฐฯระบุไว้ ค่าเปอร์เซ็นนี้เกิดจากการนำค่าไปเทียบกับโมเลกุลคาร์บอนไดออกไซด์ในบริเวณนั้น

ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นผลการร่วมมือพัฒนามาตั้งแต่ปี 2008 จุดนี้สำนัก NHTSA ระบุว่าได้มีการร่วมหารือกับวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯหลายราย รวมถึงตัวแทนอุตสาหกรรมที่สำนักงานใหญ่ของกระทรวงคมนาคมของสหรัฐฯ (U.S. Department of Transportation) โดยการหารือมีการจำลองเทคโนโลยีของ DADSS บนรถทดสอบ เพื่อสาธิตวิธีการใช้งานระบบของผู้ขับขี่ด้วย

ทั้งหมดนี้ มาร์ก โรสไคนด์ (Mark Rosekind) ตัวแทนสำนัก NHTSA ยอมรับว่าเทคโนโลยีนี้ยังต้องถูกพัฒนาต่อเนื่องอีกหลายปี แต่แรงหนุนจากวุฒิสภาและภาคอุตสาหกรรมจะทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการวิจัยและพัฒนา และสามารถแก้ปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนนสหรัฐฯได้อย่างเป็นรูปธรรม

ข้อมูลล่าสุดระบุว่า อุบัติเหตุจากผู้ขับขี่มึนเมาเป็นต้นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนสหรัฐฯมากกว่า 10,000 รายต่อปี ทำให้เกิดความเสียหายมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1.99 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6.3 ล้านล้านบาท



การเปิดให้เจ้าของรถมีโอกาสเลือกซื้อรถที่มีเทคโนโลยีตรวจจับระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของ DADSS ถูกตั้งความหวังว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุที่เกิดจากความมึนเมาของผู้ขับขี่รถในสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและสิงห์นักดื่ม แต่ในรายงานจากเดอะดีทรอยต์นิวส์ (The Detroit News) กลับพบว่ามีตัวแทนบางอุตสาหกรรมไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ เนื่องจากระบบอาจอ่อนไหวกับระดับแอลกอฮอล์ที่พบมากเกินกว่าเหตุจนทำให้ผู้ใช้พลาดความสุนทรีย์จากเครื่องดื่มบางชนิด

หนึ่งในผู้ที่เห็นต่างจาก DADSS คือสถาบันเครื่องดื่มอเมริกัน (American Beverage Institute) โฆษกของ ABI ไม่เชื่อว่าเทคโนโลยีของ DADSS จะช่วยลดอุบัติเหตุได้ โดยให้สัมภาษณ์ว่าผู้ใช้รถอาจหงุดหงิดกับการสตาร์ทเครื่องไม่ติดเพราะการดื่มไวน์ 1 แก้วระหว่างอาหารมื้อค่ำก็ได้

...สรุปว่า เมาไม่ขับ และไม่ต้องกลับจ้า...