สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง แสดงควาามห่วงใยร่างกฎหมายดิจิตอล 10 ฉบับ ละเมิดสิทธิประชาชน จำกัดสิทธิเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นผ่านอินเทอร์เน็ต ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ไร้ขอบเขต หมกเม็ดบางหน่วยงานรัฐไร้การตรวจสอบ มีลักษณะควบคุมมากกว่าส่งเสริม วอนชะลอการพิจารณา และเปิดรับฟังความเห็นทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง
วันนี้ (22 ม.ค.) สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (Online News Providers Association-SONP) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อร่างกฎหมายดิจิตอล 10 ฉบับ ที่ผ่านการอนุมัติรับหลักการโดยมติคณะรัฐมนตรีไปแล้ว มีใจความดังนี้
“ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎหมายใหม่ที่เกี่ยวข้องต่ออุตสาหกรรมไอทีและอินเทอร์เน็ต จำนวน 10 ฉบับ ภายใต้แนวคิดการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลของประเทศไทยได้แก่ 1) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 2) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 3) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ 4) ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 5) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอล 6) ร่างพระราชบัญญัติกองทุนพัฒนาดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 7) ร่างพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม 8) ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ 9) ร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยคณะกรรมการดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และ 10) ร่างพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม เพื่อกำหนดให้มีกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ในฐานะองค์กรของผู้ประกอบวิชาชีพการผลิตข่าวออนไลน์ ซึ่งจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากร่างกฎหมายดังกล่าว ได้ประชุมหารือกันเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องแล้ว มีความเห็นเบื้องต้นเสนอไปยังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
1.สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์สนับสนุนหลักการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีสารสนเทศหรือ “ดิจิตอล” มาใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ แต่ไม่เห็นด้วยหากจะมีการผลักดันดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมด้วยการเร่งรัดออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยปราศจากการมีส่วนร่วมของประชาชน และผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้าน
2.เนื้อหาของร่างกฎหมายหลายฉบับมีลักษณะเข้าข่ายการละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน ซึ่งจะมีผลในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความเห็นผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อันเป็นการออกกฎหมายที่ไม่ส่งเสริมหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย นอกจากนี้ ยังมีเนื้อหาบางส่วนที่จำกัดการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนด้วย
3.พนักงานเจ้าหน้าที่ในร่างกฎหมายหลายฉบับถูกกำหนดให้มีอำนาจอย่างไร้ขอบเขตและปราศจากการกลั่นกรอง หรือมีการรับรองการใช้อำนาจเข้าตรวจค้นจับกุม ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิของเอกชน เช่น การให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นจับกุมโดยไม่ต้องมีคำสั่งศาล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีการขยายขอบเขตการให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายอื่นๆ ที่ไม่เข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศ จึงง่ายต่อการใช้อำนาจไปในทางที่ผิดจนเป็นการรบกวนสิทธิของประชาชน
4.ลักษณะของเนื้อหาตามร่างกฎหมายบางฉบับ มีการหมกเม็ดให้อำนาจแก่หน่วยงานรัฐโดยปราศจากการตรวจสอบจากกฎหมาย หรือหน่วยงานใดๆ ซึ่งถือเป็นการผิดวิสัยของการร่างกฎหมายที่ไม่เป็นตามมาตรฐานของการบัญญัติกฎหมาย หรือเข้าข่ายการร่างกฎหมายตามอำเภอใจ ซึ่งหากไม่มีการพิจารณาโดยรอบคอบแล้ว กฎหมายที่ออกมาก็จะเป็นกฎหมายที่ขัดต่อหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (Good Governance)
5.เนื้อหาของร่างกฎหมายหลายฉบับมีลักษณะของการ “ควบคุม” มากกว่า “ส่งเสริม” การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมโดยดิจิตอล ตามเจตนารมณ์ที่รัฐบาลประกาศต่อสาธารณชน ซึ่งอาจจะมีผลให้ภาคธุรกิจต่างประเทศถอน หรือยกเลิกการลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยทั้งในระยะสั้นและระยะยาว
ด้วยเหตุผลข้างต้น สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จึงขอเรียกร้องมายังนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ชะลอการพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวทั้ง 10 ฉบับ และเปิดการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างกว้างขวาง เพื่อให้การพิจารณาผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาลเป็นไปด้วยความรอบคอบ และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง อันจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในระยะยาวต่อไป
สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์
22 มกราคม 2558”