หลังเอชพีมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิถึง 8.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ตั้งแต่กลางปี 2555 ที่ผ่านมา ชื่อเสียงของเอชพีก็ดูเหมือนว่าจะเริ่มเบาบางลงไปทุกที ล่าสุดเอชพีได้จัดงาน APJ Media Summit 2014 ที่ประเทศอินเดียช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อบอกเล่าให้เห็นถึงทิศทางธุรกิจของเอชพีให้กับลูกค้าในเอเชียแปซิฟิก พร้อมยืนยันที่จะกลับมาทำตลาดอีกครั้งในตลาดองค์กร ด้วยโซลูชันที่หลากหลายมากขึ้น เปลี่ยนไปจากทิศทางเดิมที่เคยมุ่งเน้นการจัดจำหน่ายพีซี และผลิตภัณฑ์ในกลุ่มคอนซูเมอร์
การขาดทุนที่ผ่านมาของเอชพีทำให้ต้องมีการจัดการองค์กรกันใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการลดจำนวนพนักงานลงนับ10,000 ตำแหน่ง การปรับโครงสร้างขององค์กรใหม่ทั้งหมด ด้วยการตัดตำแหน่งและหน่วยงานที่มีความซ้ำซ้อนกันให้เข้ามาอยู่รวมกัน นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการจัดการกับการทำงานภายในให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยเครื่องมือใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมให้ระบบงานก้าวหน้ามากขึ้น
จิม เมอริท รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด หรือ เอชพี กล่าวว่า เอชพีจะเข้าถึงตลาดให้มากขึ้น ให้ความสำคัญกับความใกล้ชิดลูกค้า และจัดการผลประโยชน์กับพาร์ทเนอร์ให้มากขึ้นด้วย ซึ่งทั้งหมดจะทำให้เอชพีสามารถลดหนี้สินลงได้มาก และมีเงินสดหมุนเวียนได้ดีขึ้น รวมไปถึงยังทำให้การตอบรับจากตลาดและพาร์ทเนอร์ได้มากขึ้น
สำหรับทิศทางการรุกตลาดในเอเชียนั้น เอชพีมองว่ายังเป็นตลาดที่ใหญ่และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ซึ่งในตลาดกลุ่มนี้เอชพีจะมุ่งเจาะตลาดองค์กร ในส่วนประเทศไทยเอชพีจะยังดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แม้การลงทุนอาจยังชะลอไปบ้างเนื่องจากปัญหาภายในบางอย่าง แต่ในกลุ่มธุรกิจเน็ตเวิร์กกิงยังคงเติบโตได้ด้วยดีเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งประมาณ 30%
“หากทุกอย่างเป็นปกติแผนการลงทุนทุกอย่างก็จะกลับมาเหมือนเดิม แต่ปัจจุบันยังบอกไม่ได้ว่าจะรุกธุรกิจคอนซูเมอร์ในรูปแบบใด”
เอชพียังมองเห็นถึงความต้องการที่หลากหลายในกลุ่มผู้บริโภคและเอ็นเตอร์ไพรซ์ในประเทศไทย โดยเอชพีมีพอร์ทฟอลิโอที่หลากหลายและครอบคลุมพร้อมที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า รวมถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปด้วย โดยเมื่อไม่นานมานี้ เอชพียังได้เปิดตัว HP Slate 6 VoiceTab แท็บเล็ต เจเนอเรชันใหม่ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่ เน้นการทำงานที่หลากหลายในคราวเดียว พร้อมเปิดตัวครั้งแรกกับ เอชพี สมาร์ทเฟรนด์ พริวิลเลจ เซอร์วิส (HP SmartFriend Privilege Service) บริการหลังการขายที่สมบูรณ์แบบที่สุด เอกสิทธิ์พิเศษสำหรับลูกค้าเอชพีในประเทศไทยโดยเฉพาะ
*** New Style of IT แนวทางใหม่รุกตลาด
ไอดีซี คาดว่าในปี 2563 จะมีการใช้จ่ายในอุตสาหกรรมไอซีทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมญี่ปุ่น) จะสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดย 55% ของการลงทุนนี้จะมาจากการใช้จ่ายไปกับ 4 เทคโนโลยีหลักที่ประกอบไปด้วย คลาวด์ โซเชียล โมบาย และบิ๊กดาต้า ซึ่งกำลังจะกลายเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรธุรกิจต่างๆ เข้าสู่โลกของไอทียุคใหม่หรือ New Style of IT
เทรนด์ดังกล่าวนี้ได้เริ่มส่งผลแล้วในการทำธุรกิจในปัจจุบัน และจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนอาจทำให้ธุรกิจต่างๆ ที่ไม่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนมากขึ้นได้ อาจต้องสูญเสียความสามารถทางการแข่งขัน ดังนั้นเอชพีจึงพร้อมที่จะนำเสนอ เอชพี แอดไวซ์ซอรี่ เซอร์วิส ที่จะช่วยให้ธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นสามารถปรับตัวให้เข้ากับระบบไอทีที่เปลี่ยนแปลงไปได้เป็นอย่างดี
ด้วยบริการที่ประกอบไปด้วย การให้คำปรึกษาแบบครบวงจร การประเมินผล การจัดเวิร์กชอปแบบอินเทอร์แอคทีฟสำหรับการวางกลยุทธ์ด้านไอที โครงสร้างบริษัท การควบคุมการจัดการด้านไอที การจัดการการเปลี่ยนแปลงขององค์กร การปรับแอปพลิเคชันให้ทันสมัย และแผนปฏิบัติการ
นอกจากนี้เอชพียังได้นำเสนอโซลูชันอินฟราสตรักเจอร์ยุคใหม่ ที่จะสร้างความคล่องตัวให้กับดาต้าเซ็นเตอร์ ด้วยโซลูชัน เน็ตเวิร์ก เวอร์ชวลไลเซชัน ที่สามารถลดค่าใช้จ่ายขององค์กรโดยรวมและใช้งานแอปพลิเคชันได้ตามที่ต้องการ ลดความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพในการดำเนินการดีกว่าระบบอื่นๆ รวมทั้งยังสามารถสร้างการจัดการสภาพแวดล้องไอทีแบบไฮบริดได้อย่างง่ายดาย ผ่านเทคโนโลยีอย่าง เอชพี เวอร์ชวล คลาวด์ เน็ตเวิรก์กิง เอสดีเอ็น แอปพลิเคชัน, เอชพี วันวิว และ เอชพีคอนเวิร์จซิสเต็มแพลตฟอร์ม
จิม กล่าวว่า ความซับซ้อนทางด้านเน็ตเวิร์กเป็นปัญหาที่สำคัญที่องค์กรส่วนใหญ่จะต้องพบเจอ และทำให้ไม่สามารถใช้งานระบบคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการหันมาใช้ซอฟต์แวร์ในการจัดการเครือข่าย Software-Defined Networking หรือ SDN จะช่วยแก้ปัญหาที่พบได้เป็นอย่างดี และสามารถใช้งานคลาวด์ได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้การใช้งานดาต้าเซ็นเตอร์คล่องตัวตามไปด้วย ลดระยะเวลาการใช้เครือข่ายคลาวด์ที่ปลอดภัยได้ภายในเวลาไม่กี่นาที จากเดิมที่ต้องใช้เวลาเกือบ 1 เดือน
นอกจากนี้ในส่วนของเอชพี วันวิว (HP One view) จะเป็นส่วนช่วยให้การบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นเสมือนศูนย์กลางด้านออโตเมชัน ที่นอกจากจะสามารถใช้งานได้ร่วมกับเครื่องมือของแบรนด์อื่นๆ แล้ว ยังทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการโครงสร้างต่างๆ ที่รวมไปถึงการควบคุมระบบคอมพิวเตอร์ สตอเรจ ได้อย่างอัตโนมัติ ซึ่งเมื่อรวมกับการพัฒนาใหม่ของ HP Converged System Platform ที่พัฒนาขึ้นใหม่แล้ว ลูกค้าของเอชพี จะสามารถทำงานประจำได้โดยอัตโนมัติและไม่ซับซ้อนอีกด้วย
***เดินหน้าใส่เทคโนโลยีใหม่ในทุกผลิตภัณฑ์
ในช่วงที่เอชพีกำลังอยู่ในสภาวะการขาดทุน ยอดขายพีซีทรุดลงถึง 10% แต่ล่าสุดข้อมูลจาก IDC Asia/Pacific Quarterly PC Tracker, Q1 2014 ระบุว่า ภาพรวมส่วนแบ่งตลาดพีซีของเอชพีเพิ่มขึ้นจาก 11% ในปี 2555 เป็น 15% ในไตรมาสแรกปี 2557 ทำให้เอชพีครองอันดับสองในส่วนแบ่งตลาดพีซี ทำให้นับจากนี้เอชพีคงต้องดำเนินกลยุทธ์การทำตลาดในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และแน่นอนว่าต้องตอบสนองโจทย์ใหม่ๆ ให้ได้ด้วย เพราะถือว่าการปรับตัวที่ผ่านมาเริ่มเดินมาถูกทางแล้ว
จิม กล่าวว่า เพื่อให้เป็นการตอบสนองต่อการทำงานที่รองรับไอทียุคใหม่ เอชพีได้เตรียมเทคโนโลยีใหม่เพื่อรองรับกับการใช้งาน และการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มจากเทคโนโลยี HP Data Pass ที่จะทำการติดตั้งบรอดแบนด์ไร้สายบนคอมพิวเตอร์และแท็บเล็ต และเพิ่มบริการรับสัญญาณโทรศัพท์มือถือในราคาท้องถิ่น เพื่อเชื่อมต่อได้ทุกที่ที่ต้องการโดยไม่มีอุปสรรค โดยจะครอบคลุม 13 ตลาดทั่วโลก ซึ่งจะเริ่มที่ฮ่องกงและสิงคโปร์ก่อนในสิ้นปีนี้ ก่อนที่จะขยายไปยังตลาดอื่นๆ ในปี 2558
HP Data Pass จะพร้อมใช้ทันทีที่ลงทะเบียน และเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วยบริการบรอดแบนด์ไร้สายแบบ 3G หรือ 4G LTE จาก Fogg Mobile ซึ่งลูกค้าจะได้รับ 250 MB ต่อเดือนเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมและไม่ต้องมีสัญญา เช่นเดียวกับทางด้านการพิมพ์ ซึ่งในปีที่ผ่านมาเอชพีได้นำเสนอเทคโนโลยี PageWide เข้ากับเดสก์ท็อปพรินเตอร์ เพื่อให้ได้เครื่องพิมพ์ตั้งโต๊ะที่เร็วและให้งานพิมพ์คุณภาพสูง แต่ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์อื่นๆ นอกจากนี้เอชพียังได้ขยายงานเทคโนโลยี PageWide ไปสู่เครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน การรองรับซอฟต์แวร์และโซลูชันเอ็นเตอร์ไพรซ์ รวมไปถึงการขยายไปสู่การพิมพ์ขนาดใหญ่ ที่จะช่วยให้ตลาดการพิมพ์สามารถพิมพ์จำนวนมาก คุณภาพสูง ในความเร็วที่เท่าๆ กัน แต่มีราคาที่ถูกกว่า
ในส่วนของเซิร์ฟเวอร์และเวิร์กสเตชัน เอชพีได้พัฒนาโซเชียลเวิร์กสเตชันโซลูชันที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันต่างๆ สำหรับเวิร์กสเตชันทางไกล จากดีไวซ์หลายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ธิน ไคลแอนด์ โน้ตบุ๊ก และแท็บเล็ต และล่าสุดได้พัฒนาเวอร์ชวล เวิร์กสเตชันรุ่นใหม่ให้เข้ากับเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันของ NVIDIA และเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชันของ Citrix เข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ชื่อเวิร์กสเตชัน อีโคซิสเต็มส์
การปรับปรุงองค์กรของเอชพีตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แม้จะต้องประสบกับการขาดทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล แต่ก็ไม่ได้ทำให้ยักษ์ใหญ่ถึงกับล้มหายตายจากไปเลย ในทางกลับกันด้วยความผิดพลาดต่างๆ ที่ผ่านมากลับทำให้วันนี้เอชพีพร้อมแล้วที่จะบุกตลาดอย่างมั่นใจ ด้วยเทคโนโลยีพร้อมใช้และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เตรียมมาอย่างเต็มที่ เพียงแต่ในระยะแรกเปลี่ยนแนวทางเจาะตลาดองค์กรมากขึ้น ส่วนตลาดลูกค้าทั่วไปคงต้องรออีกสักระยะ
Company Related Link :
HP
CyberBiz Social