ผบ.ตร. แจงปมเด้ง ผบก.นครศรีฯ เข้าศปก.ตร. สั่งจตช.สอบปมคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์ รับฟังคลิปแล้วเชื่อเป็นเจ้าตัว ยืนยันตรวจสอบตรงไปตรงมา ให้ขยายผลถึง รอง ผบก.- ผบช.ขออย่าเหมารวมทั้งองค์กร หากผิดจริงเอาผิดวินัย–อาญาไม่ละเว้น
วันนี้ (22 ธ.ค.) ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เปิดเผยกรณีโซเชียลฯ แชร์คลิปเสียงสนทนาเรียกระดับผลประโยชน์ระหว่างนายตำรวจกับตำรวจในสังกัด ว่า ขณะนี้ได้มีคำสั่งให้พล.ต.ต.เกรียงศักดิ์ นุ่นเกลี้ยง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช เข้ามาช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ศปก.ตร.แล้ว พร้อมมอบหมายให้พล.ต.อ.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมทั้งให้กองวินัยดำเนินการเรื่องระเบียบ
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ จากที่ได้ฟังคลิปเสียงทั้งหมดก็เชื่อได้ว่าเป็นผู้บังคับการจริง แต่จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ โดยกองพิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ.รวมทั้งตรวจสอบเรื่องของบุคคลที่อยู่ในเสียงสนทนาทั้งหมด เบื้องต้นพบว่ามีตำรวจ 3 นาย ส่วนจะมีบุคคลอื่นเกี่ยวข้องหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่ที่พยานหลักฐาน
โดยขณะนี้ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ตรวจสอบควบคู่กันไปด้วยว่ามีนายตำรวจที่มีชั้นยศต่ำกว่าผู้บังคับการจังหวัดลงมาเกี่ยวข้องหรือไม่ หากพบสามารถดำเนินการทางวินัยได้ทันที และหากพบว่าผลตรวจสอบมีความผิดทั้งระดับท้องที่และส่วนกลางที่จเรตำรวจก็จะพิจารณาตั้งแต่ระดับ รองผบก.-ผบช.เรื่องนี้ด้วย เพราะตนเองได้เน้นย้ำมาโดยตลอดและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
"เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคล เพราะในหนึ่งองค์กรก็ย่อมมีคนที่ประพฤติไม่ดี จึงอยากให้มองเป็นตัวบุคคลอย่าเหมารวมตำรวจทั้งหมด"ผบ.ตร.กล่าวและว่า การตรวจสอบคลิปเสียงที่ ผกก.สภ.ฉวาง อ้างว่าเป็นเสียง AI นั้น เรื่องดังกล่าวไม่ยากที่จะตรวจสอบ เพราะแม้เป็นคนร้ายที่ยิงกันตำรวจยังพิสูจน์และจับกุมตัวได้ ยืนยันทำอย่างตรงไปตรงมาไม่ต้องเป็นห่วง
ส่วนกรณีที่มีหลายฝ่ายมองว่าชุดเฉพาะกิจของพื้นที่เป็นคนของผู้บังคับการจังหวัดแล้วมีอำนาจเต็มในการเรียกรับผลประโยชน์นั้น ผบ.ตร. กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวจะต้องไปตรวจสอบเพราะชุดเฉพาะกิจเป็นตำรวจที่ได้รับมอบหมายและทำงานตามนโยบาย แต่ในส่วนที่เป็นชุดเฉพาะกิจนอกแถวจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นทางอาญาหรือวินัยหากมีหลักฐานว่ามีการกระทำความผิดจริง ส่วนจะมีการยกเลิกชุดเฉพาะกิจหรือไม่จะต้องมีการพิจารณาเพราะชุดเฉพาะกิจก็ยังมีประโยชน์มาก หากยกเลิกชุดเฉพาะกิจนั้นก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อหน้างานที่จำเป็นได้


