ตำรวจทางหลวงจับ 2กระบะตู้ทึบลักลอบขนมอเตอร์ไซค์โจรกรรม-หลอกดาวน์ 15 คัน เตรียมส่ง สปป.ลาว ผบก.ทล.สั่งเร่งถอกรากถอนโคนผู้ร่วมขบวนการให้สิ้นซาก
วันนี้ (15 ธ.ค.) พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พ.ต.อ.วิษณุ คำโนนม่วง ผกก.6 บก.ทล. พ.ต.ท.ณัติรุจน์ วัฒนะฉัตรรัตน์ สวญ.ส.ทล.4 กก.6 บก.ทล. พ.ต.ท.กีรติ เหิมศรีชาติ สว.ทล.5 กก.6 บก.ทล.นำกำลังตรวจยึดรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา จำนวน 1 คันโดยมี นายพัฒนพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปีเป็นผู้ขับขี่ ตรวจสอบภายในบรรทุกรถจักรยานยนต์ จำนวน 9 คัน และ ตรวจยึดรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว จำนวน 1 คันมี นายณัฐพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เป็นผู้ขับขี่ และ นายก้องมณี (Mr.Kongmany) สัญชาติลาว อายุ 19 ปี เป็นผู้โดยสาร ภายในบรรทุกรถจักรยานยนต์ จำนวน 6 คัน ได้บริเวณ ทล.292 กม.0 ต.สำราญ อ.เมืองจ.ยโสธร และ ทล.12 กม.724 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้ง ว่าจะมีขบวนการลักลอบขนรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมและที่ถูกหลอกดาวน์ เพื่อลักลอบส่งออกไปขายยังประเทศสปป.ลาว ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ โดยใช้รถยนต์กระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ อีซูซุ สีเทา ผ่านมาเส้นทาง ทล.12 ต.หนองสูงเหนือ อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ รถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อ โตโยต้า สีขาว ผ่านมาเส้นทาง ทล.292 ต.สำราญ อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธร จึงวางแผนสกัดจับ ไว้ได้ ดังกล่าว
จากการสอบสวร นายณัฐพงษ์ รับสารภาพว่า ได้มีคนว่าจ้างผ่านทางแอปพลิเคชั่นไลน์ให้ไปรับรถ จยย. มาจาก กทม. ,สระบุรี และนครราชสีมา เพื่อไปส่งที่ จ.ยโสธร และ จ.มุกดาหารโดยได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท ทำมาแล้วจำนวน 5 ครั้ง
ส่วน นายพัฒนพงษ์ รับสารภาพว่า มีคนจ้างให้ไปรับรถ จยย.จากบริเวณชุมชนในเขตประชาอุทิศ กรุงเทพฯ ให้นำไปส่งที่ จ.มุกดาหาร ติดชายแดน สปป.ลาว เมื่อไปถึงสถานที่นัดหมายแล้วจะมีคนมารับต่อ ได้รับค่าจ้างขนส่งคันละ 1,500 บาท ซึ่งได้ทำลักษณะนี้หลายครั้ง จึงได้นำรถที่ถูกตรวจยึดได้ทั้งหมดส่ง สภ.คำชะอี จ.มุกดาหาร และ สภ.เมืองยโสธร ตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.พรศักดิ์ กล่าวว่าจากการสืบสวนขยายผลพบว่า รถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ส่วนใหญ่เป็นรถที่โจรกรรมและยังอยู่ระหว่างการเช่าซื้อ โดยบางคันเพิ่งเช่าซื้อมาได้เพียง 2 วัน ก็ถูกนำไปขายต่อให้กับขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติดังกล่าว ซึ่งขบวนการนี้มีแหล่งรับรถจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ภาคกลาง และภาคตะวันออก ก่อนลำเลียงออกนอกประเทศทางฝั่ง สปป.ลาว โดยจะเลือกใช้ช่วงเวลากลางดึกในการขนส่ง ผู้ขับขี่รถที่ใช้ลำเลียงจะได้รับค่าจ้าง คันละประมาณ 1,500 – 2,500 บาทต่อคัน
พล.ต.ต.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขบวนการดังกล่าวมีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจนออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้จัดหารถจักยานยนต์หรือหาบุคคลมาเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ รวมถึงการจัดหารถจักรยานยนต์ผิดกฎหมายจากแหล่งต่าง ๆ อาทิ รถหลุดจำนำ หรือรถที่ถูกโจรกรรม, กลุ่มนักบิน หรือกลุ่มผู้รับหน้าที่ขนส่งและนำทาง และ กลุ่มนายทุนและผู้ประสานงาน ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการ
ผบก.ทล. กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มผู้กระทำความผิดมีการติดต่อสื่อสารและสั่งงานผ่านแอปพลิเคชันไลน์ และ Telegram หลายกลุ่ม ภายในกลุ่มพบว่ามีสมาชิกเป็นผู้ขับขี่รถรับจ้างเป็นจำนวนมาก และมีแอดมินทำหน้าที่คอยส่งงาน แจ้งพิกัด กำหนดเส้นทาง และช่วงเวลาในการเดินรถอย่างเป็นระบบ สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะของ ขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติที่มีการจัดการและวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน ซึ่ง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สืบสวนขยายผลไปยังกลุ่มนายทุน ผู้ว่าจ้าง และเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป


