xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ทางหลวงทลายแก๊งลักรถส่งขายแก๊งสแกมเมอร์ฝั่งพม่า รวบสมาชิก 13 ราย ยึดรถ 2 คัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ตำรวจทางหลวงทลายขบวนการโจรกรรมรถส่งขายแก๊งสแกมเมอร์ฝั่งเมียนมา รวบสมาชิกได้ 13 ราย ยึดรถได้ 2 คัน เร่งขยายผลจับกุมนายทุนอยู่เบื้องหลัง


วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ กองปราบปราม พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย ผบก.ทล. พ.ต.อ.ธัช โพธิ์สุวรรณ ผกก.1 บก.ทล. พ.ต.อ.อภิชาติ เรนชนะ ผกก.3 บก.ทล. พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ ค้ำคูณ สวญ.ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. พ.ต.ต.วิศวนนท์ ศรีงาม สว.ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมแก๊งโจรกรรมรถส่งขายประเทศเพื่อนบ้าน 2 เครือข่าย หลังสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดรวม 13 ราย พร้อมตรวจยึดรถยนต์ที่ถูกโจรกรรม ได้จำนวน 2 คัน

พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเครือข่ายแรก ตำรวจ กก.3 บก.ทล. เปิดยุทธการพิฆาตเครือข่ายหลอกลวงออนไลน์สวมป้ายรถเถื่อน ส่งขายข้ามแดน สามารถจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายดังกล่าวได้ 11 ราย พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน โดยจุดเริ่มต้นของการจับกุม เนื่องจากมีผู้เสียหาย ติดต่อขอความช่วยเหลือตำรวจทางหลวงชลบุรี หลังนำรถยนต์ยี่ห้อ FORD รุ่น RANGER ไปจำนำผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อ “ลักกี้ ออโต้คาร์ จำนำฝากจอดรถ” เมื่อช่วงปลายเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยส่งมอบรถบริเวณลานจอดร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แต่เมื่อผู้เสียหายส่งมอบรถไปแล้วนั้น กลับพบว่ารถของตนเองได้ถูกส่งไปขายยังประเทศเมียนมา ผ่านชายแดนจังหวัดกาญจนบุรี จึงพยายามติดต่อเพจดังกล่าวเพื่อขอไถ่รถคืน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจนำเรื่องเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจทางหลวงดังกล่าว

พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ กล่าวต่อว่า จากการสืบสวนทราบว่า มีการทำกันเป็นขบวนการโดยมิจฉาชีพกลุ่มนี้ใช้สื่อออนไลน์ในการหารถยี่ห้อและรุ่นตามความต้องการของนายทุนประเทศเมียนมา โดยจะนำมาดัดแปลงและส่งขายข้ามพรมแดนต่อไป ซึ่งพบว่าสเปคความต้องการรถยนต์ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะและรถยนต์ suv เนื่องจากนำไปใช้ในเครือข่ายสแกมเมอร์ที่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารและเหมาะกับการใช้รถเหล่านี้

พ.ต.ท.อิทธิศักดิ์ กล่าวอีกว่า โดยกลุ่มคนร้ายมีการทำงานในลักษณะเครือข่ายใหญ่ มีการแบ่งหน้าที่ออกเป็นหลายหน้าที่ด้วยกัน ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่มเปิดเพจหรือนายทุน 2.กลุ่มรับจ้างหารถหรือรับรถตามจุดต่างๆ 3.กลุ่มรับจ้างขับรถ 4.กลุ่มนายทุนที่รับรถมาส่งยังชายแดน หลังปรากฎหลักฐานการกระทำผิดแน่ชัดเจ้าหน้าที่จึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้ 12 ราย ก่อนสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับได้ 11 ราย ดังกล่าว

พ.ต.ต.วิศวนนท์ กล่าวว่า ส่วนคดีที่สอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ทล. จับกุมแก๊งตระเวนเช่ารถแล้วเชิด ส่งขายรถต่างประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 ราย พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน สำหรับพฤติการณ์ของเครือข่ายนี้ จะเริ่มจากส่งคนไปตระเวนเช่ารถตามเต๊นท์รถเช่าต่าง ๆ ในพื้นที่ภาคอีสาน แต่เมื่อได้รถแล้วจะรีบขับออกจากพื้นที่มุ่งตรงไปยัง จ.กาญจนบุรี เพื่อเตรียมส่งมอบให้กับนายทุนนำไปขายต่อยังประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำกำลังดักสกัดจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมรถของกลางได้ดังกล่าว

จากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพว่า รับงานมาจากนายทุนคนไทยให้บินมาที่จังหวัดเลยและไปเช่ารถต่อและขับไปยังจังหวัดกาญจนบุรี แต่เมื่อถามต่อว่านำไปให้ใครที่ไหน ผู้ต้องหาบอกว่า ทราบมาแต่ว่าให้นำรถไปยังจุดนัดหมาย และจะมีคนโทรศัพท์มาบอกว่าต้องไปไหนหรือทำยังไงต่อ ก่อนจะนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ฝั่งอำเภอสังขละบุรี ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดนายทุนเป็นคนออกให้ และยังบอกอีกว่า ทำให้นายทุนคนนี้มาประมาณ 1 ปี ก่อเหตุมาแล้ว 50 คัน จากการขยายผลทราบว่า ยังมีพ่อค้าคนกลาง 2 คน ที่จะคอยหารถในตลาดมืด หรือ รถตามเต้นท์เช่ารถ ว่าตรงตามออเดอร์ที่นายทุนต่างชาติต้องการ เบื้องต้นตำรวจได้ออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 5 หมาย จับได้แล้วคือ 2 ราย และยังติดตามตัวอีก 3 ราย คือพ่อค้าคนกลาง และนายทุนต่างชาติ ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปหรือรับของโจร

พล.ต.ต.พรศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับทั้ง 2 เครือข่าย จากแนวทางสืบสวน ทราบว่ามีความเชื่อมโยงถึงกัน แม้ว่าพื้นที่ก่อเหตุจะอยู่ต่างพื้นที่ และ พฤติกรรมการก่อเหตุจะเป็นคนละรูปแบบ แต่ทั้ง 2 เครือข่ายนั้นมีกลุ่มนายทุนเดียวกัน และ มีเป้าหมายคือนำรถส่งให้กับลูกค้าฝั่งพม่าเช่นเดียวกัน ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งดำเนินสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้อยู่เบื้องหลังของทั้ง 2 เครือข่ายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
















กำลังโหลดความคิดเห็น