ผกก.สน.คันนายาวเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุสิงโตรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ชื่อดังใน กทม.เสียชีวิต ส่วนสาเหตุทราบว่า ผู้ตายลงมาจากรถ เพื้อเก็บของที่ทำหล่น
วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อจ่าวรายงานว่า พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุสิงโตรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ให้อาหารสัตว์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดในพื้นที่สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา
โดย พ.ต.อ.นิรุชพล เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ภายในสวนสัตว์ดังกล่าว โดยพบว่า เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎบริษัท ทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย
เจ้าหน้าที่ ยังสอบปากคำเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์ทราบว่า สาเหตุที่เจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์รายดังกล่าวลงจากรถยนต์ เนื่องจากได้ทำของตกนอกตัวรถ ทำให้เจ้าหน้าที่รายนั้นได้เปิดประตูและลงจากรถ เพื่อลงมาเก็บของ จังหวะที่กำลังก้มเก็บของ ซึ่งหันหลังให้กับสิงโต จู่ๆ มีสิงโตตัวหนึ่งได้เข้ามาตะครุบเจ้าหน้าที่จากทางด้านหลัง ก่อนจะลากลงไปกับพื้น แล้วกัดร่างของเจ้าหน้าที่รายนั้น
ด้าน นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีสิงโตในซาฟารีเวิลด์ทำร้ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า และสำนักไซเตสเข้าตรวจสอบพื้นที่ทันที พร้อมขอความร่วมมือควบคุมพื้นที่ส่วนจัดแสดงสัตว์ซาฟารีแล้ว ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ในบริเวณโซนเปิดท่องเที่ยวไดรฟ์ทรู โดยซาฟารีมีการขออนุญาตเปิดกิจกรรมสวนสัตว์ถูกกฎหมาย และครอบครองสิงโตหลายตัว
เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่า ทำไมสิงโตถึงรุมทำร้ายคนเลี้ยงจนเสียชีวิต โดยต้องเช็กประวัติการเลี้ยงว่า มีการต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ ต้องไม่รุนแรงกับสัตว์ หรือมีจุดอ่อนจนสิงโตทำร้ายคนเลี้ยงได้ และคงไม่ใช่แค่สิงโต แต่ยังมีสัตว์ในสวนสัตว์ โดยเฉพาะสวนเสือ ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับคนเลี้ยงหรือนักท่องเที่ยวได้
นายอรรถพล กล่าวอีกว่า ขณะนี้สิงโต เป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก หมายถึงสัตว์สายพันธุ์ที่มีลักษณะนิสัยดุร้าย มีพฤติกรรมที่อาจสร้างความหวาดกลัว หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของมนุษย์ โดยกรมอุทยานฯสั่งให้คนเลี้ยงสิงโตในไทย สวนสัตว์รัฐ และเอกชนมาขึ้นทะเบียนครอบครองไว้เมื่อปี 2567 รวม 37 ราย จำนวน 223 ตัว ในส่วนกลางในพื้นที่กทม.แจ้งครอบครอง 4 ราย จำนวน 39 ตัว