xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “แม้ว” ไม่ปล่อยเก้าอี้นายกฯ “ค่ายน้ำเงิน” รู้ยังไม่ถึงเวลา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APPสถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูปNEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจNEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันพุธที่ 14 สิงหาคม 2567 ตอน “แม้ว” ไม่ปล่อยเก้าอี้นายกฯ “ค่ายน้ำเงิน” รู้ยังไม่ถึงเวลา



เก้าอี้ผู้นำไม่ใช่ของที่แบ่งกันใช้ได้! แม้จะมีข่าวคราวเรื่องนายกฯสำรองออกมาตลอด ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 14 สิงหาคม

โดยมีทั้งชื่อของ เสี่ยหนู อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มีทั้งชื่อของ ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

โดยเฉพาะในราย เสี่ยหนู ที่มีแต่คนทักจะได้เป็นใหญ่เป็นโตในเร็ว ๆ นี้ โดยเฉพาะพลังอำนาจต่อรองของค่ายภูมิใจไทยในทางการเมืองยามนี้ที่ล้นหลาม ถือเสียงทั้งสภาล่าง สภาสูง

แถมยังมีภาพ เสี่ยหนู ไปออกรอบกับ นายใหญ่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณเพื่อไทย ที่เขาใหญ่ สัปดาห์ก่อน

ใครเห็นใครก็ทัก ถ้า เศรษฐา ปิ๋ว แล้ว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยยังไม่ขึ้นเอง น่าจะมาถึงคิว หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ นายใหญ่ ไว้ใจมากกว่าคนในป่ารอยต่อฯ

ในทางทฤษฎีน่าใช่ แต่ในทางปฏิบัติมันยาก เรื่องอะไรนายใหญ่จะต้องคายอำนาจไปให้คนอื่น ที่ไม่รู้ว่า จะรับประกันความปลอดภัยให้กับตัวเองได้แค่ไหน

ยิ่งโดยเฉพาะกับพรรคภูมิใจไทย เป็นที่ทราบกัน เจ้าของพรรคตัวจริงเป็นอดีตข้าเก่าเต่าเลี้ยงที่เคยสร้างบาดแผลให้กับนายใหญ่ จนเจ็บช้ำมาทุกวันนี้ ไม่น่าจะยอมไว้ใจ เดินเกมผิดซ้ำสอง

อีกทั้งคดี ม.112 ของนายใหญ่ ยังเหลือหนทางอีกไกล จำเป็นต้องประคองอำนาจเอาไว้ในมือ เพื่อการต่อรอง หรือทำตัวให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้ถูกใช้งานต่อ

ไม่ได้กลับประเทศแล้ว และจบแล้วจบเลยเสียเมื่อไหร่ แต่ชนักปักหลังยังอยู่ ไหนจะน้องสาวในไส้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหญิง ที่ยังรอคอยการกลับแผ่นดินแม่อยู่

ปล่อยให้คนจากพรรคอื่นถืออำนาจ มั่นใจได้อย่างไรว่าจะช่วยเต็มแรงเหมือนคนกันเอง

บทเรียนของ นายใหญ่ มีแล้ว สมัยให้คนนอกตระกูลเป็นนายกรัฐมนตรี สุดท้ายควบคุมคอนโทรลไม่ได้ กลายเป็นเละไปหมด ฉะนั้น เลือดต้องดีกว่าน้ำ

ต่อให้ เศรษฐา หลุด ก็ต้องมีวิถีทางอื่นก่อน จะปล่อยมือไปถึงพรรคร่วมรัฐบาลได้ มันต้องถึงขั้นตันสุด ๆ แล้ว

ขณะที่พรรคภูมิใจไทย แม้วันนี้ เสี่ยหนู ท้อปฟอร์มแบบเจิดจ้า แต่อย่างที่ทราบกันว่า คนตัดสินใจในค่ายสีน้ำเงินตัวจริงคือ ใคร

ต่อให้ เสี่ยหนู จะอยากเป็นสักครั้งในชีวิต หรือโอกาสนี้มันใกล้เคียงสุด ๆ แต่ถ้าครูใหญ่บุรีรัมย์ดีดลูกคิดแล้วไม่คุ้ม ก็ต้องอดทนอดกลั้นความอยากนั้นเอาไว้ก่อน

มันไม่ใช่ครั้งแรกที่ เสี่ยหนู ใกล้เคียงกับความฝัน เพราะหลังเลือกตั้งปี 2562 พรรคเพื่อไทยก็เคยหยิบยื่นเก้าอี้นายกรัฐมนตรีให้มาแล้ว เพื่อไม่ให้ไปร่วมกับพรรคลุง

แต่สุดท้ายครูใหญ่บุรีรัมย์มองสถานการณ์การเมืองตามความเป็นจริง ปฏิเสธไม่รับไมตรี แล้วยอมมาเป็นหางราชสีห์ในรัฐบาลชุดก่อนแทน

ได้ความปลอดภัย ได้ความสบายใจ แถมได้เก้าอี้กระทรวงเกรดเอ
อยู่ได้แบบนาน ๆ ในวงจรอำนาจจนครบเทอม

โฟกัสของค่ายสีน้ำเงิน คือ การเป็นรัฐบาลทุกครั้ง มีอำนาจต่อรองในรัฐบาลมหาศาล เพื่อทำภารกิจที่ตัวเองตั้งใจ ถ้าจะได้เป็นนายกฯ ต้องมาจากการเป็นพรรคอันดับหนึ่งเท่านั้น

ขณะที่การเดินเกมกินรวบสภาสูง เกือบ 200 คน ก็ไม่ได้เอามาเพื่อจะมาต่อบันไดให้ อนุทิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ใช้เพื่อปกป้องตัวเองไม่ให้ถูกเขี่ยพ้นรัฐบาล หรือถูกรุกไล่จากพรรคเพื่อไทยอย่างเดียว ตลอดจนรักษาอำนาจต่อรองตัวเองในเรื่องต่าง ๆ

ครูใหญ่บุรีรัมย์ ต้องการยังมีประโยชน์ทางการเมือง เพราะรู้ว่าพรรคเพื่อไทยต้องการจำกัดทิ้งในสนามเลือกตั้งคราวหน้า เพื่อขจัดตัวหารคะแนนในอีสาน

ในขณะเดียวกัน ก็รักษาความปลอดภัยเรื่องคดีความจากกลไกตามรัฐธรรมนูญ โดยการคุมสภาสูง เพื่อดูเรื่องการแต่งตั้งบุคคลไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และผลักดันกฎหมายของตัวเองให้ลุล่วง
อีกทั้งวันนี้ ต่อให้พรรคเพื่อไทยยอมยกเก้าอี้ผู้นำให้ แม้ อนุทิน จะได้ทำตามความฝันตัวเอง ขึ้นสู่จุดสูงสุด แต่ก็ได้เพียงเท่านั้น ในเมื่อคนยอม คนตั้ง คือ พรรคเพื่อไทย และนายใหญ่

พรรคภูมิใจไทยมีแค่ 70 เสียง ในสภาล่าง ในขณะที่พรรคเพื่อไทยมีร่วม 150 เสียง ไหนจะพรรคร่วมที่เป็นพรรคสาขาของค่ายสีแดงอีก ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาชาติ และกลุ่มก๊วนการเมืองที่สนิทสนมกัน

อนุทิน ได้เป็นนายกฯ แต่จะไม่มีอำนาจอะไร เพราะถูกกดทับโดยพรรคเพื่อไทยอยู่ดี

แล้ววันดีคืนดี ไม่รู้นายใหญ่ และพรรคเพื่อไทย จะเล่นอะไรพิเรนทร์ใส่หรือไม่ เพราะอย่างไรเสียก็ย่อมไม่พอใจในสถานะผู้ตาม

ครู่ใหญ่บุรีรัมย์ไม่ได้ต้องการสถานะทางการเมืองแบบนี้ และการดัน อนุทิน เป็นนายกฯ ก็ไม่ใช่จุดมุ่งหมายแรกในการทำพรรคการเมืองของค่ายสีน้ำเงิน

เจ้าของค่ายสีน้ำเงิน อ่านการเมืองขาด รู้หลบ รู้หลีก รู้จังหวะว่า เวลาไหนเป็นของตัวเอง เวลาไหนไม่ใช่เวลาของตัวเอง

ค่ายสีน้ำเงินวันนี้ต้องการแค่อำนาจต่อรองที่สูง รักษาเก้าอี้กระทรวงเกรดเอไว้ให้แน่น โดยที่พรรคเพื่อไทยไม่กล้าเข้ามาข้องแวะ หรือมีความคิดจะทวงคืนกลับไป

ในขณะเดียวกัน ก็ป้องกันไม่ให้พรรคเพื่อไทยเดินเกมแรง ที่จะกำจัดตัวเองในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า

------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore :https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play :https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android


กำลังโหลดความคิดเห็น