xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : “เศรษฐา” ตั๋วเที่ยวเดียว อ้อนไม่เป็น ไม่เอาใจ ส.ส. เป้าชัดส่งไม้ต่ออุ๊งอิ๊ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 12 ธันวาคม 2566 ตอน “เศรษฐา” ตั๋วเที่ยวเดียว อ้อนไม่เป็น ไม่เอาใจ ส.ส. เป้าชัดส่งไม้ต่ออุ๊งอิ๊ง



ไม่ได้เป็นประเด็นใหญ่ แต่สามารถอธิบายอะไรในพรรคเพื่อไทยได้เหมือนกัน กับการเก็บตกงานกระชับสัมพันธ์พรรคเพื่อไทยที่ จ.นครราชสีมาเมื่อต้นสัปดาห์

กับความในใจ สส.ที่เอาแปะ มีโน้ตหลายใบ ส่งสารไปถึง เสี่ยนิด เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง “อยากให้ นายกฯ รับสายโทรศัพท์ของ สส.เพื่อไทยที่โทร.ไปหานายกฯ ด้วย”

อาการเดียวกับสมัย บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี สมัยเป็นผู้นำประเทศ ที่เจอเกมเขย่าจากลูกพรรคพลังประชารัฐ เพราะไม่สามารถเข้าถึงตัวนายกฯได้

ปมห่างเหิน เป็นประเด็นใหญ่สำหรับผู้นำที่ไม่ได้เติบโตมาจากพรรคการเมือง แต่ถูกเลือกแบบท้อป ดาวน์มานั่งบนบัญชีแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี!

เรื่องราวคล้ายๆ กัน กว่าจะเข้าถึงตัวผู้นำได้ แสนยากลำบาก ต้องผ่านหลายชั้นหลายซ้อน จะขอความช่วยเหลืออะไรต้องผ่านคนกลางอีกที

เป็นปมที่นักเลือกตั้งรู้สึกเหมือนแค่ตัวเองเป็นแค่นั่งร้าน ตอนปลายรัฐบาลก่อน ผู้นำประเทศเลยต้องขยับเข้าใกล้ สส.และนักการเมืองมากขึ้น เพื่อลดแรงกระเพื่อมในพรรคตัวเอง

อภิปรายไม่ไว้วางใจที มีเสียวสันหลัง ไม่รู้ลูกพรรคมีใครจะเล่นพิเรนทร์หรือไม่ สุดท้ายต้องให้ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ไปช่วยเคลียร์ ช่วยคุย

ปัญหาแบบนี้ พรรคพลังประชารัฐเจอตลอดเทอมของรัฐบาล จนสุดท้ายอยู่ไม่ได้ต้องไปสร้างอาณาจักรใหม่ในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ

กรณีนายกเศรษฐา คงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะมีแบ็กดี ลูกพรรคเพื่อไทยไม่มีใครกล้าดี แหกคอก จะลองของกับผู้นำ เพราะอาจโดนเขกกระบาลจากผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคได้

ทำได้แค่ไปแหกปากเชียร์อีกคน เพื่อส่งสัญญาณให้รู้ว่า ลูกพรรคอยากจะให้ใครเป็นนายกรัฐมนตรี

จึงไม่แปลกที่เวลา อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปไหนมาไหน องคาพยพรอบๆ กาย เต็มไปด้วย สส.และนักการเมืองในพรรคคอยห้อมล้อม เยอะกว่า เศรษฐา เสียอีก

ออกแนวสมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่ขบวนของ ลุงป้อม มากกว่า ลุงตู่ จนกลายเป็นสงครามจิตวิทยา ให้ดูว่า ลูกพรรครักใครมากกว่ากัน โดยวัดจากปริมาณ สส.และนักการเมืองที่ติดสอยห้อยตามไปในพื้นที่

แต่กรณีของ อุ๊งอิ๊ง กับ เศรษฐา ไม่ใช่อย่างนั้นเสียทีเดียว เพราะสองผู้นำไม่ได้แย่งชิง ขบเหลี่ยมอะไรกัน เพียงแต่ว่า มันทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่า เหมือนประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 2 คน แล้วใครคือ ตัวจริง

ยิ่งหลังๆ มีการปล่อยสูตรคนละครึ่ง แบ่งกันเป็นนายกฯ ออกมาให้ชวนคิด ซึ่งถ้าดูจับปฏิกิริยาของ อุ๊งอิ๊ง วันนี้ ก็ต้องบอกได้ว่า พร้อมแล้ว แค่จะไม่เข้าไปแย่งเก้าอี้

ต้องเป็นการเปลี่ยนผ่านแบบนุ่มนวล ส่งไม้ต่อ ไม่ใช่ไปหักหลังอะไรกัน เพราะไม่ได้มีปัญหา

กลับมาที่ เศรษฐา กับระยะห่างที่มีกับลูกพรรคเพื่อไทย ช่องว่างนี้เกิดขึ้นเพราะเป็นนักธุรกิจที่ผู้มีอำนาจในพรรคเลือกมาเป็นผู้นำ ไม่ใช่ลูกพรรคเป็นคนเลือก

เศรษฐา เป็นซีอีโอมาก่อน สนใจการเมือง แต่ไม่ได้ทำพื้นที่ คลุกคลีอยู่กับชาวบ้าน ความสัมพันธ์กับนักการเมืองในพรรคไม่ได้มีมากนัก เพราะปกติสื่อสารกับผู้มีอำนาจตัวจริงเท่านั้น

ที่สำคัญเลยคือ เศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรีแบบตั๋วเที่ยวเดียว ไม่ได้คิดจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค หรือจะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกเทอม เพราะรู้ว่า ต้องส่งไม้ต่อให้ อุ๊งอิ๊ง นำเต็มตัวในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ฉะนั้น เวลาลงพื้นที่จึงแตกต่างจากนักการเมืองคนอื่นๆ ไม่ค่อยออดอ้อน หรือเอาใจอะไรจนหวานเลี่ยน เพื่อสร้างกระแสความนิยมอะไร

ครั้งหน้าไม่อยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องทำคะแนน หาแฟนคลับส่วนตัว แต่บริหารสไตล์ตัวเองที่เมื่อหมดภารกิจก็ปิดจ๊อบ เก็บกระเป๋ากลับไปทำธุรกิจของตัวเอง

เพราะเป้าหมายการเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ อยู่ในทำเนียบผู้นำของประเทศคนที่ 30 มันสำเร็จเรียบร้อยแล้ว มันจึงไม่ต้องเอาอกเอาใจ สส.และนักการเมืองอะไรมากมาย

แต่ในมุมของ สส. และนักเลือกตั้งไม่ได้มองอย่างนั้น คนพวกนี้ยังอยู่ในสนามเลือกตั้งต่อ ต้องการให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาล ทำพื้นที่ สร้างผลงาน เพื่อต่อยอดให้ตัวเองในครั้งต่อไป

นักเลือกตั้งย่อมอยากได้จากกระแสจากผู้นำและรัฐบาล เพื่อให้งานตัวเองในสนามเลือกตั้งครั้งหน้ามันง่ายขึ้น

ประกอบกับต้องการการซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ จากฝ่ายบริหาร เพื่อปั้นผลงานให้ตัวเองมีอะไรเอาไว้ขายกับชาวบ้านในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

แต่หากผู้นำเข้าถึงยาก ถูกกัน หรือเข้าไม่ถึงมันก็ลำบาก อาการเดียวกับที่ลูกพรรคพลังประชารัฐเคยตัดพ้อกับ ลุงตู่ สมัยเป็นนายกรัฐมนตรี ว่าถ้าไม่ใยดี สส.และพื้นที่เลย เลือกตั้งครั้งต่อไปจะเอาอะไรไปขายให้ชาวบ้าน จึงไม่แปลกที่ สส.จะมีการสะท้อนออกมาแบบนี้

แต่ถามว่า จะกล้ารวมตัวเกาะกลุ่มแบบที่ลูกพรรคพลังประชารัฐเคยทำเพื่อขย่มผู้นำตัวเองหรือไม่ คงไม่กล้าแน่ เต็มที่ก็ทำได้แค่เพียงส่งเสียงเชียร์ อุ๊งอิ๊ง ดังๆ เพื่อให้รู้ว่า ลูกพรรครักใครและอยากให้ใครเป็นผู้นำเท่านั้น

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น