xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกปมลับ : พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มอำนาจต่อรองพรรคร่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 13 พฤจิกายน 2566 ตอน พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านแจกดิจิทัลวอลเล็ต เพิ่มอำนาจต่อรองพรรคร่วม



ทีนี้รู้เลย วงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ที่มี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง รายล้อมด้วยแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ตั้งแต่ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ วราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตลอดจน 2 กุนซือใหญ่พรรคเพื่อไทย ทั้ง หมอมิ้ง นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์

นอกจากกระชับความสัมพันธ์กันในพรรคร่วมรัฐบาล แต่เรื่องสำคัญกว่า น่าจะขอแรงเรื่อง พ.ร.บ.กู้เงิน ที่จะนำมาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท!

พ.ร.บ.กู้เงินเป็นเรื่องที่ต้องขอแรงจากพรรคร่วมรัฐบาล ชนิดที่ว่าแตกแถวไม่ได้ เพราะกฎหมายตัวนี้ต้องผ่านที่ประชุมสภา ต้องผ่านทั้ง 3 วาระ โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทถึงจะเกิดได้

ซึ่งเรื่องนี้ หากจับอาการของพรรคร่วมรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคชาติไทยพัฒนา ตลอดจนพรรคประชาชาติ ต่างพยายามลอยตัวออกจากเผือกร้อนอย่างการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ในช่วงที่โดนแนวร่วมฝ่ายต้าน ออกโรงคัดค้านเต็มพิกัด

ช่วงนั้นมีแต่รัฐมนตรี และสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นที่พยายามออกมาชี้แจง ตอบโต้ และปกป้อง ในขณะที่พรรคร่วมรัฐบาลเงียบกริบ ไม่กระโดดร่วมวงด้วย

เนื่องจากโครงการนี้หากรัฐบาลทำได้ พรรคเพื่อไทยได้คะแนนเต็มไม้เต็มมือในสนามเลือกตั้ง แต่หากพังขึ้นมา ถูกดำเนินคดี พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลกระทบนี้ จึงไม่มีใครอยากแตะต้องกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท

แต่เมื่อรัฐบาลแก้เกมตามคำเตือนของนักวิชาการ นักกฎหมาย ที่ก่อนหน้านี้ ออกมาติงเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณว่า ไม่สามารถออกเป็น พ.ร.ก.กู้เงิน เหมือนกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่นำมาใช้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ได้ เพราะปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศไม่ได้เกิดวิกฤติเหมือนคราวนั้น แต่เป็นภาวะปกติ ด้วยการออกเป็น พ.ร.บ. ไม่ใช่ พ.ร.ก. ทุกอย่างจึงดูคลายกังวลลง

พรรคร่วมรัฐบาล จึงอาจจะช่วยยกมือให้ง่ายขึ้น!

แต่ทั้งนี้ การเข้าสภา ถือว่ามีความเสี่ยงเหมือนกัน เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ กฎหมายฉบับนี้เป็นกฎหมายที่เสนอโดยรัฐบาล และเป็นกฎหมายการเงิน หากไม่ผ่านสภาขึ้นมา ไม่ใช่แค่โครงการดิจิทัลวอลเล็ตแท้งกลางทางเท่านั้น แต่ตัว เศรษฐา จะปิ๋วด้วย

เพราะตามธรรมเนียมแล้ว กฎหมายที่รัฐบาลเสนอ หากไม่ผ่านสภาต้องแสดงความรับผิดชอบ ทั้งการลาออก หรือยุบสภา

ถึงวันนั้นใครจะรู้ว่า สถานการณ์ในพรรคร่วมรัฐบาล และตัวนายกฯเอง มันอาจไม่ได้เป็นเหมือนวันนี้ ถือว่าได้หวาดเสียวเหมือนกัน

ดังนั้น เรื่องนี้ต้องคุยกันก่อน เศรษฐา แถลงรายละเอียดโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท แน่ เพราะไม่เช่นนั้นจะเหมือนมัดมือชกพรรคร่วมรัฐบาล

ฉะนั้น วงดินเนอร์วันนั้นหลักๆ น่าจะเรื่องนี้

ขณะเดียวกัน แรงต้านอาจจะน้อยลงไป โดยเฉพาะการไม่มองข้ามกลไกที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เคยใช้ในช่วงประเทศเผชิญวิกฤติ นั่นคือ แอปพลิเคชั่น เป๋าตัง ที่รัฐบาลเศรษฐา จะนำมาต่อยอดและพัฒนาให้ครอบคลุมมากขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นการลดแรงต้านจากฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเก่า

อย่างน้อยก็ไม่มองข้ามคุณูปการที่รัฐบาลลุงตู่ทำไว้!

รูปแบบของโครงการก็มีลักษณะแทบจะคล้ายกัน ต่างกันแค่วงเงิน และรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ จุดที่น่าสนใจคือ รายละเอียดของโครงการ จะเห็นว่า เป็นการนำข้อท้วงติงของเหล่านักวิชาการ นักกฎหมาย ที่เคยค้านๆ กันไว้ ทั้งเรื่องแหล่งที่มาของงบประมาณ การออก พ.ร.ก. ตลอดจนผู้ที่มีสิทธิจะได้ มาปรับปรุงรายละเอียดทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีปัญหา

อย่างการเปลี่ยนจากการออก พ.ร.ก.มาเป็น พ.ร.บ.แทน แม้จะใช้เวลาไปสักนิด แต่ชัวร์กว่าในแง่กฎหมาย การไม่หว่านแหให้ทุกคน ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาล ซึ่งถูกเตือนเอาไว้เยอะว่าจะเกิดความเสียหาย ก็ทำให้ลดทอนไปเยอะ หลังถูกติงว่า ควรจะให้เฉพาะผู้มีรายได้น้อย และไม่ควรให้คนรวย

ซึ่งสูตรเพดานเงินในบัญชีไม่เกิน 5 แสนเท่านั้นที่จะได้ ก็เป็นเพดานเดียวกับสมัยรัฐบาลบิ๊กตู่ เคยเยียวยาประชาชนในช่วงโควิด-19 มาแล้ว ถือว่าแรงเสียดทานบางส่วนหายไป แม้จะยังเหลืออยู่ก็ตาม

อย่างไรก็ดี ผลทางการเมืองสิ่งที่น่าสนมตเพราะหลังจากนี้คือ อำนาจต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลที่สูงขึ้นแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทยต้องการเสียงสนับสนุนในการทำให้ พ.ร.บ.กู้เงินผ่าน 3 วาระรวด

ในเมื่อพรรคร่วมรัฐบาลสนับสนุนแล้ว แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคเพื่อไทย ก็ต้องมีอะไรไปแลกเปลี่ยน เพราะของฟรีไม่มีในโลก

หากพรรคร่วมรัฐบาลต้องการอยากจะขออะไร เศรษฐา ก็จำเป็นต้องไฟเขียว หรือให้ จะขวาง หรือไม่อนุมัติก็ลำบาก เพราะยังต้องพึ่งเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลเหล่านี้

ซึ่งช่วงระหว่างพิจารณาเกิดไปขัดใจพรรคร่วมรัฐบาล หรือมีปัญหาอะไรไปกระทบกระทั่งขึ้นมา แล้วพรรคร่วมงอแง อาจจะเจอรายการป่วน หรือสร้างอำนาจต่อรองได้

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะต้องมีการนัดดินเนอร์กันเรื่อยๆ หลังจากนี้

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น