“เศรษฐา” ออกตัวไม่ชำนาญการเมือง บอกวงดินเนอร์ถอดหมวกนายกฯ รับฟังคำแนะนำ ตักเตือน น้อมรับปรับตัว หลัง “ภูมิธรรม” หยอดนายกฯพูดตรง เสิร์ฟหมูฮ่องกง-บะหมี่ปั้นมือ ยันไม่มีต่อรองขอนโยบายใดๆ เชื่อ ทุกพรรคลงเรือลำเดียว ทำงานยกระดับความเป็นอยู่ ปชช. “อุ๊งอิ๊ง” ร่วมวงไม่มีนัย
วันนี้ (9 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงการร่วมรับประทานอาหารค่ำกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พ.ย. ว่า จุดประสงค์ที่นัดทานข้าวกัน เนื่องจากได้บริหารงานมา 2 เดือน ถือเป็นรัฐบาลที่มีพรรคร่วมหลายพรรค และเราได้มีการเจอกันประจำอยู่แล้วในเวทีที่เป็นทางการ ที่ต้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทุกสัปดาห์ในวันอังคาร นอกจากนั้นยังมีการประชุมวงเล็กซึ่งได้มีการพบปะเจอกันบ้างในลักษณะที่เป็นทางการมากกว่า
“ผมในฐานะที่เพิ่งเข้าสู่การเมืองและไม่เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน และวันนี้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งผมเองไม่มีความชำนาญในการที่จะใช้เวทีที่เป็นเวทีทางการมากนักเท่ากับพี่ๆ น้องๆ หลายท่านที่เข้าไปอยู่ในการทานอาหารค่ำด้วยกัน ผมก็ถอดหมวกความเป็นนายกฯ มาเป็นพี่ เช่น นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หรือ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นน้องและมีวัยวุฒิน้อยกว่า พล.อ.ต.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ และ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ก็ได้มีการพูดคุยกันว่า ในรัฐบาลก่อนๆ ที่หลายท่านเคยดำรงตำแหน่งมาหลายรัฐบาลมาก และจากรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่เวลานานมานี้ได้พัฒนาไปอย่างไร วิธีการดำเนินการประชุม วิธีการพูดคุย วิธีการบริหารราชการแผ่นดิน แต่ละคนก็มีข้อแนะนำกันมา ซึ่งผมก็น้อมรับไปปฏิบัติ มันเป็นการพูดคุยที่เป็นกันเองและบรรยากาศที่สบายๆ จากการที่เราได้มาทานอาหารอร่อยๆ ซึ่งมีหมูแดงสไตล์ฮ่องกง ซึ่งทุกท่านชอบและบะหมี่ที่ใช้มือปั้นเองมาโชว์ให้ดู ก็อยู่กันถึง 4 ทุ่มกว่า ถือเป็นระยะเวลาที่ยาวนานที่ได้พูดคุยกันอย่างสบายๆ” นายกฯ กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวด้วยว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องที่หนักๆ มาก เช่น เศรษฐกิจหรือะไรไม่มี แต่เป็นเรื่องของวิธีการทำงานและพรรคร่วมรัฐบาลมากกว่า ตรงนี้มีการพูดคุยตักเตือน ตนก็แสดงตัวตนว่าเป็นคนอย่างไร อธิบายให้พี่ๆ น้องๆ ฟังว่าสไตล์การบริหารเป็นอย่างไรบ้าง มีหลายคนหลายท่านได้พูดคุยแนะนำว่าควรทำอย่างไรบ้าง เช่น นายภูมิธรรม เป็นคนที่มีพรรษาทางการเมืองเยอะ มีวัยวุฒิสูง และเป็นคนที่ตนให้ความเคารพในพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ท่านก็ได้อธิบายให้ฟังถึงวิธีการทำงานของตนอย่างไรให้กับรัฐมนตรีท่านอื่น และหยอดมาเรื่องการสอนให้ปรับปรุงตัวเองด้วย เพราะท่านนายกฯ เป็นคนพูดตรง ตรงนี้ก็อาจจะต้องนำไปปรับปรุงบ้าง เพื่อให้ไปถึงจุดมุ่งหมายที่มันดีเหมือนๆกัน แต่อาจจะมีหลายวิธีก็น้อมรับไปปฏิบัติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลได้มีคำแนะนำอะไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่มีอะไรก็พูดคุยกันธรรมดา ซึ่งเราต้องอยู่ด้วยกันมีอะไรก็พูดคุยกันได้ ก็แนะนำว่าอยากให้มีการเจอกันบ่อยขึ้นโดยการสลับกันเป็นเจ้าภาพ ซึ่งคราวหน้าจะเป็นนายอนุทิน ขณะที่นายวราวุธ บอกว่าอย่าไปจัดไกลถึงเขาใหญ่เอาแถวๆนี้ก็พอ ก็บรรยากาศดีไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่ได้มีการพูดคุยหรือต่อรองหรือขอนโยบายอะไรมา ไม่มี
เมื่อถามว่า จะมีการนัดพบพูดคุยระดับย่อยๆ ลงมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่เห็นสมควร ก็ไม่ได้จำกัดว่าจะเป็นหัวหน้าพรรคหรือเลขาฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย ซึ่งท่านเองก็มีความสนิทสนมกับหลายๆท่านตรงนั้นในฐานะที่เป็นนายกฯน้อยก็น่าจะเข้ามามีส่วนช่วยเหลือประสานงานกับพรรคร่วมรัฐบาลและรองนายกรัฐมนตรีท่านอื่นได้ดีขึ้น
เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นหัวหน้ารัฐนาวาได้ขอความร่วมมืออะไรจากพรรคร่วมรัฐบาลเป็นพิเศษหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่ได้มีเลย เพราะตนเชื่อว่าทุกท่านรู้หน้าที่ดีอยู่แล้วว่าเรามาร่วมเรือลำเดียวกัน เรามาช่วยกัน เรามาที่นี่ เรามาเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าทุกท่านรู้หน้าที่กันเองอยู่ ส่วนท่านอื่นอาจจะมีการคุยกันเรื่องเฉพาะเจาะจง ก็คงมีการไปคุยกันวงอื่นเวทีอื่น แต่เวทีนี้เป็นการไปพบปะสังสรรค์กันมากกว่า
เมื่อถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไปร่วมด้วยเหมือนเป็นการสอนงานทางการเมืองไปในตัวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เพราะ น.ส.แพทองธาร เองมีความคุ้นเคยกับหลายๆท่านอยู่แล้ว และบางครั้งก็จะเห็นคุณอุ๊งอิ๊งเดินตามอดีตนายกฯมานานแล้ว ไม่ได้มีนัยอะไร