xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวลึกลึกปม : คิกออฟแก้ปัญหาหนี้ พิสูจน์ฝีมือ ‘เศรษฐา’ ลบครหา ‘กู้เงินมาแจก’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1 และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันอังคารที่ 28 พฤจิกายน 2566 ตอน คิกออฟแก้ปัญหาหนี้ พิสูจน์ฝีมือ ‘เศรษฐา’ ลบครหา ‘กู้เงินมาแจก’



หากจะบอกว่าตัวเลขเศรษฐกิจตัวใดที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คงหนีไม่พ้นตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือน โดยสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยตัวเลขล่าสุดว่า หนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 ปี 2566 มีมูลค่ามากถึง 16.07 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสัดส่วนหนี้สินครัวเรือนต่อ GDP คิดเป็นอยู่ที่ 90.6%

ที่สำคัญ สภาพัฒน์ แสดงท่าทีเป็นห่วงเรื่องความเสี่ยงการติดกับดักหนี้ของเกษตรกรไทยจากมาตรการพักหนี้ ซึ่งผลการศึกษาถึงผลกระทบของมาตรการพักหนี้เกษตรกร พบว่าไม่สามารถลดหนี้ของเกษตรกร และเกษตรกรที่เข้าร่วมมักมีการก่อหนี้เพิ่ม เนื่องจากรายได้จากการทำการเกษตรยังไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ดังนั้น ต้องยกระดับรายได้ควบคู่กับการดำเนินมาตรการ

ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนนั้น ถือว่าเป็นปัจจัยที่ฉุดรั้งการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยพอสมควร เพราะยิ่งตัวเลขหนี้สินภาคครัวเรือนสูงมากเท่าไหร ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่ากำลังซื้อของคนในประเทศถดถอยมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในภาพรวมอย่างแน่นอน

ตัวเลขหนี้ครัวเรือนจำนวนมหาศาลขนาดนี้ ไม่ต่างอะไรกับเป็นสัญญาณเตือนอันหนึ่งที่กำลังแสดงให้เห็นว่า ต่อให้รัฐบาลจะสามารถผลักดันกฎหมายกู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อนำมาแจกตามนโยบายเงินดิจิทัลได้เป็นผลสำเร็จ ก็ไม่อาจทำให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลตั้งความหวังได้ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลให้รัฐบาลต้องออกนโยบายแก้ปัญหาหนี้สิน ประหนึ่งเป็นวาระแห่งชาติที่สำคัญ

ล่าสุด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงแนวทางของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเริ่มคิกออฟจากหนี้นอกระบบว่า เบื้องต้นรัฐบาลประเมินว่ามีหนี้นอกระบบประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้เศรษฐกิจไม่อาจเติบโตได้

โดยรัฐบาลจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้นอกระบบ เพื่อให้เกิดการทำสัญญาที่ถูกต้องและเป็นธรรม ภายหลังจากสิ้นสุดขั้นตอนการไกล่เกลี่ยแล้วจะเข้าสู่การปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชนต่อไป

ต้องยอมรับว่าท่าทีของนายกฯเศรษฐาต่อปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนไม่ว่าจะเป็นทั้งหนี้ในระบบบหรือหนี้นอกระบบนั้น ค่อนข้างขึงขังพอสมควร เพราะรัฐบาลมองว่าหากปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังต่อไป ไม่ใช่แค่เพียงประชาชนในฐานะลูกหนี้เท่านั้นที่เดือดร้อน แต่รัฐบาลเองก็ไม่อาจยืนอยู่ได้ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจที่วิกฤติลุกลามถึงระดับรากขนาดนี้ได้เช่นกัน

ที่ผ่านมา นับตั้งแต่นายเศรษฐาประกาศว่าจะเดินหน้าออกกฎหมายกู้เงิน 5 แสนล้านบาทเพื่อมาแจกให้กับประชาชน ปรากฏว่าถูกค่อนขอดในทางการเมืองพอสมควร เพราะในอดีตที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคการเมืองแถวหน้าที่ออกมาโจมตีนโยบายกู้เงินของรัฐบาลแต่ละสมัย ดังเช่น ที่เคยออกมาถล่มรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าเป็นรัฐบาลที่เก่งแค่การกู้เงินแต่บริหารไม่เป็น

ทว่าพอมาถึงวันที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศเดินหน้ากู้เงินจำนวนมหาศาลมาแจกให้คนในประเทศ จึงทำให้ถูกย้อนศรในทำนองว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง

ดังนั้น การประกาศเดินหน้าแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนทั้งระบบ จึงเป็นความพยายมที่ต้องพิสูจน์ฝีมือการทำงานของอดีตซีอีโอธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ว่ายังมีดีพอที่จะบริหารประเทศต่อไป จนอยู่ครบวาระ

--------------------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android

สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )

ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1


กำลังโหลดความคิดเห็น