xs
xsm
sm
md
lg

8 ตร.อรัญฯ คดี “ลุงเปี๊ยก” รับทราบข้อหา พ.ร.บ.อุ้มหาย-ม.157

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



MGR Online - ดีเอสไอ แจ้งข้อหา 8 ตร.อรัญประเทศ คดีอุ้มหายลุงเปี๊ยก” เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อหา ขอให้การเป็นลายลักษณ์อักษร วันที่ 27 พ.ค. อีกครั้ง

วันนี้ (9 พ.ค.) เวลา 10.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จำนวน 8 ราย ผู้ต้องหาคดีพิเศษที่ 9/2567 กรณี นายปัญญา คงแสนคำ หรือ “ลุงเปี๊ยก” ที่ถูกข่มขู่บังคับเพื่อให้รับสารภาพคดีการเสียชีวิตของป้าบัวผัน ซึ่งพฤติการณ์เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 (พ.ร.บ.อุ้มหายฯ) เดินทางเข้าพบ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน พร้อมด้วย นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน และ ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เลขานุการรองอัยการสูงสุด (นายอดิศร ไชยคุปต์) เพื่อเข้ามาสอบปากคำและเเจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 และ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ม.6 ว่าด้วยการกระทำย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมโหดร้าย, ม.7 ว่าด้วยการอุ้มหายหรือการกระทำที่มีการปกปิดชะตากรรม

ต่อมา เวลา 12.00 น. นายวัชรินทร์ กล่าวว่า เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 8 ราย ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอทำหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร จึงกำหนดนัดหมายเดินทางมาด้วยตัวเองพร้อมกับทนาย อีกครั้งในวันที่ 27 พ.ค.นี้ และไม่มีการขยายกรอบระยะเวลา โดยจะมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม แต่หากไม่มาจะถือว่าสละสิทธิ์ยื่นพยานหลักฐานใหม่ จากนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนร่วมกับพนักงานอัยการ จะดำเนินการพิจารณาพยานหลักฐานว่าฟังขึ้นหรือไม่ สามารถหักล้างหลักฐานที่มีอยู่ในสำนวนหรือไม่ ก่อนมีความเห็นทางคดีสมควรสั่งฟ้องหรือไม่สั่งฟ้อง ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย และจะเร่งสรุปสำนวนคดี ส่งสำนวนให้อธิบดีอัยการ สำนักงานปราบปรามการทุจริตภาค 2 ให้เสร็จภายในเดือน มิ.ย.นี้

นายวัชรินทร์ กล่าวอีกว่า ยืนยันกรณีตำรวจทั้งหมด 8 ราย มีพยานหลักฐานครบถ้วน สามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้ทั้งหมด เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด พยานแวดล้อม รวมถึงคำให้การจากลุงเปี๊ยกปรากฏชัดเจนว่าอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย อย่างไรก็ตาม ในเชิงพฤติการณ์อย่างละเอียดไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนคดี

นายวัชรินทร์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ไม่แจ้งข้อหาผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ตาม ม.157 และ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ มาตรา 42 ว่า ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทำความผิดและไม่ระงับยับยั้งหรือป้องกันการกระทำผิดทั้งที่รู้แต่แรก หรือรับทราบแล้วแต่ไม่ดำเนินคดี ซึ่งจากการพิจารณาทราบว่าได้รับรายงานในภายหลัง และได้สั่งการให้ดำเนินการสั่งการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยและการทำความผิดของนายตำรวจผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทันที จึงถือว่าไม่มีความผิดแต่อย่างใด

“ส่วนก่อนหน้านี้ มีผู้ถูกกล่าวหา 9 ราย แต่แจ้งข้อหา 8 รายนั้น เป็นพนักงานสอบสวน สภ.อรัญประเทศ เนื่องจากมีพยานหลักฐานมาแสดงความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่กระบวนการทำผิดนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่การควบคุมตัวลุงเปี๊ยกจนถึงขั้นตอนการนำตัวมาที่ห้องสืบสวน ซึ่งทั้งหมดได้กระทำการที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหาย แล้วเสร็จทั้งหมดก่อนนำตัวลุงเปี๊ยกมาส่งพนักงานสอบสวน”

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อรัญประเทศ จำนวน 8 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันทร์ตรา ผกก.สภ.อรัญประเทศ, พ.ต.ท.พิชิต วัฒโน รอง ผกก.สส.สภ.อรัญประเทศ, พ.ต.ท.นิติธร พิมพ์คำ สว.สส.สภ.อรัญประเทศ, ร.ต.อ.พงศภัค พลแสน รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ, ร.ต.อ.พชร บุญอินราทากูร รอง สว.สส.สภ.อรัญประเทศ, ดาบตำรวจ ภิเศก พวงมาลีประดับ หรือ ดาบเศก ผบ.หมู่งานสืบสวน สภ.อรัญประเทศ, จ.ส.ต.ทวีศักดิ์ พูนสะสมทรัพย์ และ ส.ต.อ.ชัยศิริ สุรโฆษิต


กำลังโหลดความคิดเห็น