คณะทำงานอัยการและตำรวจประชุมคดีเป้รักผู้การ อดีต ผบก.ชลบุรี ร่วมกับพวกพลเรือน รีดทรัพย์เครือข่ายพนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ได้ข้อสรุปเอาผิดตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพิ่มอีกข้อหา
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) คณะพนักงานสอบสวนในคดีที่เจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน พร้อมด้วย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ประชุมร่วมกับคณะทำงานอัยการเเละตำรวจ จากกรณีผู้เสียหาย 6 ราย แจ้งความที่ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เพื่อให้ดำเนินคดีกับ อดีต ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมพวกรวม 10 คน เรียกรับเงินกว่า 140 ล้านบาท เป็นที่มาของวลีเด็ดว่า “เป้รักผู้การเท่าไหร่…เป้เขียนมา” ซึ่ง โดยผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 6 ชั่วโมง
โดยนายวัชรินทร์ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้งหมด 17 นาย รวมถึง พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพลเรือนที่ร่วมกับตำรวจทั้ง 17 นาย กระทำความผิดในฐานดังกล่าวอีก 4 คน นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมอีก 1 ราย เนื่องจากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 12-13 ก.พ.นี้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีก่อนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งระหว่างนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์อ้างพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีได้ เนื่องจากกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นการเริ่มต้นสืบสวนคดีเพราะมีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดจริง แต่ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง
ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้ดำเนินการสอบสวนพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว 136 ปาก และยืนยันจะดำเนินการสรุปสำนวนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภายใน 60- 90 วัน ตามกรอบที่วางไว้แต่เดิมอย่างแน่นอน
สำหรับ พล.ต.ต.กัมพล ก่อนหน้านี้ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 157 ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, มาตรา 149 เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำหรือไม่กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติมในวันนี้