อัยการ-ตำรวจ เร่งทำสำนวนคดีรีดเงิน 140 ล้าน 'เป้รักผู้การเท่าไหร่' ยันไม่ล่าช้ารู้แน่ใครถูกแจ้งข้อกล่าวหาบ้าง 25 ม.ค.นี้
วันนี้ (5 ม.ค.) ที่ ห้องประชุม ชั้น 6 สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานการสอบสวน ถนนบรมราชชนนี คณะพนักงานสอบสวนคดีตำรวจเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท นำโดยนายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน พร้อมด้วยพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ แทน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่เปลี่ยนไปรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงแทนด้านการสืบสวน พร้อมด้วยรองหัวหน้าพนักงานสอบสวน อาทิ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6
ซึ่งพล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังประชุมว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากและมีการสอบปากคำพยานเพิ่มเติมอีกหลายราย ซึ่งเป็นพยานชุดเดิมที่ก่อนหน้านี้ได้มีการเข้ามาร้องขอความเป็นธรรม และต้องจะสรุปสำนวนส่งอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภายในไม่เกิน 60 หรือ 90 วันหลังจากนี้ พร้อมยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการล่าช้า ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนชุดนี้ถือว่าทำงานเร็วที่สุดแล้ว
นายภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า อัยการมีหน้าที่เข้ามากำกับและตรวจสอบสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากคดีดังกล่าวเข้าข่ายพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและทำให้บุคคลสูญหายฯ (พ.ร.บ.อุ้มหาย) เพื่อให้สำนวนมีความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจากการหารือในวันนี้ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ในวันที่ 25 มกราคมนี้ คณะพนักงานสอบสวนในคดีจะมีการประชุมที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคหนึ่งเวลา 09:00 น. เพื่อพิจารณาการแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.อุ้มหายฯ และดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่และพลเรือนเพิ่มเติม จากนั้นพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในภายหลัง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยว่า มีผู้ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา เพิ่มอีกกี่รายและจะเป็นกลุ่มใดบ้าง เมื่อมีความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทางพนักงานสอบสวนก็จะสรุปสำนวนเพื่อส่งสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตต่อไป
ยืนยันว่าการสรุปสำนวนคดีในครั้งนี้ไม่ได้ล่าช้าเนื่องจากที่ผ่านมาติดเงื่อนไขหลายอย่าง และคณะพนักงานสอบสวนชุดใหม่ที่มีพลตำรวจโทอัคราเดชเป็นหัวหน้าชุดก็มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนชุดใหญ่ก็มาดูแลอย่างรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะที่สำนวนการสอบสวนจากพนักงานสอบสวนชุดแรกที่มีพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นหัวหน้าคณะฯก็ได้มีการสอบปากคำ ทุกฝ่ายทั้งผู้เสียหายและผู้ที่มาร้องขอความเป็นธรรมอย่างรอบด้าน ซึ่งการดำเนินการของคณะพนักงานสอบสวนไม่ได้มุ่งเอาผิดใคร แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเป็นธรรมเนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาเป็นนายตำรวจระดับสูงระดับนายพล