xs
xsm
sm
md
lg

“วัชรินทร์” รองโฆษกอัยการ เผย “ลุงเปี๊ยก” อาการดีขึ้น ให้การได้แล้ว นัดดีเอสไอถกคดี 1 มี.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“วัชรินทร์” รองโฆษกอัยการ เผย “ลุงเปี๊ยก” อาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้การได้แล้ว ขณะที่คณะทำงานฯ นัดดีเอสไอถกคดี 1 มี.ค.นี้ พร้อมเร่งตรวจสอบข่าว รองอัยการสูงสุดอนาจารเจ้าหน้าที่หญิงของสำนักงานอัยการ

วันนี้ (27 ก.พ.) นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงถึงความคืบหน้าคดี “ลุงเปี๊ยก” ว่า คดีนี้มี 2 ประเด็นต้องพิจารณา คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการแจ้งควบคุมตัวตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมาน และมีการแจ้งการจับกุม โดยถ่ายภาพและวิดิโอหรือไม่ ประเด็นที่ 2 คือ การกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำตัวลุงเปี๊ยกมาสอบสวนโดยการสวมถุงดำและเปิดแอร์ให้หนาว เข้าข่าย พ.ร.บ.ซ้อมทรมานหรือไม่ ซึ่งกรณีนี้ญาติลุงเปี๊ยกได้มีการร้องทุกข์ไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จึงถือเป็นคดีพิเศษทันที จากนั้นดีเอสไอมีหนังสือแจ้งให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวนทราบ เพื่อเข้าตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนตามมาตรา 31 โดยอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ได้เสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา

ต่อมาอัยการสูงสุดพิจารณาแล้วมอบให้ดีเอสไอ ซึ่งรับสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายแล้ว โดยได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานอัยการไปตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตามมาตรา 31 จึงมีคำสั่งให้แต่งตั้งคณะทำงานกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวน เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 2567 ให้ตนเป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีพนักงานอัยการในคณะ รวม 9 คน จึงถือว่าคดีดังกล่าวเข้าข่ายตาม พ.ร.บ.ซ้อมทรมานแล้ว ซึ่งคณะทำงานนัดดีเอสไอประชุมเรื่องนี้วันที่ 1 มี.ค. เวลา 13.30 น. หากการพิจารณาเห็นว่าต้องดำเนินคดี ก็จะต้องทำความเห็นส่งให้อัยการสำนักงานปรามปรามทุจริต ภาค 2 เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2

ทั้งนี้ การกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวนไม่ใช่การร่วมสอบสวน ดังเช่นการร่วมสอบสวนคดีพิเศษ หรือร่วมสอบสวนในคดีความผิดนอกราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 แต่อย่างใด หากแต่การกำกับหรือตรวจสอบการสอบสวนนั้นเสมือนเข้าเป็นผู้ควบคุมคดีและกำกับตรวจสอบตั้งแต่เริ่มคดีจนสรุปสำนวนการสอบสวนและพนักงานสอบสวนมีความเห็นทางคดี

เมื่อถามว่า ลุงเปี๊ยกอยู่ระหว่างรักษาอาการติดเหล้า สามารถให้การได้แล้วหรือไม่

นายวัชรินทร์ กล่าววา ขณะนี้ลุงเปี๊ยกอาการดีขึ้นแล้ว แพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า ลุงเปี๊ยกสามารถให้ข้อมูลได้ และดีเอสไอก็เข้าไปสอบปากคำแล้ว คิดไม่คดีนี้น่าจะไม่ช้า เพราะดีเอสไอ สอบสวนไปพอสมควรแล้ว

นอกจากนี้ นายวัชรินทร์ ภานุรัตน์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีมีข่าวรองอัยการสูงสุด อนาจารเจ้าหน้าที่หญิงของสำนักงานอัยการ ว่า เรื่องนี้เราทราบจากรายการข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อมวลชน โดยทราบเพียงว่าผู้ถูกกล่าวหาคือรองอัยการสูงสุด แต่ไม่ได้กำหนดชื่อ ไม่บอกว่าเป็นไคร อีกทั้งทางสำนักงานอัยการสูงสุดยังไม่ได้รับรายงานจากผู้เสียหาย จึงต้องตรวจสอบก่อนว่า รองอัยการสูงสุดคนดังกล่าวเป็นใคร

เมื่อถามว่า ผู้ถูกกล่าวหามีอำนาจในการโยกย้ายแต่งตั้ง นายวัชรินทร์ กล่าวว่า ตามกระแสข่าวเป็นเช่นนั้น ต้องตรวจสอบว่ารองอัยการสูงสุดเป็นใคร ใช่รองอัยการสูงสุดจริงไหม เพราะต้องยอมรับว่าเราเพิ่งทราบข่าวจากสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม โดยปกติการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายก็ทำตามรูปแบบของอนุกรรมการ และคณะกรรมการ กอ.ชุดใหญ่พิจารณาอยู่แล้ว

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่ สภ.ท่าฉัตรไชย อ.ถลาง มีหญิงสาวอายุ 37 ปี ซึ่งเป็นข้าราชการอัยการระดับรองอัยการจังหวัด ได้เข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 19 ก.พ.2567 เวลาประมาณ 19.00 น. ตนเเละข้าราชการอัยการระดับรองอัยการสูงสุดท่านหนึ่งได้รับประทานอาหาร ที่ร้านโฮคิทเช่น ซีฟู้ด สาขาเหม่งจำย ถนนประชาอุทิศ-เหม่งจำย เขตวังทองหลาง แขวงวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ต่อมาข้าราชการอัยการระดับสูงคนดังกล่าวได้เดินเข้ากอดที่ร่างกาย ของผู้แจ้งความโดยไม่ใด้รับความยินยอม จากนั้นข้าราชการอัยการระดับสูงผู้นั้น พยายามซักชวนให้ผู้แจ้งดื่มไวน์ที่เตรียมมา และชักชวนให้ไปที่บ้านของข้าราชอัยการระดับสูงคนนั้น ซึ่งอยู่ที่บริเวณซอยรามคำแหง เพื่อให้ไปดูว่าบ้านที่สร้างใหม่มีสภาพอย่างไร ซึ่งผู้แจ้งความได้บ่ายเบี่ยงและปฏิเสธเรื่อยมา กระทั่งเวลาประมาณ 20.40 น. เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ คนผู้นั้นยืนกรานให้ผู้เเจ้งความไปเยี่ยมชมบ้าน โดยให้นั่งโดยสารรถยนต์ไปด้วยกัน ด้วยความที่บุคคลผู้นั้นเป็นผู้ที่มีตำแหน่งสูงในองค์กร ตนจึงไม่อาจปฏิเสธได้ จึงยอมขึ้นรถไป ปรากฏว่า เมื่อขึ้นไปนั่งบนรถยนต์แล้ว ข้าราชการอัยการระดับสูงคนดังกล่าวได้เอื้อมมือมาโอบกอดผู้แจ้งพร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของผู้แจ้งความ แล้วบอกว่า ขอหอมแก้มหน่อย ผู้แจ้งความไม่ยินยอมจึงใช้มือปัดออก แล้วบอกปฏิเสธไมให้ทำ เป็นเหตุให้บุคคลดังกล่าวไม่พอใจ และไล่ให้ลงจากรถในทันที เมื่อลงจากรถยนต์ อัยการระดับสูงจึงขับรถยนตฺออกจากร้านไปในทันที

จากกรณีดังกล่าวทำให้ข้าราชอัยการระดับสูงคนดังกล่าวไม่พอใจ จึงอภิปรายในที่ประชุมกล่าวหาว่าผู้เเจ้งความมีประวัติเรียกรับเงิน ซึ่งไม่เป็นความจริงเพราะไม่เคยมีประวัติและผู้บังคับบัญชาที่จังหวัดที่ประจำอยู่ยืนยันได้หลายคนทำให้ตำเเหน่งไปลงที่สำนักงานคดียาเสพติดไม่ได้ลงสำนักงานอัยการจังหวัดเเห่งหนึ่งตามร้องขอหรือกระทั่งที่เดิมที่เคยอยู่ ซึ่งคิวลำดับถัดไป 1 คนคิวหลังกลับได้พิจารณาสำนักงานอัยการที่อัยการหญิงที่ถูกลวนลามไปแทน เป็นการจงใจแกล้งเพื่อให้เห็นชัดเจน
กำลังโหลดความคิดเห็น